-
สงครามรัสเซีย–ญี่ปุ่น
สงครามครั้งใหญ่ครั้งแรกในศตวรรษที่ 20 อันเนื่องมาจากลัทธิจักรวรรดินิยมของจักรวรรดิรัสเซียและจักรวรรดิญี่ปุ่น ในบริเวณทางใต้ของแมนจูเรียในพื้นที่คาบสมุทรเหลียวตง, เฉิ่นหยาง และบริเวณเกาหลีในพื้นที่คาบสมุทรเกาหลี, ทะเลเหลือง -
Period: to
สงครามรัสเซีย–ญี่ปุ่น
สงครามครั้งใหญ่ครั้งแรกในศตวรรษที่ 20 อันเนื่องมาจากลัทธิจักรวรรดินิยมของจักรวรรดิรัสเซียและจักรวรรดิญี่ปุ่น ในบริเวณทางใต้ของแมนจูเรียในพื้นที่คาบสมุทรเหลียวตง, เฉิ่นหยาง และบริเวณเกาหลีในพื้นที่คาบสมุทรเกาหลี, ทะเลเหลือง -
การปฏิวัติรัสเซีย ค.ศ. 1905
เป็นคลื่นแห่งความวุ่นวายทางการเมืองและสังคมในวงกว้างที่แผ่กระจายไปทั่วบริเวณกว้างใหญ่ไพศาลของจักรวรรดิรัสเซีย บางแห่งถูกกำกับที่รัฐบาล รวมถึงการนัดหยุดงานของคนงาน ความไม่สงบของชาวนา และการกบฏทางทหาร นำไปสู่การปฏิรูปรัฐธรรมนูญรวมทั้งการจัดตั้งสภาดูมา, ระบบหลายพรรค และการประกาศใช้รัฐธรรมนูญรัสเซียในปี 1906 -
Period: to
การปฏิวัติรัสเซีย ค.ศ. 1905
เป็นคลื่นแห่งความวุ่นวายทางการเมืองและสังคมในวงกว้างที่แผ่กระจายไปทั่วบริเวณกว้างใหญ่ไพศาลของจักรวรรดิรัสเซีย บางแห่งถูกกำกับที่รัฐบาล รวมถึงการนัดหยุดงานของคนงาน ความไม่สงบของชาวนา และการกบฏทางทหาร นำไปสู่การปฏิรูปรัฐธรรมนูญรวมทั้งการจัดตั้งสภาดูมา, ระบบหลายพรรค และการประกาศใช้รัฐธรรมนูญรัสเซียในปี 1906 -
1908 การปฏิวัติยานยนต์ ของเฮนรี่ ฟอร์ด
1 ตุลาคม ค.ศ. 1908 บริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ เปิดตัวรถยนต์ Model T ครั้งแรก ซึ่งเป็นความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของอุตสาหกรรมยานยนต์และกระบวนการผลิตในโรงงาน เพราะการผลิตรถยนต์รุ่นนี้ไม่ได้เน้นฝีมือมนุษย์อย่างเก่า แต่เน้นการใช้สายพานและเครื่องจักรผลิตชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่มีมาตรฐานเดียวกันคราวละหลาย ๆ ชิ้น มาประกอบเป็นรถยนต์อย่างเป็นระบบ ช่วยประหยัดเวลาและต้นทุนการผลิตมากขึ้น วิธีดังกล่าวจึงกลายเป็นต้นแบบการผลิตของโรงงานหลากหลายประเภทมาจนถึงปัจจุบัน -
29 ธันวาคม 1911 “ซุนยัตเซ็น” ได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดีชั่วคราวแห่งสาธารณรัฐจีน
วันที่ 29 ธันวาคม 1911 ดร.ซุนยัตเซ็น ได้รับเลือกเป็น ประธานาธิบดี ชั่วคราว ในวันที่ 1 เดือนมกราคมของปีถัดมา ดร.ซุนยัตเซ็นก็กล่าวคำปฏิญาณเข้ารับตำแหน่งที่เมืองหนานจิง และประกาศสถาปนารัฐบาลจีนชั่วคราวขึ้น เนื่องจากปีคริสต์ศักราชที่ 1911 ตรงกับปีซินไฮ่ในปฏิทินจันทรคติ จึงเรียกการปฏิวัติครั้งนี้ว่า “การปฏิวัติซินไฮ่” 12 กุมภาพันธ์ 1912 สิ้นสุดการปฏิวัติซินไฮ่ สงครามกลางเมืองจีนเปลี่ยนจีนกลายเป็นสาธารณรัฐ ก่อนจะล้มเหลวกลายเป็นยุคขุนศึก -
Period: to
29 ธันวาคม 1911 “ซุนยัตเซ็น” ได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดีชั่วคราวแห่งสาธารณรัฐ
วันที่ 29 ธันวาคม 1911 ดร.ซุนยัตเซ็น ได้รับเลือกเป็น ประธานาธิบดี ชั่วคราว ในวันที่ 1 เดือนมกราคมของปีถัดมา ดร.ซุนยัตเซ็นก็กล่าวคำปฏิญาณเข้ารับตำแหน่งที่เมืองหนานจิง และประกาศสถาปนารัฐบาลจีนชั่วคราวขึ้น เนื่องจากปีคริสต์ศักราชที่ 1911 ตรงกับปีซินไฮ่ในปฏิทินจันทรคติ จึงเรียกการปฏิวัติครั้งนี้ว่า “การปฏิวัติซินไฮ่” 12 กุมภาพันธ์ 1912 สิ้นสุดการปฏิวัติซินไฮ่ สงครามกลางเมืองจีนเปลี่ยนจีนกลายเป็นสาธารณรัฐ ก่อนจะล้มเหลวกลายเป็นยุคขุนศึก -
เรือไททาล่ม
15 เม.ย. เรือไททานิก ล่ม
(ค.ศ. 1912) เรือเดินสมุทร ไททานิก อับปางลงในมหาสมุทรแอตแลนติก หลังจากชนภูเขาน้ำแข็งเป็นเวลา 2 ชั่วโมง 40 นาที ระหว่างการเดินทางเที่ยวแรกจากเซาท์แทมป์ตัน สหราชอาณาจักร ไปนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา การจมของไททานิก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1,514 ราย -
“ฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์” แห่งออสเตรียถูกลอบปลงพระชนม์
ในวันที่ 28 มิถุนายน 1914 ระหว่างเสด็จพระดำเนินด้วยรถเปิดประทุนในกรุงซาราเยโวของบอสเนีย อาร์ชดยุคฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์ พร้อมด้วยพระชายาถูกลอบยิงสิ้นพระชนม์ ด้วยฝีมือของ กาฟริโล พรินซิป (Gavrilo Princip) ชาวบอสเนียเชื้อสายเซิร์บ สมาชิกกลุ่ม Mlada Bosna (หรือ Young Bosnia ขบวนการปฏิวัติของคนรุ่นใหม่ในบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา สมาชิกส่วนใหญ่เป็นชาวเซิร์บ) เป็นจุดชนวนของสงครามโลกครั้งที่1 -
สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
สงครามโลกที่กินเวลาตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม ค.ศ. 1914 ถึงวันที่ 11 พฤศจิกายน ค.ศ. 1918 ซึ่งเป็นความขัดแย้งกันระหว่างสองขั้วมหาอำนาจพันธมิตร ได้แก่ ฝ่ายสัมพันธมิตรและฝ่ายมหาอำนาจกลาง โดยการต่อสู้ของทั้งสองฝ่ายดำเนินขึ้นในทวีปยุโรป ตะวันออกกลาง แอฟริกา แปซิฟิก และพื้นที่บางส่วนของทวีปเอเชีย เป็นหนึ่งในสงครามที่มีความสูญเสียมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ด้วยจำนวนทหารที่เสียชีวิต 9 ล้านนาย และบาดเจ็บ 23 ล้านนาย รวมทั้งพลเรือนที่เสียชีวิตจากสาเหตุอื่นอีก 5 ล้านคน -
Period: to
สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
สงครามโลกที่กินเวลาตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม ค.ศ. 1914 ถึงวันที่ 11 พฤศจิกายน ค.ศ. 1918 ซึ่งเป็นความขัดแย้งกันระหว่างสองขั้วมหาอำนาจพันธมิตร ได้แก่ ฝ่ายสัมพันธมิตรและฝ่ายมหาอำนาจกลาง โดยการต่อสู้ของทั้งสองฝ่ายดำเนินขึ้นในทวีปยุโรป ตะวันออกกลาง แอฟริกา แปซิฟิก และพื้นที่บางส่วนของทวีปเอเชีย เป็นหนึ่งในสงครามที่มีความสูญเสียมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ด้วยจำนวนทหารที่เสียชีวิต 9 ล้านนาย และบาดเจ็บ 23 ล้านนาย รวมทั้งพลเรือนที่เสียชีวิตจากสาเหตุอื่นอีก 5 ล้านคน -
เรือ อาร์เอ็มเอส ลูซิเทเนีย อับปาง
เรือลูซิเทเนียอับปางในการเดินทางข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกครั้งที่ 202 ในวันที่ 7 พฤษภาคม ค.ศ. 1915 โดยเรือดำน้ำของเยอรมัน ห่างจากแหลมโอลด์เฮดออฟคินเซล ประเทศไอร์แลนด์ ไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ 11 ไมล์ (18 กิโลเมตร) ทำให้มีผู้โดยสาร ลูกเรือ และผู้ที่แอบขึ้นเรือเสียชีวิตจำนวน 1,197 คน[3] การอับปางเกิดขึ้นก่อนที่สหรัฐอเมริกาจะประกาศสงครามกับเยอรมนีประมาณ 2 ปี แต่เหตุการณ์ดังกล่าวได้เพิ่มการสนับสนุนจากประชาชนชาวอเมริกันภายในประเทศให้เข้าร่วมสงครามอย่างมีนัยสำคัญ -
การปฏิวัติรัสเซีย
การปฏิวัติค.ศ.1917เป็นช่วงเวลาของการปฏิวัติทางการเมืองและทางสังคม ที่เกิดขึ้นบนอดีตจักรวรรดิรัสเซียเดิม และเริ่มต้นขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่หนึ่งซึ่งเริ่มต้นใน ค.ศ.1917ด้วยการล่มสลายของราชวงศ์โรมานอฟ และสิ้นสุดลงใน ค.ศ. 1923 โดยการสถาปนาสหภาพโซเวียตโดยบอลเชวิค (เมื่อสงครามกลางเมืองรัสเซียสิ้นสุดลง)การปฏิวัติรัสเซียเกิดขึ้น2ครั้งคือการปฏิวัติครั้งแรกเป็นการล้มล้างรัฐบาลจักรวรรดิที่นำโดยจักรพรรดินีโคไลที่2และการปฏิวัติครั้งที่สองเป็นการล้มล้างอำนาจของรัฐบาลเฉพาะกาลและแทนที่ด้วยอำนาจของบอลเชวิค -
Period: to
การปฏิวัติรัสเซีย
การปฏิวัติค.ศ.1917เป็นช่วงเวลาของการปฏิวัติทางการเมืองและทางสังคม ที่เกิดขึ้นบนอดีตจักรวรรดิรัสเซียเดิม และเริ่มต้นขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่หนึ่งซึ่งเริ่มต้นใน ค.ศ.1917ด้วยการล่มสลายของราชวงศ์โรมานอฟ และสิ้นสุดลงใน ค.ศ. 1923 โดยการสถาปนาสหภาพโซเวียตโดยบอลเชวิค (เมื่อสงครามกลางเมืองรัสเซียสิ้นสุดลง)การปฏิวัติรัสเซียเกิดขึ้น2ครั้งคือการปฏิวัติครั้งแรกเป็นการล้มล้างรัฐบาลจักรวรรดิที่นำโดยจักรพรรดินีโคไลที่2และการปฏิวัติครั้งที่สองเป็นการล้มล้างอำนาจของรัฐบาลเฉพาะกาลและแทนที่ด้วยอำนาจของบอลเชวิค -
ยุติสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ยืดเยื้อยาวนานกว่า 4 ปี ในที่สุดเยอรมนี ในฐานะฝ่ายมหาอำนาจกลางได้ติดต่อฝ่ายสัมพันธมิตรเพื่อขอเจรจาสงบศึกในวันที่ 6 พฤศจิกายน 1918 จากนั้นทั้งสองฝ่ายจึงได้ลงนามในสัญญาสงบศึกบนรถไฟ ณ เมืองคองเปียน ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 1918 ดังนั้นชาวโลกจึงนับให้วันที่ 11 เดือน 11 ของทุกปีเป็นวันยุติสงครามโลกครั้งที่ 1 อย่างเป็นทางการ -
สนธิสัญญาแวร์ซาย
เป็นสนธิสัญญาสันติภาพฉบับสำคัญที่สุดที่ยุติสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง จัดทำขึ้นเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน ค.ศ. 1919 ณ พระราชวังแวร์ซาย กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นการยุติสถานะสงครามระหว่างฝ่ายสัมพันธมิตรและจักรวรรดิเยอรมัน ซึ่งเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ส่วนกลุ่มประเทศฝ่ายมหาอำนาจกลางอื่น ๆ มีการตกลงยกเลิกสถานภาพสงครามด้วยสนธิสัญญาฉบับอื่น แม้จะได้ลงนามสงบศึกตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน ค.ศ. 1918 แล้วก็ตาม การประชุมสันติภาพที่กรุงปารีสกินเวลานานกว่าหกเดือน จึงได้มีการสรุปสนธิสัญญาฯ -
ยุทธการณ์วอร์ซอ
ยุทธการที่วอร์ซอซึ่งเป็นการสู้รบตั้งแต่วันที่ 12-25 สิงหาคม ค.ศ. 1920 ในขณะที่กองทัพแดงซึ่งอยู่ภายใต้บังคับบัญชาการโดยมีคาอิล ตูคาเชฟสกี ได้เคลื่อนทัพเข้าใกล้สู่กรุงวอร์ซอ เมืองหลวงของโปแลนด์และป้อมปราการมอลลินที่อยู่ใกล้เคียง เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม กองทัพโปแลนด์ซึ่งอยู่ภายใต้บังคับบัญชาการโดยยูแซฟ ปิวซุดสกี ได้โจมตีตอบโต้กลับจากทางใต้ เข้าขัดขวางการรุกของข้าศึก ทำให้กองทัพรัสเซียต้องล่าถอยอย่างไม่เป็นระเบียบซึ่งไปทางตะวันออกและแนวหลังแม่น้ำเนมาน -
การสังหารหมู่คนผิวดำที่ทัลซา
ม็อบคนผิวขาวซึ่งส่วนใหญ่ได้รับมอบหมายและได้รับอาวุธจากเจ้าหน้าที่รัฐบาลของเมืองทัลซาเข้าโจมตีผู้อยู่อาศัยผิวดำและทำลายบ้านเรือนและธุรกิจของคนผิวดำในอำเภอกรีนวูดเมืองทัลซารัฐโอคลาโฮมาของสหรัฐ บางทีเรียกการจลาจลเหตุสีผิวที่ทัลซาเหตุการณ์เดี่ยวที่เลวร้ายที่สุดใสความรุนแรงเหตุสีผิวในสหรัฐการโจมตีมีจากทั้งภาคพื้นดินและจากเครื่องบินส่วนตัวส่งผลให้ย่านคนผิวดำพื้นที่กว่า35บล็อกถูกเผาและทำลายย่านคนผิวดำที่กรีนวูดนี้ในขณะนั้นเป็นย่านคนผิวดำที่ร่ำรวยที่สุดในสหรัฐจนเป็นที่รู้จักกันในชื่อวอลล์สตรีทของคนผิวดำ -
ครบรอบ 100 ปี สงครามกลางเมืองไอร์แลนด์ ความขัดแย้งบนเส้นทางสู่เอกราช
เหตุปะทะกันระหว่างกองกำลังของผู้ก่อตั้งสาธารณรัฐไอร์แลนด์สองฝ่าย ที่สำนักงานศาลยุติธรรมสูงสุด 4 ศาล หรือที่เรียกกันว่า Four Courts ในกรุงดับลิน ได้กลายเป็นการจุดชนวนเริ่มต้นสงครามกลางเมืองที่ยาวนานถึงหนึ่งปีเต็ม -
แผ่นดินไหวครั้งใหญ่คันโต
เป็นเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในรัชสมัยไทโชของญี่ปุ่น เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 กันยายน ค.ศ. 1923 ซึ่งตรงกับพุทธศักราช 2466 เวลา 11:58:44 น. ตามเวลาในท้องถิ่น บริเวณภาคคันโต บนเกาะฮนชู มีจุดศูนย์กลางอยู่ใต้ทะเล บริเวณเกาะอิซูโอชิมะ ในอ่าวซางามิ -
“เอมิเลีย เอียร์ฮาร์ท” นักบินหญิงคนแรกที่บินเดี่ยวข้ามมหาสมุทรแอตแลนติคสำเร็จ
"เอมิเลีย เอียร์ฮาร์ท"นักบินชาวอเมริกัน ผู้สร้างประวัติศาสตร์เป็นผู้หญิงคนแรกที่บินข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกด้วยตัวคนเดียวได้สำเร็จ ด้วยเครื่องบินใบพัดเครื่องยนต์เดี่ยว “ลอกฮีด เวกา” โดยออกบินจากท่าเรือเกรซ เมืองนิวฟาวด์แลนด์ ประเทศแคนนาดา มุ่งหน้าสู่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส แต่หลังจากที่บินมาได้ 14 ชั่วโมง 56 นาที เธอต้องพบกับสภาวะอากาศไม่ดีจึงต้องลงจอดกลางทุ่งหญ้าในเมือง Culmore ตอนเหนือของประเทศไอร์แลนด์ -
อดอล์ฟ ฮิตเลอร์
เป็นนักการเมืองชาวเยอรมันเชื้อชาติออสเตรีย หัวหน้าพรรคนาซี ฮิตเลอร์ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเยอรมนี ระหว่าง ค.ศ. 1933–1945 และเป็นฟือเรอร์ของเยอรมนี ตั้งแต่ ค.ศ. 1934–1945 ฮิตเลอร์เป็นผู้นำสูงสุดของไรช์เยอรมัน ผู้จุดชนวนสงครามโลกครั้งที่สองในทวีปยุโรป