เหตุการสำคัญในยุคกลาง

สันติภาพโรมัน

Period: 27 BCE to 180

เป็นช่วงเวลาเกือบ 200 ปีของประวัติศาสตร์โรมันที่ถือเป็นยุคสมัยและยุคทองจากจักรวรรดินิยมโรมันที่เพิ่มขึ้นและยั่งยืน สันติภาพและความสงบเรียบร้อย เสถียรภาพที่รุ่งเรือง การมีอำนาจครอบงำ และการขยายในภูมิภาค

สันติภาพโรมันภาพประกอบการอธิบาย ไม่สามารถอ้างอิงเป็นหลักฐานได้ เป็นภาพจำลองของสันติภาพโรมัน(https://www.facebook.com/1537135319903466/photos/1538744033075928

180

เป็นสมัยของความสันติสุขอันยืนยาวโดยแทบจะไม่มีการขยายตัวทางทหารเช่นในคริสต์ศตวรรษที่หนึ่งและสองของจักรวรรดิโรมัน เนื่องจากเป็นสมัยที่ก่อตั้งโดยจักรพรรดิเอากุสตุส บางครั้งสมัยนี้จึงเรียกว่า “สันติภาพเอากุสตุส” (Pax Augusta) ซึ่งเป็นสมัยที่ยืนยาวถึงราว 200 ปีที่เริ่มตั้งแต่ปี 27 ก่อนคริสต์ศักราชจนถึงปี ค.ศ. 180

การก่อตั้งอาณาจักรของชนเผ่าเจอร์มานิคค.ศ. 300 ถึงปี ค.ศ. 600การประชุมของสภาทิง (Thing) ของชนเจอร์แมนิกวาดจากภาพแกะนูนบนคอลัมน์มาร์คัส ออเรลิอัส (Marcus Aurelius) (ค.ศ. 193)

300

เป็นกลุ่มชนในประวัติศาสตร์ที่เดิมตั้งถิ่นฐานอยู่ทางตอนเหนือของยุโรปที่พูดภาษากลุ่มเจอร์แมนิกในตระกูลภาษาอินโด-ยูโรเปียนซึ่งแยกมาจากกลุ่มภาษาเจอร์แมนิกดั้งเดิมในช่วงสมัยก่อนยุคเหล็กก่อนโรมัน ผู้ที่สืบเชื้อสายมาจากกลุ่มชนนี้กลายมาเป็นต้นตระกูลของชาติพันธุ์ต่าง ๆ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของยุโรป

ชนเผ่าเจอร์มานิก

Period: 300 to 600

เจอร์แมนิกย้ายถิ่นฐานไปทั่วยุโรปในปลายยุคโบราณตอนปลายระหว่างปี ค.ศ. 300 ถึงปี ค.ศ. 600 และในตอนต้นของยุคกลาง กลุ่มภาษาเจอร์แมนิกกลายเป็นภาษาที่ใช้กันมากตาม "เขตแดนโรมัน" 

การสร้างมหาวิหารกอทิก

350

เป็นลักษณะสถาปัตยกรรมที่รุ่งเรืองในช่วงกลางสมัยกลางถึงปลายสมัยกลาง โดยวิวัฒนาการมาจากสถาปัตยกรรมโรมาเนสก์และตามด้วยสถาปัตยกรรมสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา สถาปัตยกรรมกอทิกเกิดขึ้นระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 12 ถึง 16 โดยเริ่มขึ้นในประเทศฝรั่งเศสก่อนที่จะเผยแพร่ไปยังประเทศอังกฤษ และต่อไปยังทวีปยุโรปโดยทั่วไป

สิ้นสุดโรมันตะวันตก

Period: 376 to 476

เป็นกระบวนการของการเสื่อมถอยในจักรวรรดิโรมันตะวันตกซึ่งล้มเหลวในการปกครอง สูญสิ้นอธิปไตยเดิมที่จักรวรรดิเคยมี 

สิ้นสุดโรมันตะวันตก ภาพประกอบการอธิบาย ไม่สามารถอ้างอิงเป็นหลักฐานได้ เป็นภาพจำลองของเหตุการณ์การล่มสลายของโรมันตะวันตก (เป็นภาพวาดจากHistofun)

476

เมื่อถึงปี ค.ศ. 476 ตำแหน่งของจักรพรรดิโรมันตะวันตกมีอำนาจทางทหาร ปราศจากอำนาจควบคุมมณฑลทางตะวันตกที่กระจัดกระจายซึ่งเดิมเป็นเขตแดนของโรมัน อาณาจักรของอนารยชนได้สร้างฐานอำนาจของตนเองขึ้นในพื้นที่ของจักรวรรดิตะวันตก ในปี ค.ศ. 476 พระเจ้าโอเดเซอร์ ได้ปลดจักรพรรดิองค์สุดท้ายของจักรวรรดิโรมันตะวันตก  ลงจากราชบัลลังก์ และวุฒิสภาของจักรวรรดิโรมันตะวันตกได้ส่งเครื่องราชอิสริยาภรณ์ให้กับจักรพรรดิโรมันตะวันออก ทำให้เหลือเมืองหลวงเพียงแห่งเดียว เเละ สิ้นสุดความเป็นศูนย์กลางของกรุงโรมนับแต่นั้น

ยุคกลาง

Period: 476 to 1500

สมัยกลาง หรือ ยุคกลาง คือช่วงเวลาในประวัติศาสตร์ยุโรป ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 5 ถึงคริสต์ศตวรรษที่ 15 โดยปกติแล้วเริ่มนับตั้งแต่การล่มสลายลงของจักรวรรดิโรมันตะวันตก (การสิ้นสุดของสมัยคลาสสิก) จนถึงจุดเริ่มต้นของสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา และยุคแห่งการสำรวจ ซึ่งเป็นยุคที่นำไปสู่สมัยใหม่ในเวลาต่อมา สมัยกลางคือช่วงเวลาตรงกลางของกระบวนการเปลี่ยนผ่านในประวัติศาสตร์ตะวันตก

กาฬโรคแห่งจัสติเนียนค.ศ. 541-542 ภาพประกอบการอธิบาย ไม่สามารถอ้างอิงเป็นหลักฐานได้ เป็นภาพจำลองของกาฬโรคแห่งจัสติเนียน(ที่มา:https://storystudio.tw/article/gushi/plague-of-justinian/)

541

คาดกันว่ากาฬโรคซึ่งมีต้นกำเนิดในจีน แพร่กระจายสู่กรุงคอนสแตนติโนเปิล จากธัญพืชที่นำเข้าจากอียิปต์ กอปรกับนครแห่งนี้มีหนูและหมัดเป็นจำนวนมากจึงระบาดอย่างรวดเร็ว 

กาฬโรค

Period: 541 to 2552

กาฬโรค หรือ มรณะดำ หรือ “The Black Death” เป็นโรคที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดชนิดไม่มีโรคใดเทียบติด มีสาเหตุเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย “เยอร์ซิเนีย เปสติส” (Yersinia pestis) โดยมีสัตว์ฟันแทะและหมัดเป็นพาหะนำโรค รวมถึงสามารถแพร่ในอากาศ ผ่านการสัมผัสโดยตรง หรือโดยอาหารหรือวัสดุที่ปนเปื้อน ในอดีตมีการระบาดใหญ่ของกาฬโรคเกิดขึ้น 3 ครั้ง

จักรวรรดิไบแซนไทน์รุ่งเรือง

555

เป็นจักรวรรดิที่สืบทอดโดยตรงจากจักรวรรดิโรมันในปลายสมัยโบราณ และยุคกลาง มีศูนย์กลางอยู่ที่กรุงคอนสแตนติโนเปิล ในบริบทสมัยโบราณตอนปลาย ทั้งคำว่า "จักรวรรดิไบแซนไทน์" และ "จักรวรรดิโรมันตะวันออก" เป็นคำทางภูมิประวัติศาสตร์ที่สร้างขึ้นภายหลังและใช้กันในหลายศตวรรษต่อมา

เรกองกิสตา

Period: 722 to 1492

พื้นที่ของชาวมุสลิมทั้งหมดในคาบสมุทรไอบีเรียถูกยึดครองโดยอาณาจักรคริสเตียน
พระราชกฤษฎีกาอัลฮัมบรา

การขึ้นครองราชย์ของชาร์เลอมาญโดย เธียรพงศ์ พั่วพันธ์ศรี

768

ชาร์เลอมาญขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์แห่งชาวแฟรงก์ใน ค.ศ. 768 หลังจากนั้นทรงประกอบพระกรณียกิจตามธรรมเนียมผู้นำนักรบของชาวแฟรงก์ด้วยการขยายอำนาจของอาณาจักร เริ่มด้วยการผูกมิตรกับชาวลอมบาร์ดทางตะวันออกเฉียงใต้ด้วยการอภิเษกกับธิดากษัตริย์แห่งชาวลอมบาร์ด ซึ่งจะทำให้พระองค์มีสิทธิเหนืออาณาเขตของพวกลอมบาร์ดด้วย

สงครามเรกองกิสตา ค.ศ.800-1492 ภาพประกอบการอธิบาย ไม่สามารถอ้างอิงเป็นหลักฐานได้เป็นภาพจำลองของสงครามเรกองกิสตา(โดยฟรันซิสโก ปราดียา อี ออร์ติซ)

800

การพิชิตของฝ่ายมุสลิมในอาณาจักรวิซิกอทในคริสต์ศตวรรษที่ 8 เป็นไปเกือบทั่วคาบสมุทรไอบีเรีย (นอกจากบริเวณส่วนใหญ่ของแคว้นกาลิเซีย แคว้นอัสตูเรียส แคว้นกันตาเบรีย และแคว้นบาสก์) แต่เมื่อมาถึงคริสต์ศตวรรษที่ 13 ดินแดนเหล่านี้ (นอกไปจากอาณาจักรเอมีร์แห่งกรานาดาของราชวงศ์นาสริดที่ได้ถูกพิชิตในปี ค.ศ. 1492) ก็คืนมาอยู่ภายใต้การปกครองของประมุขผู้นับถือคริสต์ศาสนา

ระบอบฟิวดัล

Period: 800 to 1200

ระบอบการปกครองในอดีต เป็นระบบการเมืองที่ผสมผสานระหว่างขนบธรรมเนียมทางกฎหมาย เศรษฐกิจ การทหาร และวัฒนธรรม ที่รุ่งเรืองในทวีปยุโรปยุคกลางตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 9 ถึง 15

ระบอบฟิวดัล ภาพประกอบการอธิบาย ไม่สามารถอ้างอิงเป็นหลักฐานได้ เป็นภาพจำลองของเหตุการณ์ในยุคระบบฟิวดัล(ระบบศักดินาสวามิภักดิ์ (Feudalism) ในยุโรปสมัยกลาง ที่มา : http://worldcivil14.blogspot.com/2014/01/feudalism_9.html)

801

ระบบฟิวดัล (Feudalism) หมายถึง ระบบที่ว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างเจ้า (Lord) หรือ ผู้มีสิทธิในการเป็นเจ้าของที่ดินกับข้า (Vassal) หรือผู้รับมอบให้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดิน โดยมีที่ดิน (Fief) เป็นพื้นฐานของความผูกพันและภาระหน้าที่ที่มีต่อกัน

สงครามนอร์มัน

1066

เป็นการรุกรานอังกฤษของวิลเลียมผู้พิชิต (William the Conqueror) แห่งนอร์มันดีในปี 1066 ส่งผลให้วิลเลียมขึ้นเป็นกษัตริย์แห่งอังกฤษและเปลี่ยนโครงสร้างการปกครองของอังกฤษ

ครูเสด ค.ศ.1095-1291ภาพประกอบการอธิบาย ไม่สามารถอ้างอิงเป็นหลักฐานได้ เป็นภาพจำลองของเหตุการณ์กรุงเยรูซาเลมในสงครามครูเสดครั้งแรก

1095

ครูเสด เป็นชุดสงครามทางศาสนาในช่วงยุคกลาง ซึ่งคริสตจักรละตินเป็นผู้ริเริ่ม สนับสนุน และบางครั้งก็สั่งการเอง สงครามครั้งที่รู้จักกันดีที่สุด คือ คราวที่ส่งกองทัพไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์ระหว่าง ค.ศ. 1095–1291 โดยประสงค์จะปลดปล่อยเยรูซาเล็มกับพื้นที่รายรอบให้พ้นจากการปกครองของมุสลิม กิจกรรมทางทหารที่เกิดขึ้นพร้อมกันในคาบสมุทรไอบีเรียเพื่อต่อต้านชาวมัวร์

ครูเสด

Period: 1095 to 1834

ชุดสงครามทางศาสนาในช่วงยุคกลาง ซึ่งคริสตจักรละตินเป็นผู้ริเริ่ม สนับสนุน และบางครั้งก็สั่งการเอง สงครามครั้งที่รู้จักกันดีที่สุด คือ คราวที่ส่งกองทัพไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์ระหว่าง ค.ศ. 1095–1291 โดยประสงค์จะปลดปล่อยเยรูซาเล็มกับพื้นที่รายรอบให้พ้นจากการปกครองของมุสลิม กิจกรรมทางทหารที่เกิดขึ้นพร้อมกันในคาบสมุทรไอบีเรียเพื่อต่อต้านชาวมัวร์

เกลฟ์ และ กิเบลลิเนภาพประกอบการอธิบาย ไม่สามารถอ้างอิงเป็นหลักฐานได้ เป็นภาพจำลองของเกลฟ์ และ กิเบลลิเน(ที่มา:https://www.personalreporternews.it/2020/05/29/la-grande-storia-della-battaglia-di-legnano/)

1250

เป็นฝักฝ่ายทางการเมืองทางตอนกลางและตอนเหนือของอิตาลีผู้หนุนหลังฝ่ายพระสันตะปาปาและสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ตามลำดับระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 12 จนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 13 ความขัดแย้งกันทางอำนาจระหว่างสถาบันพระสันตะปาปาและจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ก่อตัวขึ้นจากปัญหาข้อขัดแย้งในอำนาจการแต่งตั้งสงฆ์ของคริสต์ศตวรรษที่ 11

สมัยฟื้นฟูศิลปะวิทยาการ ค.ศ. 1250-1500 ภาพประกอบการอธิบาย ไม่สามารถอ้างอิงเป็นหลักฐานได้ เป็นภาพจำลองของนักปราชเเห่งเอเธนส์(https://th.m.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%A5%E0%B9%8C:%22The_School_of_Athens%22_by_Raffaello_Sanzio_da_Urbino.jpg)

1250

พื้นฐานทางปัญญาของยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับมนุษยนิยม ซึ่งได้รับมาจากแนวคิดของฮิวแมนนิตัสจากสมัยโรมันและการค้นพบปรัชญากรีกสมัยคลาสสิคอีกครั้ง

สมัยฟื้นฟูศิลปะวิทยาการ

Period: 1250 to 1500

สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา หรือ สมัยเรเนซองส์(ฝรั่งเศส: Renaissance; อิตาลี เป็นช่วงเวลาในประวัติศาสตร์ยุโรป ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจากสมัยกลางสู่สมัยใหม่และครอบคลุมศตวรรษที่ 15 และ 16 มีการแสดงลักษณะด้วยความพยายามที่จะฟื้นฟูและก้าวข้ามแนวคิดและความสำเร็จของสมัยคลาสสิก ได้เกิดขึ้นภายหลังจากวิกฤตการณ์จากสมัยกลางปลายและมีส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมครั้งใหญ่ นอกเหนือจากช่วงเวลาตามมาตรฐาน ผู้เสนอของ"เรอแนซ็องส์ระยะยาว" ซึ่งอาจจะเริ่มต้นในศตวรรษที่ 14 และสิ้นสุดลงในศตวรรษที่ 17

สงครามร้อยปีค.ศ. 1337-1453ภาพประกอบการอธิบาย ไม่สามารถอ้างอิงเป็นหลักฐานได้ เป็นภาพจำลองของสงครามร้อยปี(ที่มา:https://www.afterklass.com/post/detail/6089)

1337

สงครามนี้มีที่มาจากความไม่ลงรอยระหว่างราชวงศ์ย้อนไปถึงสมัยพระเจ้าวิลเลียมผู้พิชิต ผู้กลายเป็นพระมหากษัตริย์อังกฤษใน ค.ศ. 1066 ระหว่างยังครอบครองดัชชีนอร์ม็องดีในฝรั่งเศส ในฐานะผู้ปกครองนอร์ม็องดีและดินแดนอื่นบนทวีป พระมหากษัตริย์อังกฤษจึงเป็นหนี้บังคม (homage) ระบบฟิวดัลต่อพระมหากษัตริย์ฝรั่งเศส ใน ค.ศ. 1337 พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 แห่งอังกฤษทรงปฏิเสธถวายบังคมต่อพระเจ้าฟิลิปที่ 6 แห่งฝรั่งเศส ทำให้พระมหากษัตริย์ฝรั่งเศสทรงยึดที่ดินของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดในอากีแตน

Great Pestilenceภาพประกอบการอธิบาย ไม่สามารถอ้างอิงเป็นหลักฐานได้ เป็นภาพจำลองของGreat Pestilence(ที่มา:https://thebiomedicalscientist.net/science/great-pestilence)

1340

เริ่มต้นจากตอนใต้ของประเทศอินเดียและประเทศจีนระบาดไปตลอดเส้นทางสายไหม (Silk Road) กระจายไปทั่วเอเชีย, ยุโรป และแอฟริกา ในยุโรปเกิดการระบาดในช่วงปลายทศวรรษ 1340 สันนิษฐานว่า พ่อค้าชาวจีน-มองโกล ได้เป็นผู้นำเชื้อมาแพร่ในยุโรป  ทำให้เกิดการแพร่ระบาดในยุโรปอย่างต่อเนื่อง 

คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ภาพประกอบการอธิบาย ไม่สามารถอ้างอิงเป็นหลักฐานได้ เป็นภาพจำลองของคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส (ที่มา:https://www.blockdit.com/posts/5ced554e96fb31237e9b2d23)

1429

นักสำรวจชาวอิตาลีคนแรกที่ออกเดินทางไปทางฝังตะวันตกของมหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่งเป็นจุดที่คริสตจักรบอกว่าเป็นพื้นที่ “สุดขอบโลก” สามารถเดินทางถึงหมู่เกาะเวสต์อินดีสในอเมริกากลางได้สำเร็จใน ปี ค.ศ. 1429  

ยุคแห่งการสำรวจทางทะเลและการค้นพบ

Period: 1429 to 1922

เริ่มขึ้นราวคริสต์ศตวรรษที่ 15 - 17 เป็นยุคที่ชาวยุโรปมองหาเส้นทางการค้าในดินแดนที่ห่างไกลมากขึ้น ส่งผลให้เกิดเส้นทางการเดินเรือใหม่ระหว่างดินแดนต่าง ๆ รอบโลกที่ไม่เคยได้รับการค้นพบมาก่อน ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคม และวัฒนธรรมของโลกไปอย่างถาวร 

กูเทนเบิร์กภาพประกอบการอธิบาย ไม่สามารถอ้างอิงเป็นหลักฐานได้ เป็นภาพจำลองของกูเทนเบิร์ก(https://m.pantip.com/topic/40341688?)

1440

แทบจะไม่มีเหตุการณ์อื่นใดที่สามารถเรียกได้ว่ามีอิทธิพลเท่ากับแท่นพิมพ์ที่กูเทนเบิร์ก ซึ่งประดิษฐ์ขึ้นในราวปี 1440 ก่อนการสร้างนี้หนังสือจะมีการเขียนด้วยมือ

จอห์น กูเตนเบร์กภาพประกอบการอธิบาย ไม่สามารถอ้างอิงเป็นหลักฐานได้ เป็นภาพจำลองของจอห์น กูเตนเบร์ก(ที่มา:https://thesharkrider.blogspot.com/2013/07/blog-post_22.html?m=1)

1450

นักประดิษฐ์ : จอห์น กูเตนเบร์ก ชาวเยอรมนี ประดิษฐ์แท่นพิมพ์แบบเคลื่อนที่ได้ในปี ค.ศ. 1450 ผลสืบเนื่องคือ
–  เกิดการผลิตหนังสือและเอกสาร ทำให้ประชาชนได้เรียนรู้และคิดค้นทางวิชาการมากมาย
–  ช่วยให้รัฐเผยแพร่ข่าวสารข้อมูลไปสู่ประชาชนได้อย่างรวดเร็ว
–  มีการพิมพ์คำภีร์ไบเบิลในภาษาต่าง ๆ ประชาชนเกิดความรู้คำสอนศาสนาได้ด้วยตนเอง จนก่อให้เกิดกาปฏิรูปศาสนาในเยอรมนี

เลโอนาโด ดาวินชีภาพประกอบการอธิบาย ไม่สามารถอ้างอิงเป็นหลักฐานได้ เป็นภาพจำลองของเลโอนาโด ดาวินชี(โดย เบญจพร โคกแปะ)

1452

จิตกร : เลโอนาโด ดาวินชี เป็นผู้ที่ มีความสามารถรอบตัว ผลงานสำคัญได้แก่
–  The Last Supper  ภาพงานเลี้ยงอาหารมื้อสุดท้ายของพระเยซูและเหล่าสาวก 12 คน ประดับอยู่ที่มหาวิหารเซนต้ามาเรีย
–  Mona Lisa ภาพหญิงสาวที่มีความเสมือนจริง จัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ลูฟฟ์

สงครามดอกกุหลาบค.ศ. 1455 ถึง 1485ภาพประกอบการอธิบาย ไม่สามารถอ้างอิงเป็นหลักฐานได้ เป็นภาพจำลองของสงครามดอกกุหลาบ(ที่มา:https://mgronline.com/entertainment/detail/9520000040581)

1455

เป็นชุดสงครามราชวงศ์ที่ผู้สนับสนุนราชวงศ์แพลนแทเจเนตสองสายที่เป็นคู่แข่งชิงราชบัลลังก์อังกฤษกัน ได้แก่ ราชวงศ์แลงแคสเตอร์และราชวงศ์ยอร์ก (ซึ่งสัญลักษณ์ตราประจำตระกูล คือ ดอกกุหลาบสีแดงและสีขาวตามลำดับ)

นิโคลัส โคเปอร์นิคัสค.ศ. 1473-1543ภาพประกอบการอธิบาย ไม่สามารถอ้างอิงเป็นหลักฐานได้ เป็นภาพจำลองของนิโคลัส โคเปอร์นิคัส(ที่มา:"ภาพเหมือนตอรุญ" (ไม่ทราบผู้วาด, ประมาณ ค.ศ.. 1580) ตั้งอยู่ที่ศาลากลางตอรุญ ประเทศโปแลนด์)

1473

เป็นนักคณิตศาสตร์และนักดาราศาสตร์สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา ผู้คิดค้นแบบจำลองระบบดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางสมบูรณ์ ซึ่งดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางของระบบสุริยะ มิใช่โลก

การปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์

Period: 1473 to 1721

การฟื้นฟูศิลปวิทยาการในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 14-16 ถือว่าเป็นการเริ่มต้นของการปฏิวัติ ทางวิทยาศาสตร์ เนื่องจากเป็นผลมาจากความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติ การแสวงหาความรู้ใหม่ด้วย การสังเกต ทดลอง และการใช้เหตุผล ในยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ ศิลปินที่สำคัญต่างๆ ต่างใช้หลัก วิชากายวิภาคศาสตร์

บาร์โทโลมิว ดีอัช (Bartolomeu Dias)ภาพประกอบการอธิบาย ไม่สามารถอ้างอิงเป็นหลักฐานได้ เป็นภาพจำลองของบาร์โทโลมิว ดีอัช (Bartolomeu Dias) (ที่มา:https://www.blockdit.com/posts/5d1ae6ed84590a0833386a59

1488

นักเดินเรือและนักสำรวจชาวโปรตุเกส มีชื่อเสียงในฐานะคนแรกที่ค้นพบ “แหลมกู๊ดโฮป” (Cape of Good Hope) ในปี ค.ศ. 1488 ผลจากการค้นพบในครั้งนี้ ถือเป็นการเปิดเส้นทางการเดินเรือใหม่ไปยังอินเดียและตะวันออกกลาง และเป็นการปูทางให้สำหรับนักเดินเรือในยุคต่อมา นั่นคือ “วาสโก ดากามา”  

คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส 

1492

เดินทางไปสู่อินเดียเพื่อพิสูจน์ว่าโลกกลม เขาพบอเมริกาเเต่คิดว่าเป็นอินเดียจึงเรียกชาวพื้นเมืองว่าอินเดียนการเดินทางสำควรในครั้งนี้ทำให้ชาวยุโรปตื่นตัวในการค้นหาดินเเดนใหม่

คริสโตเฟอร์ โคลัมบัสภาพประกอบการอธิบาย ไม่สามารถอ้างอิงเป็นหลักฐานได้ เป็นภาพจำลองของคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส(ที่มา:https://worldcivil14.blogspot.com/2014/01/christopher-columbus.html?m=1)

1492

นำการเดินเรือข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกเพื่อค้นพบทวีปอเมริกา เหตุการณ์นี้ส่งผลให้เกิดการติดต่อระหว่างโลกตะวันตกและโลกใหม่ การแลกเปลี่ยนทรัพยากร วัฒนธรรม และประชากร

สงครามอิตาลียุทธการพาเวียโดยจิตรกรเฟล็มมิ

1494

เป็นสงครามที่เกิดขึ้นต่อเนื่องกันระหว่างปี ค.ศ. 1494 จนถึงปี ค.ศ. 1559 ผู้เข้าร่วมสงครามในช่วงต่าง ๆ ก็ได้แก่นครรัฐอิตาลี (Italian city-states) ต่าง ๆ ส่วนใหญ่, อาณาจักรพระสันตะปาปา รัฐสำคัญต่าง ๆ ในยุโรปตะวันตกที่รวมทั้งฝรั่งเศส, สเปน, จักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์, ราชอาณาจักรอังกฤษ และ ราชอาณาจักรสกอตแลนด์ นอกจากนั้นก็ยังรวมจักรวรรดิออตโตมัน

วาสโก ดากามา  ค.ศ.1460-1525ภาพประกอบการอธิบาย ไม่สามารถอ้างอิงเป็นหลักฐานได้ เป็นภาพจำลองของวาสโก ดากามา (ที่มา:https://th.m.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%8A%E0%B8%81%E0%B8%B9_%E0%B8%94%E0%B8%B2_%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B2

1498

นักเดินเรือและนักสำรวจชาวโปรตุเกส เป็นที่รู้จักกันในฐานะผู้สามารถร่องเรือรอบแหลมกู๊ดโฮปได้สำเร็จ และยังสามารถแล่นเรือลัดเลาะมาสู่มหาสมุทรอินเดียไปจนถึงเมืองกาลิกัต ประเทศอินเดีย ได้สำเร็จในปี ค.ศ. 1498 จากความสำเร็จในครั้งนี้ทำให้ประเทศโปรตุเกสเข้าถึงทรัพยากรได้เป็นประเทศแรก ๆ

นิคโคโล ดี แบร์นาโด เดย์ มาเคียเวลลีภาพประกอบการอธิบาย ไม่สามารถอ้างอิงเป็นหลักฐานได้ เป็นภาพจำลองของนิคโคโล ดี แบร์นาโด เดย์ มาเคียเวลลีเครดิต : https://www.gotoknow.org/posts/258627

1498

เป็นนักปรัชญา นักเขียน และนักรัฐศาสตร์ชาวฟลอเรนซ์ นับเป็นหนึ่งในบิดาแห่งรัฐศาสตร์ยุคใหม่ มีชีวิตอยู่ในยุคเรอเนซองส์ ซึ่งเขาเป็นนักวิชาการ นักปรัชญาการเมือง นักดนตรี กวี นักเขียนบทละคร แต่ที่สำคัญคือเขาเป็นอาสาสมัครสาธารณกิจแห่งสาธารณรัฐฟลอเรนไทน์ เดือนมิถุนายน ค.ศ. 1498 หลังจากที่ จิโรลาโม ซาโวนาโรลา ถูกไล่ออกและประหารชีวิต สภาใหญ่ได้เลือกให้มาเกียเวลลีเป็นเลขานุการสถานทูตที่สองของสาธารณรัฐฟลอเรนซ์ (second Chancery of the Republic of Florence)ได้รับการยกย่องว่าเป็น บิดาแห่งรัฐศาสตร์สมัยใหม่

การปฏิรูปศาสนา

Period: 1500 to 1648

การปฏิรูปศาสนา คือ ขบวนการแยกตัวทางศาสนา เกิดขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 16. ส่งผลให้ชาวคริสต์จำนวนหนึ่งในยุโรป แยกตัวออกจากศาสนจักรสากล ซึ่งมี ซึ่งเรียกว่าลัทธิโปรเตสแตนท์ สันตะปาปาเป็นประมุข ไปตั้งศาสนจักรใหม่ ไปตั้งศาสนจักรใหม่

การปฏิรูปศาสนาฝ่ายโปรเตสแตนต์ค.ศ. 1517-1648ภาพประกอบการอธิบาย ไม่สามารถอ้างอิงเป็นหลักฐานได้ เป็นภาพจำลองของมาร์ติน ลูเทอร์ (https://mgronline.com/science/detail/9610000062242)

1517

คือขบวนการการปฏิรูปศาสนาที่เริ่มโดย มาร์ติน ลูเทอร์ เมื่อปี ค.ศ. 1517 เพื่อแก้ไขความเสื่อมโทรมของคริสตจักรโรมันคาทอลิก และสถาบันสันตะปาปา มาเสร็จสิ้นลงด้วยสนธิสัญญาสันติภาพเวสต์ฟาเลีย ค.ศ. 1648[1] ผลจากการปฏิรูปคือการแยกตัวจากนิกายคาทอลิกมาเป็นนิกายโปรเตสแตนต์

การปฏิรูปศาสนาคริสต์ค.ศ.1517-1648ภาพประกอบการอธิบาย ไม่สามารถอ้างอิงเป็นหลักฐานได้ เป็นภาพจำลองของการปฏิรูปศาสนาคริสต์(ที่มา:https://mgronline.com/science/detail/9610000062242)

1517

ก่อนช่วงเวลานี้คริสตจักรนิกายโรมันคาธอลิกเกือบจะมีอำนาจควบคุมประชาชนและรัฐบาลของโลกคริสเตียนได้อย่างใกล้ชิด เป็นช่วงที่ผู้เรียนรู้หลายคนในสมัยนั้นเริ่มตั้งคำถามกับการปฏิบัติของคริสตจักรโดยเปรียบเทียบกับพระคัมภีร์จนเกิดปัญหาขึ้น เจตนาของการปฏิรูปคือเพื่อปฏิรูปคริสตจักรคาทอลิกและนำกลับสู่รากฐานในพระคัมภีร์ไบเบิล ผลสุดท้ายคือการแบ่งคริสตจักรออกเป็นสองฝ่ายคือฝ่ายคาทอลิกและฝ่ายโปรเตสแตนต์ การปฏิรูปคัมภีร์ทางศาสนามาอยู่ในมือของมวลชนและอำนาจของศาสนจักรคาทอลิกเริ่มเสื่อม 

สงครามชาวนาเยอรมันค.ศ. 1524–1525ภาพประกอบการอธิบาย ไม่สามารถอ้างอิงเป็นหลักฐานได้ เป็นภาพจำลองของสงครามชาวนาเยอรมัน(ที่มา:https://prachatai.com/journal/2009/09/25711)

1524

เป็นการลุกฮือของชาวนาในพื้นที่พูดภาษาเยอรมันในยุโรปกลาง ระหว่างค.ศ. 1524–1525 สงครามครั้งนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการลุกฮือครั้งก่อน ๆ เช่น สงครามฮุสไซต์ ขบวนการบุนด์ชูห์ และกบฏอัศวิน มีสาเหตุมาจากปัญหาด้านเศรษฐกิจและความเชื่อทางศาสนาของชาวนา โดยได้รับการสนับสนุนจากนักบวชกลุ่มแอนาแบปติสต์อันเป็นโปรเตสแตนต์สายหนึ่ง การสู้รบถึงจุดสูงสุดช่วงกลางปี ค.ศ. 1525 ก่อนจะจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของทัพชาวนา อย่างไรก็ตาม สงครามชาวนาเยอรมันถือเป็นการลุกฮือครั้งใหญ่ที่สุดในยุโรปจนกระทั่งเกิดการปฏิวัติฝรั่งเศส

 การประชุมสังคายนาแห่งเทรนต์ภาพประกอบการอธิบาย ไม่สามารถอ้างอิงเป็นหลักฐานได้ เป็นภาพจำลองของ การประชุมสังคายนาแห่งเทรนต์(https://www.historia.fr/societe-religions/histoire-des-religions/le-concile-de-trente-1545-1563-2069468)

1545

เป็นการประชุมสภาสังคายนาสากลของคริสตจักรโรมันคาทอลิก ถือเป็นการประชุมครั้งสำคัญที่สุดครั้งหนึ่งของฝ่ายโรมันคาทอลิก จัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 ธันวาคม ค.ศ. 1545 ถึงวันที่ 4 ธันวาคม ค.ศ. 1563 เริ่มสมัยประชุมที่เมืองเตรนโต ราชรัฐมุขนายกเทรนต์ จักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์

เซอร์ ฟรานซิส เบคอนค.ศ. 1561-1626)ภาพประกอบการอธิบาย ไม่สามารถอ้างอิงเป็นหลักฐานได้ เป็นภาพจำลองของเซอร์ ฟรานซิส เบคอนhttps://board.postjung.com/710963)

1561

ชาวอังกฤษได้วางรากฐานการศึกษางานด้าน วิทยาศาสตร์ จนในที่สุดทำให้มีการจัดตั้งราชบัณฑิตยสมาคม ที่ เรียกว่า THE ROYAL SOCIETY OF LONDON FOR THE PROMOTION OF NATURAL KNOWLEDGE ขึ้นเพื่อส่งเสริมการค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์

สงครามศาสนาของฝรั่งเศสค.ศ. 1562 ถึง ค.ศ. 1598 ภาพประกอบการอธิบาย ไม่สามารถอ้างอิงเป็นหลักฐานได้ เป็นภาพจำลองของภาพการสังหารหมู่วันเซนต์บาโทโลมิว(วาดโดยฟร็องซัว ดูบอยส์)

1562

เป็นสงครามกลางเมืองฝรั่งเศส ระหว่าง ค.ศ. 1562 ถึง ค.ศ. 1598 ระหว่างฝ่ายโรมันคาทอลิก นำโดยตระกูลกีส (Guise) กับกลุ่มอูเกอโนต์ (Huguenots) หรือโปรเตสแตนต์ในฝรั่งเศส นำโดยตระกูลบูร์บง ผลคือฝรั่งเศสเปลี่ยนราชวงศ์ใหม่จากราชวงศ์วาลัวส์ เป็นราชวงศ์บูร์บง และเสรีภาพทางศาสนาของผู้นับถือโปรเตสแตนต์ในฝรั่งเศสตามพระราชกฤษฎีกาแห่งนองซ์ออกโดยพระเจ้าอ็องรีที่ 4

กาลิเลโอ กาลิเลอิค.ศ. 1564- 1642)ภาพประกอบการอธิบาย ไม่สามารถอ้างอิงเป็นหลักฐานได้ เป็นภาพจำลองของค.ศ. 1564- 1642)(ที่มาhttps://www.kroobannok.com/16187)

1564

ชาวอิตาลีได้ประดิษฐ์กล้องโทรทัศน์ เพื่อสังเกตการโคจรรอบ ดวงดาว ทำให้นักดาราศาสตร์ได้รับความรู้เกี่ยวกับจักรวาลและการ เคลื่อนที่ในระบบสุริยจักรวาลตามทฤษฎีของโคเปอร์นิคัส ทฤษฎีของ กาลิเลโอขัดแย้งกับคริสต์ศาสนา ทำให้ถูกลงโทษจากคริสตจักร

สงครามสันนิบาติศักดิ์สิทธิ์ภาพประกอบการอธิบาย ไม่สามารถอ้างอิงเป็นหลักฐานได้ เป็นภาพจำลองของสงครามสันนิบาติศักดิ์สิทธิ์(ที่มา:https://tojuzbylo.pl/wiadomosc/zapomniane-zwyciestwo-czyli-ii-bitwa-pod-parkanami)

1571

กลุ่มรัฐโรมันคาทอลิกที่มีทางออกสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เพื่อต่อต้านอิทธิพลของจักรวรรดิออตโตมันในบริเวณทางตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน สมเด็จพระสันตะปาปาปิอุสที่ 5 ทรงสถาปนาขึ้นเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ค.ศ. 1571

 ธอมัส ฮอบส์ค.ศ. 1586-1679ภาพประกอบการอธิบาย ไม่สามารถอ้างอิงเป็นหลักฐานได้ เป็นภาพจำลองของ ธอมัส ฮอบส์(ที่มา:https://th.m.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%82%E0%B8%97%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%AA_%E0%B8%AE%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%AA%E0%B9%8C)

1586

เป็นนักปรัชญาชาวอังกฤษ เขาได้เขียนหนังสือเรื่อง Leviathan ซึ่ง แสดงแนวคิดทางการเมืองว่า สังคมการเมืองที่อยู่อย่างสันติสุขต้อง มอบอำนาจให้ผู้ปกครองทำหน้าที่ปกครองประชาชน ทั้งนี้ประชาชนมีสิทธิเลือกการปกครองที่สอดคล้องกับความต้องการของคนส่วนใหญ่

การปฏิวัติทางภูมมิปัญญา

Period: 1586 to 1775

การปฏิวัติทางภูมิปัญญาช่วยกระตุ้นให้ ชาวยุโรปสนใจศึกษาหาความรู้และค้นหาความจริง ทำให้ยุโรปพ้นจากยุคมืด มีโอกาสแสวงหา ความรู้วิทยาการแขนงใหม่ที่มีอิสรภาพ และเสรีภาพมากขึ้น ส่งผลให้ชาวยุโรปมีความคิดก้าวหน้า ทางด้านเศรษฐกิจและการเมือง เกิดนักคิด นักปรัชญาขึ้นมากมาย ซึ่งอยู่ในช่วงศตวรรษที่ 17-18.

เรอเน เดส์การ์สค.ศ. 1596- 1650) ภาพประกอบการอธิบาย ไม่สามารถอ้างอิงเป็นหลักฐานได้ เป็นภาพจำลองของเรอเน เดส์การ์ส(ที่มา:https://www.takieng.com/stories/19204)

1596

ชาวฝรั่งเศสได้เสนอหลักการใช้เหตุผล และการศึกษาค้นคว้า วิจัยในการแสวงหาความรู้และการวิเคราะห์ทางคณิตศาสตร์ว่า สามารถนำมาพิสูจน์และตรวจสอบข้อเท็จจริงได้

สงครามสามสิบปีค.ศ. 1618 - ค.ศ. 1648 ภาพประกอบการอธิบาย ไม่สามารถอ้างอิงเป็นหลักฐานได้ เป็นภาพจำลองของสงครามสามสิบปี(ที่มา:http://europeanwars.blogspot.com/2015/01/blog-post_29.html)

1618

เป็นการสู้รบโดยส่วนใหญ่ในเยอรมนีและยุโรปกลางยุคปัจจุบัน ถือว่าเป็นหนึ่งในความขัดแย้งที่มีการทำลายล้างมากที่สุดในประวัติศาสตร์ยุโรป มีการคิดประมาณโดยรวมของการเสียชีวิตของทหารและพลเรือน จำนวนระหว่าง 4.5 ถึง 8 ล้านคน ในขณะที่ได้มีการเสนอว่า มีจำนวนประชากรที่เสียชีวิตลงถึง 60% ในบางพื้นที่ของเยอรมนี ความขัดแย้งที่เกี่ยวข้องประกอบไปด้วยสงครามแปดสิบปี สงครามการสืบราชบังลังก์แมนเทียน (War of the Mantuan Succession) สงครามฝรั่งเศส-สเปน และสงครามฟื้นฟูโปรตุเกส

จอห์น ล็อคค.ศ. 1632-1704ภาพประกอบการอธิบาย ไม่สามารถอ้างอิงเป็นหลักฐานได้ เป็นภาพจำลองของจอห์น ล็อค(ที่มา:https://patiwat603.blogspot.com/p/john-locke.html?m=1)

1632

เป็นนัก ปรัชญาชาวอังกฤษ เขาได้เขียนหนังสือเรื่อง Two Treatises of Government ซึ่งเสนอแนวคิดว่ารัฐบาลต้องจัดตั้งโดยความยินยอมของ ประชาชนและต้องรับผิดชอบความเป็นอยู่ของประชาชน

เซอร์ ไอแซก นิวตันค.ศ. 1642- 1727) ภาพประกอบการอธิบาย ไม่สามารถอ้างอิงเป็นหลักฐานได้ เป็นภาพจำลองของเซอร์ ไอแซก นิวตัน(ภาพเขียนของไอแซกนิวตันขณะอายุ 46 ปี)

1642

ชาวอังกฤษค้นพบกฎแรงดึงดูด (LAW OF UNIVERSAL ATTRACTION) และกฎแห่งความโน้มถ่วง (LAW OF GRAVITY) ซึ่งเป็นผลให้นัก วิทยาศาสตร์อธิบายการโคจรของโลกและดาวเคราะห์ต่างๆ ที่หมุนรอบ ดวงอาทิตย์ได้

สงครามกลางเมืองอังกฤษครั้งที่ 1ค.ศ. 1642 ถึงปี ค.ศ. 1646ภาพประกอบการอธิบาย ไม่สามารถอ้างอิงเป็นหลักฐานได้ เป็นภาพจำลองของยุทธการที่มาร์สตันมัวร์(ภาพโดย เจมส์ บาร์เกอร์)

1642

เป็นสงครามกลางเมืองสงครามแรกในสามสงครามกลางเมืองอังกฤษ สงครามกลางเมืองอังกฤษเป็นสงครามต่อเนื่องฝ่ายรัฐสภา และฝ่ายกษัตริย์นิยมที่เกิดขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1642 ถึงปี ค.ศ. 1651

สงครามกลางเมืองอังกฤษ

Period: 1642 to 1651

เป็นสงครามกลางเมืองของอังกฤษ, สกอตแลนด์ และไอร์แลนด์ที่ต่อเนื่องกันหลายครั้งระหว่างฝ่ายรัฐสภา และฝ่ายกษัตริย์นิยม 

สงครามกลางเมืองอังกฤษครั้งที่ 2  ค.ศ. 1648 - ค.ศ. 1649ภาพประกอบการอธิบาย ไม่สามารถอ้างอิงเป็นหลักฐานได้ เป็นภาพจำลองของสงครามกลางเมืองอังกฤษครั้งที่2 (ที่มา:https://www.blockdit.com/posts/616da9e69440230c9e460bc0)

1648

เป็นสงครามของความขัดแย้งระหว่างผู้สนับสนุนพระเจ้าชาลส์ที่ 1 ฝ่ายหนึ่งและผู้สนับสนุนรัฐสภายาวอีกฝ่ายหนึ่ง

สงครามกลางเมืองอังกฤษครั้งที่3ค.ศ. 1649-ค.ศ. 1651ภาพประกอบการอธิบาย ไม่สามารถอ้างอิงเป็นหลักฐานได้ เป็นภาพจำลองของสงครามกลางเมืองอังกฤษครั้งที่3(ที่มา:https://www.blockdit.com/posts/616da9e69440230c9e460bc0)

1649

เป็นการต่อสู้ระหว่างผู้สนับสนุนพระเจ้าชาลส์ที่ 2 และผู้สนับสนุนรัฐสภารัมพ์อีกฝ่ายหนึ่ง สงครามกลางเมืองจบลงด้วยชัยชนะของฝ่ายรัฐสภาที่ยุทธการวูสเตอร์เมื่อวันที่ 3 กันยายน ค.ศ. 1651

บารอน เดอ มองเตสกิเออค.ศ. 1689-1755ภาพประกอบการอธิบาย ไม่สามารถอ้างอิงเป็นหลักฐานได้ เป็นภาพจำลองของบารอน เดอ มองเตสกิเออ(ที่มา:https://patiwat603.blogspot.com/p/montesquieu.html?m=1)

1689

เป็นขุนนางชาวฝรั่งเศสซึ่งต่อมาเป็นราชบัณฑิตของ ราชบัณฑิตยสถานของฝรั่งเศส เขาได้เขียนหนังสือเรื่อง The Spirit of Laws ซึ่งเสนอว่ากฎหมายที่รัฐบาลบัญญัติขึ้นต้องสอดคล้องกับสังคมนั้น(วัฒนธรรม ประเพณี และประวัติศาสตร์ของแต่ละสังคม) เขาชื่นชม ระบอบการปกครองของอังกฤษที่กษัตริย์อยู่ใต้รัฐธรรมนูญ และแบ่ง อำนาจนิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการ ออกจากกัน

วอลแตร์ภาพประกอบการอธิบาย ไม่สามารถอ้างอิงเป็นหลักฐานได้ เป็นภาพจำลองของวอลแตร์(ที่มา:https://patiwat603.blogspot.com/p/blog-page_20.html?m=1)

1694

นักปรัชญาชาว ฝรั่งเศส ได้เขียนหนังสือเรื่อง The Philosophical Letters หรือLetters on the English ซึ่งได้โจมตีสถาบันและกฎระเบียบต่างๆ ของฝรั่งเศส และเรียกร้องให้มีการปฏิรูป ในหนังสือเรื่อง Elements of the Philosophy of Nation, Essay on Universal History และ เรื่อง The Age of Louis XIV เขาเสนอให้ใช้เหตุผลและสติปัญญา แก้ไขปัญหาสังคมและการเมือง

ชอง-ชาคส์ รุสโซค.ศ. 1712-1778ภาพประกอบการอธิบาย ไม่สามารถอ้างอิงเป็นหลักฐานได้ เป็นภาพจำลองของชอง-ชาคส์ รุสโซ(ที่มา:http://patiwat603.blogspot.com/p/blog-page_21.html)

1712

นักปรัชญาชาวฝรั่งเศส หนังสือที่สำคัญคือเรื่อง สัญญาประชาคม (The Social Contract) ซึ่งถือว่าเป็นการ วางรากฐานแนวคิดเกี่ยวกับอำนาจอธิปไตยของประชาชน เพราะ มนุษย์เป็นอิสระ ควรจัดตั้งรูปแบบการปกครองที่ให้ประชาชนร่วม ทำ “เจตจำนงร่วม” (General Will) หรือสัญญาประชาคมขึ้นเป็น อำนาจสูงสุด รัฐบาลจึงควรเกิดจากความเห็นร่วมกันของประชาชน

อดัม สมิธค.ศ.1723-1790ภาพประกอบการอธิบาย ไม่สามารถอ้างอิงเป็นหลักฐานได้ เป็นภาพจำลองของอดัม สมิธ(ที่มา:http://patiwat603.blogspot.com/p/blog-page_21.html)

1723

นักปรัชญาศีลธรรม และ นักเศรษฐศาสตร์การเมืองผู้บุกเบิกชาวสกอตแลนด์ สมิธเป็นผู้มีส่วนสำคัญในการกำหนดแนวคิดเศรษฐศาสตร์แนวตลาดเสรี เป็นบุคคลสำคัญในขบวนการที่เป็นที่รู้จักในชื่อว่า "ยุคเรืองปัญญาของสกอตแลนด์" โดยเป็นที่รู้จักในฐานะผู้แต่งศาสตรนิพนธ์ 2 เรื่องคือ ทฤษฎีว่าด้วยทรรศนะทางศีลธรรม (พ.ศ. 2302) และ การสอบสวนธรรมชาติและสาเหตุแห่งความมั่งคั่งของประชาชาติ 

พระเจ้าเฟรเดอริกมหาราชแห่งปรัสเซีย1740-1786 ภาพประกอบการอธิบาย ไม่สามารถอ้างอิงเป็นหลักฐานได้ เป็นภาพจำลองของพระเจ้าเฟรเดอริกมหาราชแห่งปรัสเซีย(ที่มา:สำนักพิมพ์ Silkworm Books)

1740

ทรงได้รับการยกย่องว่าเป็นตัวอย่างที่ดีของ กษัตริย์ทรงภูมิธรรม (Enlightened Despotism) ด้วยทรงใช้สติปัญญา และเหตุผลในการปกครอง ส่งเสริมการอุตสาหกรรมและการค้าเพื่อให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ดีขึ้น ทรงใช้หลักขันติธรรมทางศาสนา (religious toleration) ให้เสรีภาพแก่ประชาชนในการนับถือศาสนา และเปิดโอกาสให้ปัญญาชนสามารถแสดง ความคิดเห็นได้อย่างกว้างขวาง

ยุคแห่งพลังงานไอน้ำค.ศ. 1750 – 1870ภาพประกอบการอธิบาย ไม่สามารถอ้างอิงเป็นหลักฐานได้ เป็นภาพจำลองของยุคเเห่งพลังงานไอน้ำ(ที่มา:https://www.blockdit.com/posts/5f8ef2f018167010ed93311f)

1750

เป็นการนำพลังงานไอน้ำมาใช้ในอุตสาหกรรมทอผ้า โรงงานทอผ้าส่วนใหญ่จึงต้องอยู่ใกล้แหล่งน้ำ แต่หลังจาก เจมส์ วัตต์ ได้คิดค้นเครื่องจักรไอน้ำขึ้นทำให้โรงงานสามารถตั้งที่ไหนก็ได้ อีกทั้งยังถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมอื่นๆ เกิดการขยายตัวของผลผลิตถ่านหิน เหล็ก เหล็กกล้า ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเปลี่ยนไปสู่ระยะที่ 2 ของการปฏิวัติอุตสาหกรรม

การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่1ค.ศ. 1760 - ค.ศ. 1825ภาพประกอบการอธิบาย ไม่สามารถอ้างอิงเป็นหลักฐานได้ เป็นภาพจำลองของจักรทอผ้าแบบโรเบิร์ต(ที่มา: https://www.afterklass.com/post/detail/6076)

1760

เมื่อการเปลี่ยนแปลงในภาคเกษตรกรรม การผลิต การทำเหมืองแร่ การคมนาคมขนส่ง และเทคโนโลยี ส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อสภาพสังคม เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมในขณะนั้น การปฏิวัติเริ่มต้นในสหราชอาณาจักร จากนั้นจึงแพร่ขยายไปยังยุโรปตะวันตก อเมริกาเหนือ ญี่ปุ่น จนขยายไปทั่วทั้งโลกในเวลาต่อมา

การปฏิวัติอุตสาหกรรม

Period: 1760 to 1835

คือช่วงเวลาตั้งแต่ ค.ศ. 1760 ถึง ค.ศ. 1825 เมื่อการเปลี่ยนแปลงในภาคเกษตรกรรม การผลิต การทำเหมืองแร่ การคมนาคมขนส่ง และเทคโนโลยี ส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อสภาพสังคม เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมในขณะนั้น การปฏิวัติเริ่มต้นในสหราชอาณาจักร จากนั้นจึงแพร่ขยายไปยังยุโรปตะวันตก อเมริกาเหนือ ญี่ปุ่น จนขยายไปทั่วทั้งโลกในเวลาต่อมา

เจมส์ คุกค.ศ. 1728-1779 ภาพประกอบการอธิบาย ไม่สามารถอ้างอิงเป็นหลักฐานได้ เป็นภาพจำลองของภาพเจมส์ คุก โดยSir Nathaniel Dance-Holland, ป. 1775, National Maritime Museum, กรีนิช

1768

นักสำรวจและนักเดินเรือชาวอังกฤษ มีชื่อเสียงในฐานะพบฮาวายและทวีปออสเตเลีย ในปี ค.ศ. 1768 - 1779 การค้นพบในครั้งนี้มีอิทธิพลอย่างมากต่อความรู้ด้านภูมิศาสตร์และการล่าอาณานิคมของชาวอังกฤษ

การปฏิวัติอเมริกาค.ศ. 1775-1783ภาพประกอบการอธิบาย ไม่สามารถอ้างอิงเป็นหลักฐานได้ เป็นภาพจำลองของการปฏิวัติอเมริกา(ที่มา:

1775

ได้นำแนวคิดมากมายจากอารยธรรมยุคแรก ๆ ของกรีกและโรมมารวมเข้ากับคัมภีร์ไบเบิลของคริสเตียนเพื่อต่อต้านผู้มีอำนาจที่ไม่ยอมลดละ(คือราชอาณาจักรบริเทนใหญ่ซึ่งปกครองอเมริกาในฐานะเมืองขึ้นและขูดรีดภาษีจนเกิดการต่อต้าน) พวกเขาเชื่อว่าผู้ชายทุกคน (แม้ว่าในเวลานั้นคำพูดนั้นจะดูไม่กว้างเพราะยังมีชนชั้นอื่นๆ

การปฏิวัติอเมริกา (1775–1783)ภาพประกอบการอธิบาย ไม่สามารถอ้างอิงเป็นหลักฐานได้ เป็นภาพจำลองของการปฏิวัติอเมริกา (ที่มา:https://thehistorynow.com/american-revolutionary-war-the-battle-of-long-island/)

1776

การต่อสู้ของอาณานิคมอเมริกากับจักรวรรดิอังกฤษเพื่อนำไปสู่การประกาศอิสรภาพในปี 1776 และการก่อตั้งสหรัฐอเมริกา ซึ่งกลายเป็นต้นแบบของการสร้างรัฐประชาธิปไตย

การปฏิวัติฝรั่งเศส (1789–1799)ภาพประกอบการอธิบาย ไม่สามารถอ้างอิงเป็นหลักฐานได้ เป็นภาพจำลองของการปฏิวัติฝรั่งเศส(ที่มาhttps://board.postjung.com/1234833)

1789

เริ่มต้นขึ้นในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1789 เมื่อกองกำลังร่วมกันล้มล้างระบอบเก่าเพื่อสถาปนาระบอบใหม่ นำไปสู่ระบอบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญเป็นระยะเวลาชั่วคราว

สงครามนโปเลียนค.ศ. 1803 – 1815ภาพประกอบการอธิบาย ไม่สามารถอ้างอิงเป็นหลักฐานได้ เป็นภาพจำลองของสงครามนโปเลียน(ที่มา:https://www.blockdit.com/posts/6169c2bb8e5f180e8accc2a7)

1803

เป็นหนึ่งในความขัดแย้งที่สำคัญในระดับโลกที่เกิดขึ้นระหว่างจักรวรรดิฝรั่งเศสและพันธมิตร ซึ่งนำโดยจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ต่อกรกับรัฐต่าง ๆ ในยุโรป

จู๋เอดัวอาร์ มาเนต์23 มกราคม ค.ศ. 1832 - 30 เมษายน ค.ศ. 1883) ภาพถ่ายโดยนาดาร์

1832

เป็นจิตรกรสมัยอิมเพรสชันนิสม์คนสำคัญของประเทศฝรั่งเศสในคริสต์ศตวรรษที่ 19 มีความสำคัญในการเขียนภาพสีน้ำมัน ผู้เป็นจิตรกรคนแรกในคริสต์ศตวรรษที่ 19 ที่เขียนภาพเกี่ยวกับชีวิตประจำวันของคนทั่วไป มาแนเป็นจิตรกรคนสำคัญที่มีบทบาทในการเปลี่ยนจากการเขียนภาพแบบเหมือนจริง (Realism) ไปเป็นแบบอิมเพรสชันนิสม์

Baicllus pestis ค.ศ. 1855 ภาพประกอบการอธิบาย ไม่สามารถอ้างอิงเป็นหลักฐานได้ เป็นภาพจำลองของBaicllus pestis (ที่มา:https://www.historytoday.com/archive/feature/plague-england)

1855

เป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน (Zoonosis) ที่เกี่ยวข้องกับสัตว์ฟันแทะและหมัด  ผู้ที่เป็นโรคนี้จะมีอาการ 3 รูปแบบ คือ กาฬโรคปอด (peneumonic) กาฬโรคต่อมน้ำเหลือง (bubonic) และกาฬโรคเลือด (septicemic) ซึ่งกาฬโรคทั้ง 3 ชนิดนี้ ทำให้เสียชีวิตได้ใน 5 - 6 วัน หลังจากได้รับเชื้อ  การติดต่อมาสู่คนเกิดขึ้นได้ 3 ทาง ได้แก่ การถูกหมัดที่มีเชื้อกัด การสัมผัสเนื้อเยื่อ ของสัตว์ที่ติดเชื้อ

อัลล์วาร์ กูลล์สตรานด์ค.ศ. 1862-1930

1862

กูลล์สตรานด์ยังได้ชื่อว่าเป็นผู้วิจัยด้านสายตาพร่าต่างแนวและผู้พัฒนากล้องส่องตรวจในตาและเลนส์เพื่อใช้หลังจากผ่าตัดต้อกระจก

วัลเทอร์ แฮร์มัน แน็นสท์ค.ศ. 1864 – 18 พฤศจิกายน ค.ศ. 1941

1864

เป็นนักเคมีชาวเยอรมันที่รู้จักกันจากผลงานในสาขาอุณหพลศาสตร์ เคมีเชิงฟิสิกส์ เคมีไฟฟ้า และฟิสิกส์สถานะของแข็ง การกำหนดทฤษฎีบทความร้อนของแน็นสท์ช่วยปูทางสำหรับกฎข้อที่สามของอุณหพลศาสตร์ ทำให้เขาได้รับรางวัลโนเบลสาขาเคมี ค.ศ. 1920 นอกจากนี้เขายังเป็นที่รู้จักกันในการพัฒนาสมการแน็นสท์ใน ค.ศ. 1887

ยุคแห่งพลังงานถ่านหินและเหล็ก ค.ศ. 1870 – ปัจจุบัน ภาพประกอบการอธิบาย ไม่สามารถอ้างอิงเป็นหลักฐานได้ เป็นภาพจำลองของ(ที่:https://www.blockdit.com/posts/5f8ef2f018167010ed93311f)

1870

เป็นช่วงที่มีการประดิษฐ์และการใช้พลังงานจากไฟฟ้า น้ำมัน อุตสาหกรรมหนักและสายการผลิตเติบโตขึ้นเป็นอย่างมาก มีการผลิตใยสังเคราะห์ โลหะเบามาใช้เป็นวัตถุดิบของ ยานพาหนะ กลายเป็นจุดเริ่มต้นของ รถไฟ จากการคิดค้นของจอร์จ สตีเฟนสัน ทำให้อุตสาหกรรมคมนาคมและการสื่อสารก้าวหน้ามากขึ้น

ยาโกบึส แฮ็นรีกึส วันต์โฮฟฟ์ภาพถ่ายของวันต์โฮฟฟ์เมื่อ ค.ศ. 1904 โดย Nicola Perscheid

1875

เป็นนักเคมีทางกายภาพชาวดัตช์ที่ได้รับรางวัลโนเบลในสาขาเคมีเป็นคนแรก

วิลเฮ็ล์ม ค็อนราท เรินท์เกิ

1896

เป็นนักฟิสิกส์ชาวเยอรมัน ประจำมหาวิทยาลัยเวือทซ์บวร์ค ผู้ค้นพบและสร้างรังสีแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความยาวคลื่นขนาดที่รู้จักในปัจจุบันว่า รังสีเอกซ์ 

เอมีล อาด็อล์ฟ ฟ็อน เบริงค.ศ. 1854 – ค.ศ. 1917

1901

เป็นนักสรีรวิทยาชาวเยอรมันซึ่งได้รับรางวัลโนเบลสาขาสรีรวิทยาหรือการแพทย์ใน ค.ศ. 1901

อีวาน เปโตรวิช ปัฟลอฟ

1904

เป็นนักจิตวิทยาและสรีรวิทยาชาวรัสเซีย-โซเวียต ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสรีรวิทยาหรือการแพทย์ใน ค.ศ. 1904 จากงานวิจัยเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร นอกจากนี้ปัฟลอฟยังเป็นที่รู้จักจากการอธิบายปรากฏการณ์การวางเงื่อนไขแบบดั้งเดิม 

เซอร์วิลเลียม แรมเซย์

1904

 เป็นนักเคมีชาวสก็อตที่ค้นพบก๊าซเฉื่อยและได้รับรางวัลโนเบลสาขาเคมีในปี 1904 "เพื่อเป็นการยอมรับในผลงานของเขาในการค้นพบธาตุที่เป็นก๊าซเฉื่อยในอากาศ

สงครามบอลข่านภาพประกอบการอธิบาย ไม่สามารถอ้างอิงเป็นหลักฐานได้ เป็นภาพจำลองของสงครามบัลข่านhttps://history-maps.com/th/story/Balkan-Wars

1912

เป็นหนึ่งในความขัดแย้งทั้งสองครั้งที่เกิดขึ้นในรัฐบอลข่านในปี 1912 จนถึง 1913 ในช่วงสงครามบอลข่านครั้งที่หนึ่ง รัฐบอลข่านทั้งสี่คือ กรีซ เซอร์เบีย มอนเตเนโกร และบัลแกเรีย ได้ประกาศสงครามต่อจักรวรรดิออตโตมันและสามารถเอาชนะจักรวรรดิออตโตมันได้ 

สงครามโลกครั้งที่หนึ่งค.ศ.1914-1918

1914

เคยเรียกว่ามหาสงคราม ในช่วงเวลานั้นไม่มีใครสามารถจินตนาการถึงสิ่งที่เลวได้เพราะเป็นสงครามที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญและไม่มีใครคิดมาก่อนว่าจะเกิด

เฟอร์ดินานด์ มาเจลลัน ค.ศ. 1919-1922ภาพประกอบการอธิบาย ไม่สามารถอ้างอิงเป็นหลักฐานได้ เป็นภาพจำลองของเฟอร์ดินานด์ มาเจลลันhttps://liff.line.me/1454988218-NjbXbq18/v2/article/MW1ZVz?utm_source=copyshare)

1919

 เป็นนักเดินเรือชาวโปรตุเกส มีชีวิตอยู่ตรงกับรัชสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถและสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 แห่งกรุงศรีอยุธยา เขาเกิดที่เมืองซาบรอซา ทางภาคเหนือของประเทศโปรตุเกส หลังจากรับราชการทหารที่อินเดียตะวันออกและโมร็อกโก มาเจลลันได้เสนอตัวทำงานให้กับพระเจ้าการ์โลสที่ 1 แห่งสเปนเพื่อค้นหาเส้นทางเดินเรือทางทิศตะวันตกสู่ "หมู่เกาะเครื่องเทศ" (หมู่เกาะโมลุกกะในประเทศอินโดนีเซียในปัจจุบัน) เขาจึงได้รับสัญชาติสเปนด้วย

ฌ็อง บาติสต์ แปแร็ง 30 กันยายน ค.ศ. 1870 – 17 เมษายน ค.ศ. 1942) เป็นนักฟิสิกส์ชาวฝรั่งเศส และผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ ในปี ค.ศ. 1926

1926

ปี ค.ศ. 1895 แปแร็งแสดงให้เห็นว่า รังสีแคโทดประกอบขึ้นจากคอร์พัสเคิลที่มีประจุไฟฟ้าเป็นลบ เขาคำนวณเลขอาโวกาโดรด้วยกระบวนการหลายแบบ และอธิบายพลังงานแสงอาทิตย์ด้วยปฏิกิริยาเทอร์โมนิวเคลียร์ของไฮโดรเจน

แฮโรลด์ เคลย์ตัน ยูเร29 เมษายน 1893 – 5 มกราคม 1981) 

1934

เป็นนักเคมีฟิสิกส์ ชาวอเมริกัน ที่มีผลงานบุกเบิกเกี่ยวกับไอโซโทป ซึ่ง ทำให้เขาได้รับรางวัลโนเบลสาขาเคมีในปี 1934 สำหรับการค้นพบดิวทีเรียมเขามีบทบาทสำคัญในการพัฒนาระเบิดปรมาณูรวมถึงมีส่วนสนับสนุนทฤษฎีเกี่ยวกับ การพัฒนาชีวิตอินทรีย์จากส สารที่ไม่มีชีวิต

เชอร์ เจมส์ แชดวิก

1935

จากผลงานการค้นพบอนุภาคนิวตรอน ทำให้แชดวิกได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์เมื่อ ค.ศ. 1935 อันนำไปสู่ความเข้าใจเรื่องอนุภาคในอะตอม (subatomic particle) ไอโซโทป (isotope) ของธาตุ และความก้าวหน้าด้านพลังงานนิวเคลียร์

สงครามโลกครั้งที่สองค.ศ. 1939 ถึง 1945

1939

เป็นสงครามทั่วโลกที่กินเวลาตั้งแต่ ค.ศ. 1939 ถึง 1945 ประเทศส่วนใหญ่ในโลกมีส่วนเกี่ยวข้อง รวมทั้งรัฐมหาอำนาจทั้งหมด แบ่งเป็นพันธมิตรทางทหารคู่สงครามสองฝ่าย คือ ฝ่ายสัมพันธมิตรและฝ่ายอักษะ เป็นสงครามที่กว้างขวางที่สุดในประวัติศาสตร์ มีทหารกว่า 100 ล้านนายจากกว่า 30 ประเทศเข้าร่วมโดยตรง

โทมัส ฮันท์ มอร์แกน (25 กันยายน พ.ศ. 2409 – 4 ธันวาคม พ.ศ. 2488)

1939

เป็นนักชีววิทยาวิวัฒนาการ นักพันธุศาสตร์ นักวิทยาเอ็มบริโอ และนักเขียนด้านวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกันที่ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสรีรวิทยาหรือการแพทย์ ในปี พ.ศ. 2476 สำหรับการค้นพบที่อธิบายบทบาทของโครโมโซมในพันธุกรรม

สงครามไวกิ้งนักรบชาวไวกิ้ง วาดโดย Peter Nicolai Arbo... อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.silpa-mag.com/history/article_111685

1944

ไวกิ้งจากสแกนดิเนเวียทำการรุกรานและปล้นสะดมดินแดนในยุโรปตะวันตกและตะวันออกในคริสต์ศตวรรษที่ 8 ถึง 11 สงครามนี้เป็นผลมาจากความต้องการขยายอาณาเขตของไวกิ้งและค้นหาทรัพยากรใหม่

สงครามโลก

Period: 1945 to 2022

เป็นความขัดแย้งระดับนานาชาติที่เกี่ยวข้องกับมหาอำนาจโลกส่วนใหญ่หรือทั้งหมด[1] ตามแบบแผน คำนี้สงวนไว้สำหรับความขัดแย้งระหว่างประเทศที่สำคัญที่เกิดขึ้นในช่วงครึ่งแรกของคริสต์ศตวรรษที่ 20 สองครั้ง

การขึ้นมาของสงครามเย็นค.ศ.1947-1991

1947

เป็นความตึงเครียดระหว่างสหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียตและพันธมิตร ซึ่งส่งผลกระทบต่อการเมืองระหว่างประเทศ การแข่งขันด้านอาวุธนิวเคลียร์ และการแบ่งแยกทางอุดมการณ์ระหว่างฝ่ายคอมมิวนิสต์และฝ่ายเสรีประชาธิปไตย

การลงจอดบนดวงจันทร์

1969

ภารกิจอพอลโล 11 ของนาซา ทำให้มนุษย์เดินทางไปถึงดวงจันทร์เป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นความสำเร็จทางเทคโนโลยีและการสำรวจอวกาศที่สำคัญ

การล่มสลายของสหภาพโซเวียต

1988

เป็นกระบวนการของการสลายตัวภายในประเทศของสหภาพโซเวียต ซึ่งเริ่มต้นด้วยความไม่สงบที่เพิ่มมากขึ้นในสาธารณรัฐต่าง ๆ ซึ่งพัฒนาไปสู่ความขัดแย้งทางการเมืองและนิติบัญญัติอย่างต่อเนื่องระหว่างสาธารณรัฐต่าง ๆ กับรัฐบาลกลาง และสิ้นสุดลงเมื่อผู้นำของสามสาธารณรัฐหลัก

การทำลายกำแพงเบอร์ลิน

1989

การทำลายกำแพงอาจดูเหมือนไม่มีอะไรน่าจดจำมากนัก แต่เมื่อตระหนักถึงสิ่งอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นพร้อมกับกำแพงนั้นคุณจะเริ่มเห็นมันในแง่มุมใหม่ทั้งหมด  อย่างไรก็ตามยังมีความมั่นคงระหว่างประเทศต่างๆ ซึ่งเคยเป็นพันธมิตรกันในช่วงสงครามโลกมีการแบ่งพวกอยู่สองฝ่ายและต่างฝ่ายต่างต้องการขยายแนวคิดระบอบการปกครองของตนออกไปให้ได้มากที่สุด

สงครามอ่าว (1990-1991) โดย ชุติกาญจน์  ชมภูวัฒนา

1990

ทำให้สหรัฐฯ และประเทศพันธมิตรเข้าสู่สงครามในอัฟกานิสถานและอิรัก สงครามนี้ไม่ได้ต่อสู้กับประเทศ แต่ต่อสู้กับองค์กรก่อการร้ายที่ไม่มีรัฐ

สงครามต่อต้านการก่อการร้าย (หลังเหตุการณ์ 11 กันยายน 2001)

2001

ทำให้สหรัฐฯ และประเทศพันธมิตรเข้าสู่สงครามในอัฟกานิสถานและอิรัก สงครามนี้ไม่ได้ต่อสู้กับประเทศ แต่ต่อสู้กับองค์กรก่อการร้ายที่ไม่มีรัฐ