• 3300 BCE

    อารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ

    อารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ
    อารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ (Indus Valley Civilization) เป็นอารยธรรมโบราณที่มีความสำคัญและรุ่งเรืองในช่วงประมาณ 3300-1300 ปีก่อนคริสตกาล
  • Period: 3300 BCE to 1300 BCE

    อารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ

    อารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ (Indus Valley Civilization) ซึ่งเริ่มประมาณ 3300 ปีก่อนคริสตกาล มีเมืองใหญ่เช่น โมเฮนโจดาโรและฮารัปปา เมืองมีการวางแผนที่ดีและระบบการจัดการน้ำที่ล้ำสมัย เศรษฐกิจหลักคือการเกษตรและการค้าขาย การเขียนของพวกเขายังไม่สามารถถอดรหัสได้ชัดเจน อารยธรรมนี้ล่มสลายราว 1300 ปีก่อนคริสตกาล.
  • 3100 BCE

    อารยธรรมอียิปต์โบราณ

    อารยธรรมอียิปต์โบราณ
    อารยธรรมอียิปต์โบราณ (Ancient Egypt) เป็นหนึ่งในอารยธรรมที่สำคัญและเจริญรุ่งเรืองที่สุดในโลกโบราณ ตั้งอยู่ในดินแดนที่ปัจจุบันคือประเทศอียิปต์ โดยเฉพาะบริเวณลุ่มแม่น้ำไนล์ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้อารยธรรมนี้เจริญเติบโต อียิปต์โบราณเริ่มต้นประมาณ 3,100 ปีก่อนคริสตกาล (ประมาณ 2,600 ปีก่อนพุทธศักราช) และดำรงอยู่ยาวนานถึงเกือบ 3,000 ปี
  • Period: 3100 BCE to

    อารยธรรมอียิปต์โบราณ

    อารยธรรมอียิปต์โบราณมีจุดเด่นดังนี้: 1. ที่ตั้ง: อยู่บริเวณแม่น้ำไนล์ ทำให้ดินอุดมสมบูรณ์และเหมาะแก่การเกษตร 2. ฟาโรห์: ผู้ปกครองสูงสุด มีอำนาจทั้งทางโลกและศาสนา 3. ศาสนา: นับถือเทพเจ้าหลายองค์ เชื่อเรื่องชีวิตหลังความตายและทำมัมมี่ 4. สถาปัตยกรรม: พีระมิดและวิหาร เช่น พีระมิดกีซาและวิหารคาร์นัก 5. อักษรเฮียโรกลิฟฟิก: ระบบเขียนที่ซับซ้อน 6. วิทยาการ: มีความก้าวหน้าในด้านการแพทย์ คณิตศาสตร์ และการก่อสร้าง 7. การล่มสลาย: ถูกยึดครองโดยจักรวรรดิอื่น ๆ เช่น เปอร์เซียและโรมัน
  • 3000 BCE

    อารยธรรมลุ่มแม่น้ำไนล์ในอียิปต์โบราณ

    อารยธรรมลุ่มแม่น้ำไนล์ในอียิปต์โบราณ
    อารยธรรมลุ่มแม่น้ำไนล์ในอียิปต์โบราณเป็นหนึ่งในอารยธรรมที่เก่าแก่และทรงอิทธิพลมากที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษย์
  • 3000 BCE

    อารยธรรมเมโสโปเตเมีย

    อารยธรรมเมโสโปเตเมีย
    อารยธรรมเมโสโปเตเมีย (Mesopotamia) เป็นหนึ่งในอารยธรรมที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ในภูมิภาคระหว่างแม่น้ำไทกริสและแม่น้ำยูเฟรทีส ซึ่งปัจจุบันคือดินแดนของประเทศอิรักและบางส่วนของซีเรีย คำว่า “เมโสโปเตเมีย” มาจากภาษากรีกที่หมายถึง “ดินแดนระหว่างแม่น้ำ”
  • 3000 BCE

    ศาสนาอียิปต์โบราณและเทพเจ้า

    ศาสนาอียิปต์โบราณและเทพเจ้า
    ศาสนาอียิปต์โบราณมีลักษณะเป็นพหุเทวนิยม (polytheism) และเต็มไปด้วยความเชื่อในเทพเจ้าและชีวิตหลังความตาย
  • 3000 BCE

    การเดินเรือและการค้าระหว่างเมืองโบราณ

    การเดินเรือและการค้าระหว่างเมืองโบราณ
    การเดินเรือและการค้าระหว่างเมืองในยุคโบราณช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมระหว่างภูมิภาคต่างๆ.
  • 3000 BCE

    ศาสนาและพิธีกรรมในอียิปต์โบราณ

    ศาสนาและพิธีกรรมในอียิปต์โบราณ
    ศาสนาและพิธีกรรมในอียิปต์โบราณสะท้อนถึงความเชื่อในพลังเหนือธรรมชาติและความสำคัญของการเตรียมตัวสำหรับชีวิตหลังความตาย.
  • 3000 BCE

    การแพทย์และการรักษาในยุคโบราณ

    การแพทย์และการรักษาในยุคโบราณ
    การแพทย์ในยุคโบราณมักเน้นการใช้สมุนไพร, การรักษาด้วยวิธีธรรมชาติ, และการใช้พิธีกรรมร่วมกับการรักษาทางการแพทย์.
  • Period: 3000 BCE to

    เปโสโปเตเมีย

    อารยธรรมเมโสโปเตเมีย (Mesopotamia) มีข้อมูลสำคัญดังนี้: 1. สถานที่: ตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำไทกริสและยูเฟรทีส (ปัจจุบันคืออิรักและซีเรีย) 2. เมืองรัฐหลัก: สุเมอร์, อัคคัด, บาบิโลน, อัสซีเรีย 3. ระบบการปกครอง: เมืองรัฐและจักรวรรดิที่มีระบบกษัตริย์ 4. การเขียน: อักษรคูนิฟอร์ม เป็นอักษรแรกของโลก 5. ศาสนา: บูชาเทพเจ้าหลายองค์ สร้างวิหารซิกกูรัต 6. กฎหมาย: กฎหมายฮัมมูราบี เป็นกฎหมายที่เก่าแก่ที่สุด 7. ผลงานสำคัญ: มหากาพย์กิลกาเมช 8. นวัตกรรม: การคิดค้นล้อและระบบชลประทาน
  • Period: 3000 BCE to 350 BCE

    ศาสนาอียิปต์โบราณและเทพเจ้า

    ศาสนาอียิปต์โบราณเริ่มต้นประมาณ 3,000 ปีก่อนคริสตกาล (ประมาณ 4,500 ปีที่แล้ว) และดำเนินต่อเนื่องจนถึงช่วงศตวรรษที่ 4-5 คริสต์ศักราช (พ.ศ. 700-800) จุดเด่นรวมถึง:
    • เทพเจ้า: รา, ออซิริส, อิสิส, เซ็ท, โฮรุส, ธอท, ฮาเธอร์
    • ความเชื่อหลัก: ชีวิตหลังความตาย, การทำมัมมี่, และพิธีกรรมบูชาเทพเจ้า
  • Period: 3000 BCE to 1000 BCE

    อารยธรรมลุ่มแม่น้ำไนล์ในอียิปต์โบราณ

    อารยธรรมลุ่มแม่น้ำไนล์ในอียิปต์โบราณเริ่มประมาณ 3000 ปีก่อนคริสตกาลและมีความสำคัญ: 1. การปกครอง: ฟาโรห์เป็นกษัตริย์และเทพเจ้า 2. ศาสนา: มีเทพเจ้าหลายองค์และพิธีกรรมสำคัญ 3. การเขียน: ใช้เฮียโรกลิฟฟิค 4. สถาปัตยกรรม: สร้างพีระมิดและวิหารใหญ่ 5. การเกษตร: เกษตรกรรมอิงกับน้ำจากแม่น้ำไนล์ 6. สังคมและเศรษฐกิจ: มีชนชั้นและเศรษฐกิจสนับสนุนจากการเกษตรและการค้า 7. การแพทย์: มีการใช้สมุนไพรและวิธีการรักษา 8. ศิลปะและวรรณกรรม: ศิลปะมีลักษณะเฉพาะและมีวรรณกรรมสำคัญ
  • Period: 3000 BCE to 1000 BCE

    ศาสนาและพิธีกรรมในอียิปต์โบราณ

    1. เทพเจ้าและเทพธิดา: มีเทพเจ้าและเทพธิดาหลายองค์ เช่น เทพรา (Ra), เทพอิสิส (Isis), และเทพอนูบิส (Anubis) 2. พิธีกรรม: รวมถึงการบูชาเทพเจ้าในวัด การถวายของใช้และอาหาร 3. พิธีศพ: การมummification และการฝังของใช้ส่วนตัวในหลุมศพเพื่อเตรียมตัวสำหรับชีวิตหลังความตาย 4. ชีวิตหลังความตาย: เชื่อในการฟื้นคืนชีพและการตัดสินโดยเทพโอซิริส (Osiris) 5. วัดและศาสนสถาน: วัดเป็นศูนย์กลางของพิธีกรรมและการบูชา ศาสนาและพิธีกรรมเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการดำเนินชีวิตและความเชื่อของชาวอียิปต์โบราณ.
  • Period: 3000 BCE to 1000 BCE

    การแพทย์และการรักษาในยุคโบราณ

    การแพทย์ในยุคโบราณมีลักษณะดังนี้:
    1. อียิปต์โบราณ (3000 ปีก่อนคริสตกาล): ใช้สมุนไพร, การผ่าตัด, และพิธีกรรม
    2. จีนโบราณ (2500 ปีก่อนคริสตกาล): ใช้การฝังเข็ม, สมุนไพร, และการนวด
    3. อินเดียโบราณ (1000 ปีก่อนคริสตกาล): ใช้การแพทย์อายุรเวท, สมุนไพร, และการทำความสะอาด
    4. กรีกโบราณ (400-300 ปีก่อนคริสตกาล): ใช้ทฤษฎีของฮิปโปเครติส, สมุนไพร, และการศึกษาอาการ
    5. โรมันโบราณ (200 ปีก่อนคริสตกาล): รวมการแพทย์จากกรีก, สร้างโรงพยาบาล, และพัฒนาการรักษา
  • Period: 3000 BCE to

    การเดินเรือและการค้าระหว่างเมืองโบราณ

    การเดินเรือและการค้าระหว่างเมืองโบราณเริ่มต้นดังนี้:
    1. อียิปต์โบราณ: ประมาณ 3000 ปีก่อนคริสตกาล
    2. กรีกโบราณ: ประมาณศตวรรษที่ 8 ก่อนคริสตกาล
    3. โรมันโบราณ: ประมาณศตวรรษที่ 1 ก่อนคริสตกาลถึงศตวรรษที่ 5 คริสต์ศักราช
    การเดินเรือและการค้าช่วยเชื่อมโยงภูมิภาคและส่งเสริมการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและเศรษฐกิจ.
  • 2600 BCE

    ความสำคัญของมหาพีระมิดแห่งกิซ่า

    ความสำคัญของมหาพีระมิดแห่งกิซ่า
    มหาพีระมิดแห่งกิซ่า (Great Pyramid of Giza) ถือเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกโบราณที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน และมีความสำคัญทั้งในด้านประวัติศาสตร์ ศาสนา และสถาปัตยกรรม
  • Period: 2600 BCE to 543 BCE

    ความสำคัญของมหาพีระมิดแห่งกิซ่า

    มหาพีระมิดแห่งกิซ่ามีความสำคัญในหลายด้าน ได้แก่:
    1. เป็นสัญลักษณ์ของอารยธรรมอียิปต์โบราณที่แสดงถึงความก้าวหน้าทางวิศวกรรมและการปกครอง
    2. สร้างขึ้นเพื่อเป็นสถานที่ฝังพระศพของฟาโรห์คูฟู เชื่อมโยงกับความเชื่อเรื่องชีวิตหลังความตาย
    3. เป็นแหล่งศึกษาวิทยาการและการก่อสร้างที่สำคัญสำหรับนักโบราณคดี
    4. ถือเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณที่ยังคงอยู่ในปัจจุบัน
    5. เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลกที่ดึงดูดผู้คนจากทั่วโลก
  • 2070 BCE

    อารยธรรมจีนโบราณ

    อารยธรรมจีนโบราณ
    อารยธรรมจีนโบราณเริ่มต้นประมาณ 2070 ปีก่อนคริสตกาลและสิ้นสุดลงในปี ค.ศ. 220 จุดเด่นคือ:
    • ราชวงศ์สำคัญ: เซี่ย, ชาง, โจว, ฉิน, ฮั่น
    • การปกครอง: ระบบราชวงศ์และจักรพรรดิ
    • ปรัชญา: ขงจื๊อ, เต๋า
    • วิทยาการ: การพิมพ์, เข็มทิศ, ดินปืน
    • ศิลปะ: เซรามิกส์และการทอผ้า
  • Period: 2070 BCE to 220

    อารยธรรมจีนโบราณ

    อารยธรรมจีนโบราณเริ่มต้นประมาณ 2070 ปีก่อนคริสตกาลและสิ้นสุดในปี ค.ศ. 220 จุดเด่นรวมถึง:
    • ราชวงศ์สำคัญ:
      • เซี่ย (Xia): 2070-1600 ปีก่อนคริสตกาล
      • ชาง (Shang): 1600-1046 ปีก่อนคริสตกาล
      • โจว (Zhou): 1046-256 ปีก่อนคริสตกาล
      • ฉิน (Qin): 221-206 ปีก่อนคริสตกาล
      • ฮั่น (Han): 206 ปีก่อนคริสตกาล - ค.ศ. 220
    • การปกครอง: ระบบราชวงศ์และการรวมศูนย์อำนาจ
    • ปรัชญาและวรรณกรรม:
      • ปรัชญา: ขงจื๊อ (Confucianism), เต๋า (Taoism), ม่อจื๊อ (Mohism)
      • วรรณกรรม: “
  • 1754 BCE

    กฎหมายฮัมมูราบี

    กฎหมายฮัมมูราบี
    กฎหมายฮัมมูราบีเป็นหลักฐานสำคัญที่แสดงถึงความก้าวหน้าทางกฎหมายและการบริหารในยุคโบราณ.
  • Period: 1754 BCE to

    กฎหมายฮัมมูราบี

    กฎหมายฮัมมูราบี (1754 ปีก่อนคริสตกาล) เป็นชุดกฎหมายโบราณของบาบิโลน ประกอบด้วย 282 มาตรา ครอบคลุมหลายด้าน เช่น อาชญากรรมและการค้า ใช้หลักการ "ตามกฎ" (Lex Talionis) หรือการลงโทษตามความผิด กฎหมายนี้มีอิทธิพลสำคัญต่อระบบกฎหมายในยุคหลัง.
  • 1500 BCE

    ศาสนาฮินดูและพุทธในอินเดียโบราณ

    ศาสนาฮินดูและพุทธในอินเดียโบราณ
    • ศาสนาฮินดู: มุ่งเน้นการบรรลุโมกษะผ่านการเคารพบูชาเทพเจ้าและปฏิบัติตามพิธีกรรมทางศาสนา
    • ศาสนาพุทธ: มุ่งเน้นการหลุดพ้นจากความทุกข์ผ่านการปฏิบัติธรรมและการเข้าถึงนิพพาน
  • Period: 1500 BCE to 6

    ศาสนาฮิสดูและพุทธในอินเดียโบราณ

    ศาสนาฮินดู
    • ช่วงเวลา: เริ่มประมาณ 1500 ปีก่อนคริสตกาล
    • หลักสำคัญ:
      • เทพเจ้า: พรหม, วิษณุ, ชิว่า
      • ตำรา: เวท, อุปนิสรร, มหาภารตะ, รามายณะ
      • ความเชื่อ: การบรรลุโมกษะ (หลุดพ้นจากวงจรชีวิตและความตาย)
    ศาสนาพุทธ
    • ช่วงเวลา: เริ่มประมาณ ศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสตกาล
    • หลักสำคัญ:
      • พระพุทธเจ้า: พระโคตมะ
      • หลักคำสอน: สี่อริยสัจ, อริยมรรค
      • การปฏิบัติ: การฝึกสมาธิและปฏิบัติตามศีล
      • ความเชื่อ: การบรรลุการหลุดพ้นจากวงจรชีวิต (นิพพาน)
  • 1000 BCE

    อารยธรรมกรีกโบราณ

    อารยธรรมกรีกโบราณ
    อารยธรรมกรีกโบราณเป็นหนึ่งในอารยธรรมที่มีอิทธิพลมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของโลก
  • 1000 BCE

    ศาสนากรีกโบราณ

    ศาสนากรีกโบราณ
    ศาสนากรีกโบราณเป็นพหุเทวนิยมที่เริ่มประมาณ 1,000 ปีก่อนคริสตกาล
  • Period: 1000 BCE to 1 CE

    ศาสนากรีกโบราณ

    ศาสนากรีกโบราณเป็นพหุเทวนิยมที่เริ่มประมาณ 1,000 ปีก่อนคริสตกาล และมีลักษณะดังนี้:
    • เทพเจ้าและเทพีหลัก: ซุส, เฮร่า, โพเซอิดอน, อธีน่า, อโฟรไดที, อพอลโล, อาร์เทมิส
    • ความเชื่อ: เชื่อในเทพเจ้าหลายองค์, ชีวิตหลังความตาย, การบูชาเทพเจ้าผ่านพิธีกรรม
    • วรรณกรรมและพิธีกรรม: มหากาพย์ของโฮเมอร์, กีฬาโอลิมปิก
    • ความสำคัญทางวัฒนธรรม: การสร้างวัดและวิหารเพื่อบูชาเทพเจ้า
  • Period: 1000 BCE to 146 BCE

    อารยธรรมกรีกโบราณ

    อารยธรรมกรีกโบราณเริ่มต้นประมาณ 1,000 ปีก่อนคริสตกาลและสิ้นสุดลงเมื่อถูกจักรวรรดิ์โรมันพิชิตในปี 146 ก่อนคริสตกาล จุดเด่นของอารยธรรมนี้คือ:
    • เมืองรัฐ (Polis): เช่น เอเธนส์และสปาร์ตา
    • การปกครอง: ประชาธิปไตยในเอเธนส์และระบอบทหารในสปาร์ตา
    • ศาสนา: เทพเจ้าโอลิมปัส เช่น ซุสและอโฟรไดที
    • ปรัชญา: โสเครติส เพลโต และอริสโตเติล
    • ศิลปะ: ประติมากรรมและสถาปัตยกรรม เช่น วิหารพาร์เธนอน
    • กีฬา: การแข่งขันกีฬาโอลิมปิก
  • 753 BCE

    อารยธรรมโรมันโบราณ

    อารยธรรมโรมันโบราณ
    อารยธรรมโรมันโบราณเป็นหนึ่งในอารยธรรมที่สำคัญและมีอิทธิพลมากในประวัติศาสตร์โลก
  • 753 BCE

    ชีวิตประจำวันและสังคมในกรุงโรมโบราณ

    ชีวิตประจำวันและสังคมในกรุงโรมโบราณ
    ชีวิตในกรุงโรมโบราณมีความหลากหลายและสะท้อนถึงโครงสร้างสังคมและวัฒนธรรมที่ซับซ้อน.
  • Period: 753 BCE to 476

    อารยธรรมโรมันโบราณ

    อารยธรรมโรมันโบราณเริ่มต้นประมาณ 753 ปีก่อนคริสตกาลและสิ้นสุดลงเมื่อจักรวรรดิ์โรมันตะวันตกล่มสลายในปี ค.ศ. 476 จุดเด่นคือ: • การปกครอง: ราชอาณาจักร, สาธารณรัฐ, และจักรวรรดิ • ศิลปะและสถาปัตยกรรม: โคลอสเซียม, แพนธีออน • กฎหมาย: กฎหมายโรมันมีอิทธิพลต่อกฎหมายสมัยใหม่ • ภาษา: ละติน • ศาสนา: เริ่มต้นด้วยเทพเจ้าหลายองค์และเปลี่ยนเป็นคริสต์ในช่วงปลาย
  • Period: 509 BCE to 753

    ชีวิตประจำวันและสังคมในกรุงโรมโบราณ

    ชีวิตประจำวันและสังคมในกรุงโรมโบราณเริ่มพัฒนาขึ้นในช่วง:
    1. สมัยราชาธิปไตย: ประมาณ 753-509 ปีก่อนคริสตกาล (BC)
    2. สาธารณรัฐโรมัน: ประมาณ 509-27 ปีก่อนคริสตกาล (BC)
    3. จักรวรรดิโรมัน: เริ่มจากปี 27 ปีก่อนคริสตกาล (BC) และดำเนินต่อไปจนถึงการล่มสลายของจักรวรรดิในปี 476 คริสต์ศักราช (AD) (ในยุโรปตะวันตก)
    ในแต่ละช่วงเวลาเหล่านี้ โครงสร้างสังคมและชีวิตประจำวันในกรุงโรมมีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงตามบริบททางการเมืองและสังคม.
  • 508 BCE

    ประชาธิปไตยในกรีกโบราณ (กรุงเอเธนส์)

    ประชาธิปไตยในกรีกโบราณ (กรุงเอเธนส์)
    ประชาธิปไตยในกรุงเอเธนส์เป็นรูปแบบของประชาธิปไตยโดยตรงที่ประชาชนสามารถมีส่วนร่วมในการตัดสินใจและบริหารจัดการรัฐ โดยผ่านสถาบันต่างๆ เช่น สมัชชา, คณะกรรมการ, และการเลือกตั้งโดยการจับสลาก แม้ว่าจะมีข้อจำกัดในสิทธิ์การมีส่วนร่วมของกลุ่มอื่นๆ.
  • Period: 508 BCE to 322

    ประชาธิปไตยในกรีกโบราณ (กรุงเอเธนส์)

    ช่วงเวลา 508-322 ปี ก่อนคริสตกาล
    ประชาธิปไตยในกรุงเอเธนส์เป็นรูปแบบของประชาธิปไตยโดยตรงที่ประชาชนสามารถมีส่วนร่วมในการตัดสินใจและบริหารจัดการรัฐ โดยผ่านสถาบันต่างๆ เช่น สมัชชา, คณะกรรมการ, และการเลือกตั้งโดยการจับสลาก แม้ว่าจะมีข้อจำกัดในสิทธิ์การมีส่วนร่วมของกลุ่มอื่นๆ.
  • 490 BCE

    ประวัติศาสตร์สงครามเปอร์เซีย-กรีก

    ประวัติศาสตร์สงครามเปอร์เซีย-กรีก
    สงครามเปอร์เซีย-กรีก (Persian-Greek Wars) เป็นชุดของสงครามที่เกิดขึ้นระหว่างจักรวรรดิเปอร์เซียและรัฐเมืองกรีกโบราณในศตวรรษที่ 5 ก่อนคริสตกาล
  • Period: 479 BCE to 490 BCE

    ประวัติศาสตร์สงครามเปอร์เซีย-กรีก

    สงครามเปอร์เซีย-กรีก (490-479 ปีก่อนคริสตกาล) เป็นการปะทะระหว่างจักรวรรดิเปอร์เซียและรัฐเมืองกรีก:
    1. สงครามครั้งแรก: เริ่มจากการกบฏของเมืองกรีกในเอเชียไมเนอร์
    2. สงครามครั้งที่สอง: เปอร์เซียภายใต้เซอร์เซสที่ 1 รุกรานกรีซ แต่กรีกสามารถปกป้องตนเองได้
    3. เหตุการณ์สำคัญ: การสู้รบที่มาราธอนและซาลามิส
    4. ผลลัพธ์: กรีกชนะสงครามและรักษาเอกราชของตน, เปอร์เซียต้องถอนตัวจากยุโรปตะวันตก.
  • 221 BCE

    การสร้างกำแพงเมืองจีนในยุคโบราณ

    การสร้างกำแพงเมืองจีนในยุคโบราณ
    กำแพงเมืองจีนเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกและแสดงถึงความสามารถในการสร้างสรรค์และการป้องกันของอารยธรรมจีนโบราณ.
  • Period: 206 BCE to 221

    การสร้างกำแพงเมืองจีนในยุคโบราณ

    กำแพงเมืองจีนสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฉิน (221-206 ปีก่อนคริสตกาล) และต่อเนื่องจนถึงศตวรรษที่ 17 คริสต์ศักราช ใช้ป้องกันการรุกรานจากชนเผ่าทางเหนือและควบคุมการค้า มีความยาวประมาณ 21,196 กิโลเมตร และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของยูเนสโกในปี 1987.
  • 70 BCE

    การสร้างโคลอสเซียมในกรุงโรม

    การสร้างโคลอสเซียมในกรุงโรม
    โคลอสเซียมเป็นสัญลักษณ์สำคัญของสถาปัตยกรรมโรมันและการบันเทิงในยุคโรมัน.
  • Period: 70 BCE to 80 BCE

    การสร้างโคลอสเซียมในกรุงโรม

    โคลอสเซียมในกรุงโรม:
    1. สร้างเมื่อใด: เริ่มในปี 70 คริสต์ศักราช และเสร็จในปี 80 คริสต์ศักราช
    2. ที่ตั้ง: กรุงโรม, อิตาลี
    3. ขนาด: ยาว 188 เมตร, กว้าง 156 เมตร, สูง 48 เมตร, รองรับผู้ชมประมาณ 50,000-70,000 คน
    4. การใช้งาน: จัดการแสดงต่าง ๆ เช่น การต่อสู้ระหว่างนักสู้และสัตว์ป่า
    5. วัสดุ: สร้างจากคอนกรีต, อิฐ, และหินปูน
    โคลอสเซียมเป็นสัญลักษณ์ของสถาปัตยกรรมและความบันเทิงในยุคโรมัน.
  • 8 BCE

    ความเชื่อของชาวโรมัน

    ความเชื่อของชาวโรมัน
    ศาสนาและความเชื่อของชาวโรมันโบราณเป็นพหุเทวนิยมและมีลักษณะเฉพาะหลายประการ
  • Period: 8 BCE to 4

    ความเชื่อของชาวโรมัน

    ศาสนาโรมันโบราณเป็นพหุเทวนิยม เริ่มต้นประมาณศตวรรษที่ 8 ก่อนคริสตกาลและดำเนินต่อจนถึงศตวรรษที่ 4-5 คริสต์ศักราช ข้อมูลสำคัญรวมถึง:
    • เทพเจ้าและเทพีหลัก: จูปิเตอร์, จูโน, เนปจูน, มาร์ส, วีนัส, อะพอลโล, มินาร์วา
    • ความเชื่อหลัก: เชื่อในเทพเจ้าหลายองค์, การบูชาเทพเจ้าและการทำพิธีกรรม
    • พิธีกรรมและศาสนสถาน: การบูชาเทพเจ้าในวัดและการจัดพิธีกรรม
    • ความเชื่อและวัฒนธรรม: การเคารพบรรพบุรุษและการเปลี่ยนแปลงเมื่อศาสนาคริสต์เข้ามาแทนที่
  • 250

    ศิลปะและวัฒนธรรมยุคอาณาจักรมายัน

    ศิลปะและวัฒนธรรมยุคอาณาจักรมายัน
    ศิลปะและวัฒนธรรมของอาณาจักรมายันสะท้อนถึงความก้าวหน้าในด้านการเขียน, ศาสนา, และวิทยาการในยุคนั้น.
  • Period: 250 to 900

    ศิลปะและวัฒนธรรมยุคอาณาจักรมายัน

    ศิลปะและวัฒนธรรมของอาณาจักรมายันประกอบด้วย: 1. ศิลปะ: สถาปัตยกรรมพีระมิดและวัด, การสลักหิน, และเครื่องปั้นดินเผา 2. วัฒนธรรม: ระบบการเขียนภาพ (Hieroglyphs), ปฏิทินที่ซับซ้อน, และศาสนาที่มีเทพเจ้าหลายองค์ 3. วิทยาการ: ความรู้ทางดาราศาสตร์และคณิตศาสตร์, รวมถึงการใช้ระบบเลขฐานยี่สิบและการพัฒนาเลข 0