-
7500 BCE
กลุ่มคนทะเลทรายเนเบียน
เลื่อนลงไปทางตอนใต้ของกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ ประมาณ 800 กิโลมตร ยังมีแหล่งอารยธรรมโบราณที่ตั้งอยู่กลางทะเลทรายนูเบียน ที่กล่าวกันว่าแหล่งอารยธรรมโบราณแห่งนี้มีอายุถึง 7,500 ปีก่อนคริสตกาล โดยในช่วงเวลานั้น เป็นยุคแรกที่มนุษย์ประสบความสำเร็จในเบื้องต้นสำหรับการปรับตัวให้เข้ากับข้อจำกัดของสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ โดยเป็นช่วงเวลาที่มนุษย์เริ่มต้นอยู่รวมกันเป็นหลักแหล่ง -
6000 BCE
อารยธรรมนอร์เตซีโก
อารยธรรมการัล-ซูเป หรืออารยธรรมนอร์เตซีโก คืออารยธรรมโบราณก่อนยุคโคลัมบัส โดยอารยธรรมแห่งนี้ตั้งอยู่ในหุบเขา 4 แห่งทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศเปรูเมื่อราว 6,000 ปีก่อน ชาวนอร์เตซีโกได้สร้างสถาปัตยกรรมที่ยิ่งใหญ่บนหุบเขา โดยสถาที่เหล่านี้ล้วนถูกสร้างเพื่อการทำพิธีกรรมบางอย่าง -
Period: 6000 BCE to 1200 BCE
อารยธรรมนอร์เตซีโก
-
3100 BCE
ยุคราชวงศ์เริ่มแรก
อยู่ในช่วง 3100-2686 ปีก่อนคริสตกาล โดยเริ่มตั้งแต่พระเจ้าเมเนส รวบรวมเมืองต่างๆ ได้ทั้งในอียิปต์ล้างและอียิปต์บนเข้าเป็นอาณาจักรเดียวกัน และเข้าสู่ราชวงศ์ที่ 1 และ 2 ยุคนี้เป็นยุคการสร้างอียิปต์ให้มีความเป็นปึกแผ่นเข็มแข็ง -
Period: 3100 BCE to 2686 BCE
ยุคราชวงศ์เริ่มแรก
-
2686 BCE
ยุคราชวงศ์เก่า
อยู่ในช่วง 2686-2181 ก่อนคริสตกาล โดยเริ่มจากราชวงศ์ที่ 3 อียิปต์ประสบความวุ่นวายทางการเมือง มีการย้ายเมืองหลวงไปตามเมืองต่างๆ แต่หลังจากนั้นก็มีราชวงศ์อียิปต์ปกครองต่อมาอีก 2 ราชวงศ์ คือ ราชวงษ์ที่ 9 และ 10 ในยุคนี้อียิปต์มีฟาโรห์ปกครองเริ่มตั้งแต่ราชวงศ์ที่ 3 ถึงราชวงศ์ที่ 6 ราชวงศ์ที่โดดเด่นในสมัยนี้คือ ราชวงศ์ที่ 4 ซึ่งมีการสร้างปิรามิดที่ยิ่งใหญ่มากมายโดยเฉพาะมหาปิรามิดของฟาโรห์คูฟูที่เมืองเซห์ ซึ่งสร้างขึ้นประมาณ 2,500 ปีก่อนคริสตกาล อียิปต์ในยุคนี้ถือว่าเป็นยุคที่รุ่งเรืองที่สุด -
Period: 2686 BCE to 2181 BCE
ยุคสมัยเก่า
-
2600 BCE
กลุ่มพีระแห่งกีซา
กลุ่มพีระมิดแห่งกีซา หรือ มหาสุสานกีซา เป็นสถานที่บนที่ราบสูงกีซาอันเป็นที่ตั้งของมหาพีระมิดแห่งกิซาทั้งสาม ได้แก่ พีระมิดคูฟู พีระมิดคาเฟร และพีระมิดเมนคูเร พร้อมกับสิ่งก่อสร้างอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น มหาสฟิงซ์ พีระมิดขนาดเล็กและสุสานหลายแห่ง รวมทั้งซากหมู่บ้านคนงาน ทั้งหมดสร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ที่สี่ของราชอาณาจักรเก่าของอียิปต์โบราณ ระหว่าง 2600 ถึง 2500 ปีก่อนคริสตกาล ตั้งอยู่ในกรุงเกรทเทอร์ไคโร ประเทศอียิปต์ ริมทะเลทรายตะวันตก -
Period: 2600 BCE to 2500 BCE
กลุ่มพีระแห่งกีซา
-
2558 BCE
มหาสฟิงซ์
สฟิงซ์เป็นมหาประติมากรรมที่เก่าแก่ที่สุดเท่าที่รู้จักในอียิปต์ และเป็นหนึ่งในรูปปั้นที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดในโลก หลักฐานทางโบราณคดีกล่าวแนะว่ารูปปั้นนี้สร้างขึ้นโดยชาวอียิปต์โบราณในราชอาณาจักรเก่าแห่งอียิปต์รัชสมัยฟาโรห์คาเฟร -
Period: 2558 BCE to 2532 BCE
มฟาสฟิงซ์
-
2500 BCE
ชาวปุนท์
ชาวอียิปต์โบราณได้เคยพูดถึงอารยธรรมโบราณ ที่เป็นคู่ค้ารายสำคัญของตนอย่างชาวปุนท์ (Punt) โดยมีหลักฐานว่าชาวอียิปต์ได้ติดต่อค้าขายกับชาวปุนท์มาตั้งแต่ 2,500 ปี ก่อนคริสตกาล ในยุคสมัยของฟาโรห์ซาฮูเร และพบหลักฐานการติดต่อกับชาวปุนท์ครั้งสุดท้ายเมื่อ 1,200 ปีก่อนคริสตกาล นั่นหมายความว่าชาวอียิปต์โบราณได้ติดต่อกับชาวปุนท์มานานกว่า 1,300 ปี เลยทีเดียว -
Period: 2500 BCE to 1200 BCE
ชาวปุนท์
-
2040 BCE
ยุคราชวงศ์กลาง
อยู่ในช่วง 2,040-1,782 ปีก่อนคริสตกาล ระหว่างราชวงศ์ที่ 11-13 ฟาโรห์ที่มีบทบาทในการสร้างความรุ่งเรืองให้กับอียิปต์ในยุคนี้คือ อเมนเนมเฮตที่หนึ่ง (Amenemhet I) จนเรียกได้ว่าเป็นยุคทองของอียิปต์ด้านเศรษฐกิจ สถาปัตยกรรม การสร้างคลองติดต่อไปถึงทะเลแดง การสร้างเขื่อนกั้นน้ำ วรรณคดีทั้งบทร้อยแก้วและร้อยกรอง ยุคนี้เป็นช่วงเดียวกันกับอารยธรรมบาบิโลนของพระเจ้าฮัมมูราบี แต่ความรุ่งเรืองของอียิปต์ก็หยุดชะงักลงจากการรุกรานของกลุ่มชนปศุสัตว์เร่ร่อนคือ พวกฮิกโซส (Hyksos) -
Period: 2040 BCE to 1782 BCE
ยุคราชวงศ์กลาง
-
1630 BCE
การรุกรานของคนต่างชาติ
ในช่วงเวลานี้ได้เกิดเหตุการณ์ใหญ่เกิดขึ้น นั่นคือการรุกรานของพวก ฮิกโซส (Hyksos) ซึ่งในฦาษาอียิปต์แปลว่า " กษัตริย์ต่างชาติ " ชนเผ่านี้อพยพมาจากทุ่งหญ้าในเอเชียและทำสงครามโค่นล้มราชวงศ์อียิปต์ พวกฮิกโซสมีชัยชนะเหนืออียิปต์ได้ด้วย รถศึกและม้า ซึ่งชาวอียิปต์ไม่เคยรู้จักมาก่อน รถศึกเป็นการผสมผสานระหว่างความเร็วกับอานุภาพการยิง โดยมือธนูจะอยู่บนรถศึกและยิงทำลายแนวรบของศัตรู -
Period: 1630 BCE to 1520 BCE
การรุกรานของชาวต่าวชาติ
-
1570 BCE
ยุคราชวงศ์ใหม่
อยู่ในช่วง 1,570-332 ก่อนคริสตกาล ระหว่างราชวงศ์ที่ 18-31 เมื่อ ชาวอียิปต์ได้ก่อกบฏและมีชัยเหนือชาวฮิกโซส จึงเริ่มราชวงศ์ที่ 18 และขยายอำนาจการปกครองไปยังดินแดนซีเรีย ปาเลสไตน์และฟินิเซีย เพาะมีอาณาเขตกว้างมากขึ้น สมัยนี้จึงได้รับการขนานนามว่า “สมัยจักรพรรดิ” (Empire) แต่ในช่วงหลังๆ อำนาจการปกครองจากส่วนกลางค่อยลดลง เหล่าขุนนางที่ปกครองเมืองที่หางไกลก็เริ่มแข็งขืนต่ออำนาจมากขึ้นจนถึงประมาณ 700 ปีก่อนคริสตกาล -
Period: 1570 BCE to 332 BCE
ยุคราชวงศ์ใหม่
-
1479 BCE
สมเด็จพระจักรพรรดินีฟาโรห์หญิงฮัตเชปซุต
ฮัตเชปซุต” เป็นที่รู้จักกันดีในนาม “ราชินีมีเครา” เพราะตลอดเวลาที่ปรากฏตัวต่อสาธารณะ พระนางทรงเครื่องทรงของบุรุษ และมีเคราปลอมสวม เพื่อความสะดวกในการขึ้นเป็นฟาโรห์ปกครองอาณาจักรอียิปต์ในช่วงปีที่ 1479-1458 ก่อนคริสต์ศักราช (ประมาณ 3,500 ปีก่อน) หลังฟาโรห์ทุตโมซิสที่ 2 (Tuthmosis II) ซึ่งเป็นทั้งน้องชายต่างมารดาและพระสวามีสิ้นพระชนม์ลง “ฮัตเชปซุต” สถาปนาตัวเองเป็นฟาโรห์หญิงองค์แรกและองค์เดียวของอียิปต์ นับเป็นสตรีผู้ทรงอำนาจคนแรกแห่งโลกโบราณ มีอิทธิพลมากกว่าราชินีเนเฟอร์ติตี (Nefertiti) -
Period: 1479 BCE to 1458 BCE
สมเด็จพระจักรพรรดินีฟาโรห์หญิงฮัตเชปซุต
-
1370 BCE
พระนางเนเฟอร์ติติ
ในตำนานได้กล่าวไว้ว่า อียิปต์ไม่เคยสร้างหญิงใดงามได้เท่าพระนางเนเฟอร์ติติซึ่งเป็นผู้สมบูรณ์แบบด้วยพระสิริโฉมอันงดงาม สวมมงกุฎสูง และโกนพระเกศาเพื่อป้องกันเหา โรคร้ายและความร้อนของอียิปต์ เรื่องราวชีวิตของพระนางเนเฟอร์ติติ อาจเริ่มต้นจากในยุครุ่งเรือง ณ พระราชวังมัลกาต้าที่งดงามที่สุดในอียิปต์โบราณและเป็นที่ประทับของฟาโรห์ เนเฟอร์ติติเติบโตในพื้นที่แห่งนี้ ท่ามกลางนางสนมประมาณ 500 คน -
Period: 1370 BCE to 1330 BCE
พระนางเนเฟอร์ติติ
-
1325 BCE
ฟาโรห์
ฟาโรห์ ตุตันคาเมน (ตุตันคามุน) เป็นฟาโรห์ในราชวงค์ที่ 18 ของอียิปต์โบราณ ซึ่งมีพระชนม์เพียง 9-10 ชันษา ครองราชย์ระหว่าง 1325-1334 ปีก่อนคริสตกาล การบริหารบ้านเมืองจึงตกอยู่กับวิซิเออร์ อัยย์ (Vizier Ay) ฟาโรห์ ตุตันคาเมนได้ครองราชย์ในรัชสมัยของพระองค์ช่วงสั้นๆ ราว 9 ปี ก็สิ้นพระชนม์เสียก่อน เป็นเพราะฟาโรห์ ตุตันคาเมน สิ้นพระชนม์อย่างกะทันหัน วิซิเออร์ อัยย์จึงได้สร้างสุสานถวายแบบง่าย ๆ -
1325 BCE
ฟาโรห์ตุตันคาเม
ฟาโรห์ ตุตันคาเมน (ตุตันคามุน) เป็นฟาโรห์ในราชวงค์ที่ 18 ของอียิปต์โบราณ ซึ่งมีพระชนม์เพียง 9-10 ชันษา ครองราชย์ระหว่าง 1325-1334 ปีก่อนคริสตกาล การบริหารบ้านเมืองจึงตกอยู่กับวิซิเออร์ อัยย์ (Vizier Ay) ฟาโรห์ ตุตันคาเมนได้ครองราชย์ในรัชสมัยของพระองค์ช่วงสั้นๆ ราว 9 ปี ก็สิ้นพระชนม์เสียก่อน เป็นเพราะฟาโรห์ ตุตันคาเมน สิ้นพระชนม์อย่างกะทันหัน วิซิเออร์ อัยย์จึงได้สร้างสุสานถวายแบบง่าย ๆ ราวสองร้อยปีต่อมา มีการสร้างสุสานของรามเสสที่ 6 ทับสุสานของ ฟาโรห์ ตุตันคาเมน -
Period: 1325 BCE to 1334 BCE
ฟาโรห์
-
Period: 1325 BCE to 1334 BCE
ฟาโรห์ตุตันคาเม
-
1290 BCE
เทพเจ้าอนูบิส
ภาพวาดเทพอนูบิสจะปรากฏอยู่ในภาพวาดเล่าเรื่องชีวิตหลังความตาย ทั้งในสุสานของฟาโรห์ ที่หุบผากษัตริย์ และในภาพวาดบนกระดาษปาปิรุส ชื่อ Hunefer, Book of the Dead ซึ่งพบหลักฐานในเมืองธีบส์ อียิปต์ วาดช่วง 1,290 ปีก่อนคริสตกาลปัจจุบันเป็นคอลเลกชันที่ตั้งแสดงที่พิพิธภัณฑ์บริทิช พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติของอังกฤษ ปัจจุบัน -
1278 BCE
ฟาโรห์รามเลสที่2มหาราช
ฟาโรห์รามเสสที่2เป็นโอรสของ ฟาโรห์เซติที่1 มีมเหสี ชื่อ พระราชินีเนเฟอร์ตารี ประวัติ หลังจากฟาโรห์โฮเรมเฮปสวรรคต ขุนทหารของพระองค์คนหนึ่งได้ทำการยึดอำนาจและขึ้นเป็นฟาโรห์รามเสสที่1 และเป็นฟาโรห์องค์แรกของราชวงศ์ที่19 ซึ่งเป็นราชวงศ์ที่มีชื่อเสียงที่สุดและฟาโรห์ที่โด่งดังที่สุดของราชวงศ์นี้ก็คือฟาโรห์รามเสสที่2 ผู้เป็นโอรสของฟาโรห์เซติที่1 • ฟาโรห์รามเสสที่2 ครองราชย์ในปีที่1278 - 1212 ปี ก่อน ค.ศ. พระองค์ทรงเป็นนักปกครองที่ทรงความสามารถและนักรบที่เก่งกาจ -
Period: 1278 BCE to 1212 BCE
ฟาโรห์รามเลสที่2
-
1200 BCE
ชาวทะเล
ในยุคอียิปต์โบราณเมื่อราว 1,200 – 900 ปีก่อนคริสตกาล ได้มีบันทึกเกี่ยวกับชาวทะเล (The Sea People) กลุ่มกองกำลังทางเรือที่ได้ทำการโจมตีเมืองชาวฝั่งของประเทศอียิปต์ และอีกหลาย ๆ พื้นที่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก -
Period: 1200 BCE to 900 BCE
ชาวทะเล
-
332 BCE
ยุคราชวงศ์ปโตเลมี
การเข้ายึดครองอียิปต์ภายใต้การนำของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช (Alexander the Great) เป็นจุดเริ่มต้นของการก่อตั้งราชวงศ์ปโตเลมี (Ptolemy) ราชวงศ์เชื้อสายกรีกที่เข้ามาปกครองอียิปต์ ราชินีที่มีชื่อเสียงของอียิปต์อย่างพระนางคลีโอพัตรา (Cleopatra) ก็มีชีวิตอยู่ในช่วงเวลานี้ -
Period: 332 BCE to 30 BCE
ยุงราชวงศ์ปโตเลมี
-
51 BCE
พระนางคลีโอพัตรา
คลีโอพัตราที่ 7 เป็นชาวกรีกที่กำเนิดในดินแดนอเล็กซานเดรีย ประเทศอียิปต์ ได้ขึ้นครองราชย์หลังจากที่ ปโตเลมีที่ 12 แห่งอียิปต์ เมื่อพระบิดาของพระนางสวรรคตในช่วงฤดูใบไม้ผลิของปีที่51 ก่อนคริสตกาล พระนางเป็นพระราชธิดาองค์โตของโอเลเตส เมื่อพระเชษฐภคินีอีกสองพระองค์สิ้นพระชนม์ลง พระนางยังมีพระขนิษฐาอีกองค์ที่มีชื่อว่าอาร์สิโนเอ ในช่วงแรกของการขึ้นครองราชย์ พระนางได้ครองราชย์ร่วมกับพระบิดาเป็นระยะเวลาสั้นๆ ต่อมาก็ได้ครองราชย์ร่วมกับพระอนุชาอีกสองพระองค์ ได้แก่ ปโตเลมีที่ 13 ผู้ซึ่งต่อต้านการปกครอง -
Period: 51 BCE to 30 BCE
พระคลีโอพัตรา
-
ศิลาจะรึกโรเซทต้า
สำหรับอักษรของอียิปต์นั้น นับแต่อารยธรรมล่มสลายลงไปก็ไม่มีใครสามารถตีความได้ จนกระทั่งได้มีการค้นพบ ศิลาจารึก โรเซทต้า (ROSETTA) ในปี ค.ศ. 1799 ที่มีจารึกอักษรเฮียโรกลิฟฟิคกับอักษรกรีกโบราณเอาไว้ ฟรองซัวส์ ชองโพลียอง ใช้วิธีการค้นคว้าโดยอ่านเทียบกับอักษรกรีกโบราณ และสามารถตีความได้สำเร็จในปี 1822 -
Period: to
ศิลาจะรึกโรเซทต้า