-
3500 BCE
การเกิดขึ้นของอารยธรรมสุเมเรียน
เกิดขึ้นประมาณ 3500-3000 ปีก่อนศริสตกาล เป็นอารยธรรมแรกของเมโสโปเตเมีย อารยธรรมนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในอารยธรรมที่เก่าแก่ที่สุดของโลก และเป็นรากฐานของการพัฒนาเมืองและรัฐในยุคโบราณ สุเมเรียนเป็นกลุ่มคนที่ตั้งถิ่นฐานอยู่ในพื้นที่ตอนใต้ของอิรัก พวกเขาพัฒนาเทคโนโลยีทางการเกษตร การชลประทาน และการค้า ทำให้เกิดการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคม สุเมเรียนยังเป็นที่รู้จักในการพัฒนา การเขียนอักษรรูปลิ่ม (Cuneiform) ซึ่งเป็นระบบการเขียนที่เก่าแก่ที่สุดเพื่อบันทึกข้อมูลทางเศรษฐกิจและศาสนา -
Period: 3500 BCE to 2000 BCE
การเกิดขึ้นของอารยธรรมสุเมเรียน
เกิดขึ้นประมาณ 3500-2000 ปีก่อนศริสตกาล เป็นอารยธรรมแรกของเมโสโปเตเมีย อารยธรรมนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในอารยธรรมที่เก่าแก่ที่สุดของโลก
ซึ่งปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของประเทศอิรัก โดยเฉพาะในบริเวณลุ่มแม่น้ำไทกริสและยูเฟรทีส (Tigris and Euphrates Rivers)
เป็นกลุ่มคนที่ตั้งถิ่นฐานอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวและเริ่มสร้างเมืองขนาดใหญ่ขึ้น เช่น เมืองเออร์ (Ur), เมืองอูรุก (Uruk), และเมืองลากัช (Lagash) -
3300 BCE
ยุคบรอนซ์
เกิดขึ้นเมื่อมนุษย์เริ่มพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตโลหะโดยผสมทองแดง (copper) กับดีบุก (tin) เพื่อสร้างโลหะผสมที่เรียกว่า บรอนซ์ (bronze) ซึ่งมีความแข็งแรงและทนทานมากกว่าทองแดงบริสุทธิ์ การพัฒนานี้ทำให้มนุษย์สามารถสร้างเครื่องมือ อาวุธ และสิ่งของเครื่องใช้ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งนำไปสู่การพัฒนาทางเศรษฐกิจ การเกษตร การทหาร และสังคมอย่างรวดเร็ว -
Period: 3300 BCE to 1200 BCE
การเกิดขึ้นของยุคบรอนซ์
- การค้นพบและการใช้โลหะ: ทองแดงถูกนำมาใช้ก่อนในยุคหินใหม่ (Neolithic) แต่ทองแดงบริสุทธิ์นั้นมีความอ่อนและไม่ทนทาน การผสมดีบุกเข้ากับทองแดงเพื่อทำเป็นบรอนซ์ทำให้โลหะมีความแข็งแรงขึ้นอย่างมาก
- การขยายตัวของการค้า: แหล่งแร่ดีบุกและทองแดงไม่ได้พบในทุกพื้นที่ ทำให้เกิดการค้าระหว่างภูมิภาคต่าง ๆ เพื่อแลกเปลี่ยนทรัพยากรนี้
- การพัฒนาทางสังคมและการปกครอง: การใช้บรอนซ์ในเครื่องมือการเกษตรทำให้เกิดผลผลิตอาหารมากขึ้น
-
3200 BCE
การประดิษฐ์อักษรคูนิฟอร์ม
เป็นระบบการเขียนที่เก่าแก่ที่สุดระบบหนึ่งของโลก ซึ่งถูกประดิษฐ์ขึ้นโดยชาว สุเมเรียน (Sumerians) ในบริเวณเมโสโปเตเมีย (ปัจจุบันคืออิรัก) ประมาณ 3,200 ปีก่อนคริสตกาล การเขียนคูนิฟอร์มนี้มีลักษณะเฉพาะ คือ การใช้สัญลักษณ์เป็นเส้นและรูปทรงคล้ายลิ่ม (cuneus ในภาษาละตินแปลว่า “ลิ่ม”) จึงเรียกกันว่า อักษรลิ่ม โดยการเขียนจะใช้แท่งเขียนทำจากอ้อยหรือไม้กดลงบนดินเหนียว -
2900 BCE
การปกครองแบบเมืองรัฐ (City-States)
การปกครองแบบ เมืองรัฐ (City-States) ในอารยธรรมสุเมเรียนเป็นลักษณะการจัดระเบียบทางสังคมและการปกครองที่แต่ละเมืองทำหน้าที่เป็นอิสระจากกัน มีอำนาจและกฎหมายของตนเอง ไม่ได้อยู่ภายใต้การปกครองแบบรวมศูนย์จากเมืองหลักหรือจักรวรรดิ เมืองรัฐสุเมเรียนแต่ละเมืองจึงมีการปกครองที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยมักมีการปกครองผ่านกษัตริย์หรือผู้ปกครองที่ได้รับการยอมรับจากทั้งทางการเมืองและศาสนา -
Period: 2900 BCE to 2300 BCE
การปกครองแบบเมืองรัฐ (City-States)
สุเมเรียนประกอบด้วยเมืองรัฐที่มีอำนาจปกครองตนเองแต่ละเมือง เช่น อูรุก เออร์ และลากาช เมืองเหล่านี้มักทำสงครามกันเพื่อแย่งชิงทรัพยากรและอำนาจการปกครอง ช่วงเวลานี้เกิดขึ้นในประมาณ 2,900-2,300 ปีก่อนคริสตกาล (BC) -
2580 BCE
การสร้างพีระมิดกิซา
เกิดขึ้นในช่วงยุคอาณาจักรเก่า (Old Kingdom) ของอียิปต์โบราณ ประมาณ 2,580-2,500 ปีก่อนคริสตกาล ในบริเวณที่ราบสูงกิซา (Giza Plateau) ซึ่งอยู่ใกล้กับเมืองไคโรในปัจจุบัน การสร้างพีระมิดนี้ถือเป็นหนึ่งในโครงการก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่และสำคัญที่สุดของโลกโบราณ
ที่ตั้ง พีระมิดกิซาตั้งอยู่ในบริเวณที่ราบสูงกิซา ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำไนล์ -
Period: 2580 BCE to 2560 BCE
การเกิดขึ้นของพีระมิดกิซา
- การปกครองของฟาโรห์: พีระมิดกิซาเป็นสุสานสำหรับฟาโรห์แห่งราชวงศ์ที่ 4 ฟาโรห์คูฟู
- การออกแบบและวิศวกรรม: การก่อสร้างพีระมิดใช้วิศวกรรมที่ซับซ้อน พีระมิดกิซาสร้างขึ้นจากหินปูน (limestone) และหินแกรนิต (granite) ซึ่งถูกตัดและขนส่งจากเหมืองหิน
- แรงงานมหาศาลการสร้างพีระมิดต้องใช้แรงงานจำนวนมหาศาล หลายหมื่นคน ซึ่งประกอบด้วยชาวนา ช่างฝีมือ และแรงงานที่ได้รับค่าจ้าง
- จุดประสงค์ทางศาสนา: ชาวอียิปต์เชื่อว่าพีระมิดเป็นบันไดสู่สวรรค์สำหรับฟาโรห์ ซึ่งจะขึ้นไปสู่ชีวิตหลังความตาย
-
2500 BCE
การเกิดขึ้นของอารยธรรมฮินดูในลุ่มแม่น้ำสินธุ
เกิดขึ้นประมาณ 2500 - 1500 ปีก่อนคริสตกาล ที่ปัจจุบันครอบคลุมพื้นที่ของประเทศปากีสถานและบางส่วนของอินเดียตะวันตกเฉียงเหนือ
1. ภูมิศาสตร์ที่เอื้ออำนวย
2. การตั้งถิ่นฐานและการเกษตร:ตั้งถิ่นฐานอย่างถาวรในบริเวณลุ่มแม่น้ำสินธุ เนื่องจากมีแหล่งน้ำและพื้นที่การเกษตรที่อุดมสมบูรณ์
3.การพัฒนาเทคโนโลยีและศิลปะ: ชาวลุ่มแม่น้ำสินธุมีความก้าวหน้าในด้านการช่างและเทคโนโลยี
4.การค้าและการติดต่อกับอารยธรรมอื่น: ชาวลุ่มแม่น้ำสินธุมีการค้าขายกับอารยธรรมอื่นๆในเมโสโปเตเมียและพื้นที่รอบๆผ่านการค้าทางทะเลและทางบก -
Period: 2500 BCE to 1500 BCE
การเกิดขึ้นของอารยธรรมฮินดูในลุ่มแม่น้ำสินธุ
เกิดขึ้นประมาณ 2500 - 1500 ปีก่อนคริสตกาล ที่ปัจจุบันครอบคลุมพื้นที่ของประเทศปากีสถานและบางส่วนของอินเดียตะวันตกเฉียงเหนือ
1. ภูมิศาสตร์ที่เอื้ออำนวย
2. การตั้งถิ่นฐานและการเกษตร:ตั้งถิ่นฐานอย่างถาวรในบริเวณลุ่มแม่น้ำสินธุ เนื่องจากมีแหล่งน้ำและพื้นที่การเกษตรที่อุดมสมบูรณ์
3.การพัฒนาเทคโนโลยีและศิลปะ: ชาวลุ่มแม่น้ำสินธุมีความก้าวหน้าในด้านการช่างและเทคโนโลยี
4.การค้าและการติดต่อกับอารยธรรมอื่น: ชาวลุ่มแม่น้ำสินธุมีการค้าขายกับอารยธรรมอื่นๆในเมโสโปเตเมียและพื้นที่รอบๆผ่านการค้าทางทะเลและทางบก -
2334 BCE
จักรพรรดิซาร์กอนแห่งอักแคด (Sargon of Akkad)
ในช่วงประมาณ 2,334 ปีก่อนคริสตกาล (BC) ซาร์กอนมหาราชได้รวบรวมเมืองรัฐสุเมเรียนและก่อตั้งอาณาจักรอักแคด (Akkadian Empire) ซึ่งเป็นจักรวรรดิแรกของโลก สุเมเรียนถูกครอบงำโดยจักรวรรดิอักแคดแต่ยังคงมีบทบาททางวัฒนธรรมที่สำคัญ -
2112 BCE
ยุคของอาณาจักรเออร์ที่สาม (Third Dynasty of Ur)
ในช่วงประมาณ 2,112-2,004 ปีก่อนคริสตกาล (BC) อาณาจักรเออร์ที่สาม (Third Dynasty of Ur) เจริญรุ่งเรืองและกลายเป็นศูนย์กลางของอำนาจในสุเมเรียน เป็นยุคที่สุเมเรียนมีความเจริญสูงสุดในด้านวัฒนธรรมและศิลปะ -
Period: 2112 BCE to 2004 BCE
ยุคของอาณาจักรเออร์ที่สาม (Third Dynasty of Ur)
ในช่วงประมาณ 2,112-2,004 ปีก่อนคริสตกาล (BC) อาณาจักรเออร์ที่สาม (Third Dynasty of Ur) เจริญรุ่งเรืองและกลายเป็นศูนย์กลางของอำนาจในสุเมเรียน เป็นยุคที่สุเมเรียนมีความเจริญสูงสุดในด้านวัฒนธรรมและศิลปะ -
2100 BCE
การสร้างมหาวิหารซิกกูแรต (Ziggurat)
สุเมเรียนสร้างมหาวิหารขนาดใหญ่ที่เรียกว่า “ซิกกูแรต” เพื่อใช้เป็นสถานที่บูชาเทพเจ้า หนึ่งในซิกกูแรตที่มีชื่อเสียงคือ Ziggurat of Ur ซึ่งสร้างขึ้นประมาณ 2,100 ปีก่อนคริสตกาล (BC) -
2000 BCE
การล่มสลายของสุเมเรียน
อารยธรรมสุเมเรียนเริ่มเสื่อมลงหลังจากการล่มสลายของอาณาจักรเออร์ที่สาม ในช่วงประมาณ 2,000 ปีก่อนคริสตกาล (BC) เนื่องจากการรุกรานของชนเผ่าอามอไรต์ (Amorites) และเอลาไมต์ (Elamites) -
1750 BCE
การกำเนิดกฎหมายฮัมมูราบี
ในบาบิโลน (Babylon) พระเจ้า ฮัมมูราบี ได้สร้างประมวลกฎหมายที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกโบราณ ซึ่งประกาศใช้ประมาณ 1750 ปีก่อนคริสตกาล กฎหมายนี้ครอบคลุมเรื่องความยุติธรรม การค้า และชีวิตประจำวัน เช่น ความยุติธรรมในเรื่องหนี้สิน การค้าทาส และบทลงโทษสำหรับความผิดต่าง ๆ -
1700 BCE
การล่มสลายของจักรวรรดิอัสซีเรียเก่า (Old Assyrian Empire)
จักรวรรดิอัสซีเรียเก่าซึ่งเคยมีอำนาจในเมโสโปเตเมียเสื่อมลงในช่วงเวลานี้ หลังจากการต่อสู้กับชนเผ่าต่าง ๆ ในพื้นที่ -
1600 BCE
การสิ้นสุดของอารยธรรมฮาร์รัปปา (Harappan Civilization)
อารยธรรมในลุ่มแม่น้ำสินธุ (ปัจจุบันคืออินเดียและปากีสถาน) ได้ล่มสลายไปในช่วงนี้ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศและการรุกรานของชนเผ่าอารยัน -
1600 BCE
การสิ้นสุดของอาณาจักรมิโนอัน (Minoan Civilization)
อารยธรรมมิโนอัน บนเกาะครีต (Crete) เสื่อมลงอย่างรุนแรงจากการระเบิดของภูเขาไฟ Thera ประมาณ 1600 ปีก่อนคริสตกาล ทำให้เกิดคลื่นสึนามิขนาดใหญ่และภัยธรรมชาติอื่น ๆ ส่งผลให้อารยธรรมนี้อ่อนแอลง จนถูกรุกรานจากอารยธรรมไมซีนี (Mycenaean Civilization) -
1500 BCE
การเจริญรุ่งเรืองของอาณาจักรฮิตไทต์ (Hittite Empire)
อาณาจักรฮิตไทต์ซึ่งอยู่ทางตอนกลางของตุรกีปัจจุบัน เจริญรุ่งเรืองขึ้นในช่วงเวลานี้ โดยพวกเขาได้พัฒนาศิลปะการทำเหล็กและมีอำนาจปกครองเหนือดินแดนส่วนใหญ่ในอนาโตเลีย (Anatolia) -
1500 BCE
การประดิษฐ์ภาษาสันสกฤตในอินเดีย
เป็นหนึ่งในภาษาที่เก่าแก่และสำคัญที่สุดของอินเดีย มีการใช้งานในด้านศาสนา ปรัชญา และวรรณกรรมมาตั้งแต่ยุคโบราณ ถือเป็นภาษาศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาฮินดู พุทธ และเชน โดยภาษาสันสกฤตถือกำเนิดจากตระกูลภาษาอินโด-ยูโรเปียนและมีอิทธิพลต่อภาษาและวัฒนธรรมของอินเดียและเอเชียใต้มากมาย -
1500 BCE
การกำเนิดศาสนาพราหมณ์-ฮินดูในอินเดีย
เกิดขึ้นในอินเดียโดยมีพัฒนาการต่อเนื่องหลายพันปี ซึ่งถือเป็นหนึ่งในศาสนาที่เก่าแก่ที่สุดในโลก พัฒนามาจากความเชื่อและประเพณีของชาวอารยันที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานในบริเวณลุ่มแม่น้ำสินธุและลุ่มแม่น้ำคงคาในช่วงประมาณ 1500 ปีก่อนคริสตกาล -
1400 BCE
การครอบครองดินแดนอียิปต์ของฟาโรห์อาเมนโฮเตปที่ 3 (Amenhotep III)
ฟาโรห์อาเมนโฮเตปที่ 3 เป็นฟาโรห์ผู้ทรงอำนาจที่ปกครองอียิปต์ในยุคนี้ ช่วงนี้ถือเป็นยุคทองของอียิปต์โบราณ โดยมีการพัฒนาอย่างมากในด้านศิลปะ สถาปัตยกรรม และการทูตระหว่างประเทศ -
Period: 1279 BCE to 1213 BCE
รัชสมัยของฟาโรห์รามเสสที่ 2 (Ramesses II)
รามเสสที่ 2 หรือ รามเสสมหาราช (Ramses the Great) ปกครองอียิปต์ในช่วง 1279-1213 ปีก่อนคริสตกาล เขาเป็นที่รู้จักจากสงครามกับจักรวรรดิฮิตไทต์และการสร้างอนุสรณ์สถานขนาดใหญ่ เช่น วิหารอาบูซิมเบล (Abu Simbel) -
1200 BCE
สงครามโทรจัน
เป็นตำนานที่สำคัญในวรรณกรรมกรีกโบราณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากผลงานของโฮเมอร์ (Homer) ในบทกวี อีเลียด (Iliad) และ โอดิสซีย์ (Odyssey) ตามตำนาน สงครามนี้เกิดขึ้นเนื่องจากความขัดแย้งระหว่างชาวกรีกและเมืองทรอย (Troy) ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในดินแดนของปัจจุบันคือประเทศตุรกี -
1100 BCE
การล่มสลายของจักรวรรดิฮิตไทต์
จักรวรรดิฮิตไทต์ล่มสลายจากการรุกรานของชนเผ่าต่าง ๆ รวมถึงชนเผ่าทะเล (Sea Peoples) ที่เข้ามารุกรานและทำลายอารยธรรมในภูมิภาคตะวันออกกลางและเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก -
1000 BCE
การก่อตั้งกรุงเยรูซาเลม (Jerusalem)
• กษัตริย์ดาวิด (King David) ปกครองอิสราเอลและตั้งกรุงเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงในช่วงประมาณ 1000 ปีก่อนคริสตกาล จากนั้นบุตรชายของเขา โซโลมอน (Solomon) ได้สร้างวิหารแห่งแรกของกรุงเยรูซาเลม -
900 BCE
การขยายอํานาจของจักรวรรดิอัสซีเรียใหม่ (จักรวรรดินีโอ-อัสซีเรีย)
• อัสซีเรียเริ่มกลับมามีอำนาจอีกครั้งในช่วงนี้ โดยขยายอาณาเขตออกไปอย่างกว้างขวางในตะวันออกกลาง ซึ่งถือเป็นช่วงรุ่งเรืองของจักรวรรดิอัสซีเรียใหม่ -
Period: 900 BCE to 800 BCE
การขยายอำนาจของจักรวรรดิอัสซีเรียใหม่ (Neo-Assyrian Empire)
อัสซีเรียเริ่มกลับมามีอำนาจอีกครั้งในช่วงนี้ โดยขยายอาณาเขตออกไปอย่างกว้างขวางในตะวันออกกลาง ซึ่งถือเป็นช่วงรุ่งเรืองของจักรวรรดิอัสซีเรียใหม่ -
753 BCE
การตั้งเมืองกรุงโรม
ตามตำนานโรมัน เมืองโรมถูกก่อตั้งขึ้นในปี 753 ปีก่อนคริสตกาล โดย โรมูลุส (Romulus) และเรมุส (Remus) สองพี่น้องฝาแฝดผู้ก่อตั้งเมืองนี้ โรมจะเติบโตขึ้นเป็นหนึ่งในจักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลก -
586 BCE
การทำลายวิหารเยรูซาเลมโดยจักรวรรดิบาบิโลน
• กษัตริย์เนบูคัดเนซาร์ที่ 2 (Nebuchadnezzar II) ของจักรวรรดิบาบิโลน ได้รุกรานอาณาจักรยูดาห์และทำลายวิหารเยรูซาเลม รวมถึงกวาดต้อนชาวยิวไปเป็นเชลยในบาบิโลน -
509 BCE
การก่อตั้งสาธารณรัฐโรมัน (Roman Republic)
ชาวโรมันยกเลิกระบบกษัตริย์และสถาปนาสาธารณรัฐ โดยมุ่งเน้นการปกครองผ่านสภาซีเนต (Senate) และมีข้าหลวง (Consuls) ทำหน้าที่เป็นผู้นำประเทศ -
490 BCE
สงครามเปอร์เซีย-กรีก (Persian Wars)
สงครามระหว่างอาณาจักรเปอร์เซียและนครรัฐกรีกเริ่มต้นขึ้น โดยมีการรบสำคัญเช่น การรบที่มาราธอน (Battle of Marathon) ในปี 490 ปีก่อนคริสตกาล ที่ชาวเอเธนส์สามารถขับไล่ทัพเปอร์เซียออกไปได้ -
475 BCE
ยุคจ้านกั๋ว
ยุคนี้เป็นช่วงที่จีนแบ่งแยกออกเป็นแคว้นหลายแคว้น โดยมีแคว้นที่ใหญ่และสำคัญคือ แคว้นฉิน (Qin), ฉู่ (Chu), ฉี (Qi), หาน (Han), เว่ย (Wei), จ้าว (Zhao) และเอี้ยน (Yan) แต่ละแคว้นมีการทำสงครามและแข่งขันกันเพื่อแย่งชิงอำนาจและดินแดน -
Period: 475 BCE to 221 BCE
ยุคจ้านกั๋ว
ยุคนี้เป็นช่วงที่จีนแบ่งแยกออกเป็นแคว้นหลายแคว้น โดยมีแคว้นที่ใหญ่และสำคัญคือ แคว้นฉิน (Qin), ฉู่ (Chu), ฉี (Qi), หาน (Han), เว่ย (Wei), จ้าว (Zhao) และเอี้ยน (Yan) แต่ละแคว้นมีการทำสงครามและแข่งขันกันเพื่อแย่งชิงอำนาจและดินแดน -
400 BCE
การปฏิรูปภายในแคว้นฉิน
เสวียนหยาง (Shang Yang) เป็นนักปฏิรูปสำคัญของแคว้นฉิน ในช่วงศตวรรษที่ 4 ก่อนคริสตกาล เขาได้นำเสนอการปฏิรูปต่างๆ ที่เน้นการสร้างระบบการบริหารและการปกครองที่มีประสิทธิภาพ เขาได้วางระบบการบริหารตามหลักการของนิติธรรม (Legalism) ที่เน้นกฎหมายและระเบียบที่เข้มงวด นอกจากนี้ เขายังสร้างระบบการเก็บภาษีและการทหารที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้แคว้นฉินแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจและการทหาร -
Period: 400 BCE to 301 BCE
การปฏิรูปภายในแคว้นฉิน
เสวียนหยาง (Shang Yang) เป็นนักปฏิรูปสำคัญของแคว้นฉิน ในช่วงศตวรรษที่ 4 ก่อนคริสตกาล เขาได้นำเสนอการปฏิรูปต่างๆ ที่เน้นการสร้างระบบการบริหารและการปกครองที่มีประสิทธิภาพ เขาได้วางระบบการบริหารตามหลักการของนิติธรรม (Legalism) ที่เน้นกฎหมายและระเบียบที่เข้มงวด นอกจากนี้ เขายังสร้างระบบการเก็บภาษีและการทหารที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้แคว้นฉินแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจและการทหาร -
336 BCE
รัชสมัยของอเล็กซานเดอร์มหาราช (Alexander the Great)
อเล็กซานเดอร์มหาราชแห่งมาซิโดเนีย ได้ขยายจักรวรรดิของตนไปทั่วเปอร์เซีย อียิปต์ และอินเดีย จนกลายเป็นจักรวรรดิที่ใหญ่ที่สุดในยุคนั้น -
Period: 336 BCE to 323 BCE
รัชสมัยของอเล็กซานเดอร์มหาราช (Alexander the Great)
อเล็กซานเดอร์มหาราชแห่งมาซิโดเนีย ได้ขยายจักรวรรดิของตนไปทั่วเปอร์เซีย อียิปต์ และอินเดีย จนกลายเป็นจักรวรรดิที่ใหญ่ที่สุดในยุคนั้น -
331 BCE
พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชพิชิตเปอร์เซีย
เป็นกษัตริย์และนักรบผู้ยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรมาซิโดเนียในสมัยกรีกโบราณ พระองค์ทรงเป็นที่รู้จักในฐานะนักพิชิตที่สามารถสร้างจักรวรรดิอันกว้างใหญ่ที่ครอบคลุมพื้นที่จากกรีซถึงอินเดียในช่วงชีวิตของพระองค์ แม้จะครองราชย์เพียงระยะเวลาไม่ถึง 13 ปี แต่พระองค์ได้สร้างประวัติศาสตร์ที่มีผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อโลกในยุคนั้น -
246 BCE
การผงาดขึ้นของฉินซีฮ่องเต้ (Qin Shi Huang)
ในปี 246 ก่อนคริสตกาล อิ๋งเจิ้ง (Ying Zheng) ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์แห่งแคว้นฉินเมื่ออายุเพียง 13 ปี ภายหลังเขาจะเป็นที่รู้จักในนาม ฉินซีฮ่องเต้ (จักรพรรดิฉินองค์แรก) เมื่อขึ้นครองราชย์เต็มตัว อิ๋งเจิ้งได้เริ่มต้นการขยายอำนาจและทำสงครามกับแคว้นอื่นๆ เพื่อรวมแผ่นดินจีนให้เป็นหนึ่งเดียว -
230 BCE
การรวมแผ่นดินจีน
ระหว่างปี 230 ถึง 221 ก่อนคริสตกาล ฉินซีฮ่องเต้ได้ทำสงครามและพิชิตแคว้นต่างๆ ที่เหลือ โดยเริ่มจากแคว้นหาน (Han) ในปี 230 ก่อนคริสตกาล ตามมาด้วยแคว้นจ้าว (Zhao), เว่ย (Wei), ฉู่ (Chu), ฉี (Qi) และเอี้ยน (Yan) แคว้นสุดท้ายที่ยอมจำนนคือแคว้นฉีในปี 221 ก่อนคริสตกาล ทำให้ฉินซีฮ่องเต้กลายเป็นผู้ปกครองคนแรกที่รวมแผ่นดินจีนทั้งหมดภายใต้การปกครองของจักรวรรดิเดียว -
Period: 230 BCE to 221 BCE
การรวมแผ่นดินจีน
ระหว่างปี 230 ถึง 221 ก่อนคริสตกาล ฉินซีฮ่องเต้ได้ทำสงครามและพิชิตแคว้นต่างๆ ที่เหลือ โดยเริ่มจากแคว้นหาน (Han) ในปี 230 ก่อนคริสตกาล ตามมาด้วยแคว้นจ้าว (Zhao), เว่ย (Wei), ฉู่ (Chu), ฉี (Qi) และเอี้ยน (Yan) แคว้นสุดท้ายที่ยอมจำนนคือแคว้นฉีในปี 221 ก่อนคริสตกาล ทำให้ฉินซีฮ่องเต้กลายเป็นผู้ปกครองคนแรกที่รวมแผ่นดินจีนทั้งหมดภายใต้การปกครองของจักรวรรดิเดียว -
221 BCE
การก่อตั้งราชวงศ์ฉินในจีน
เป็นราชวงศ์แรกของจีนที่รวมแผ่นดินให้เป็นหนึ่งเดียวอย่างสมบูรณ์ โดยเหตุการณ์สำคัญที่นำไปสู่การก่อตั้งราชวงศ์ฉินเกิดขึ้นจากกระบวนการรวมแคว้นต่างๆ ที่แยกกันปกครองในยุค จ้านกั๋ว (Warring States Period) -
221 BCE
การประกาศตั้งจักรวรรดิฉิน
ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของราชวงศ์ฉิน โดยการตั้งชื่อว่า “ซีฮ่องเต้” (จักรพรรดิองค์แรก) แสดงถึงความปรารถนาของพระองค์ที่จะสร้างราชวงศ์ที่ยิ่งใหญ่และคงอยู่ตลอดไป
ฉินซีฮ่องเต้ได้ปฏิรูปการปกครองโดยสร้างระบบการบริหารที่รวมศูนย์อำนาจ จัดตั้งจังหวัดและเขตปกครองทั่วประเทศ สร้างระบบการวัดและน้ำหนักที่เป็นมาตรฐาน และใช้เงินตราเดียวกันทั้งจักรวรรดิ -
206 BCE
การล่มสลายของราชวงศ์ฉิน
การปกครองที่เข้มงวดและการใช้แรงงานอย่างหนักในการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ ทำให้ประชาชนไม่พอใจและเกิดการกบฏขึ้นหลังการสิ้นพระชนม์ของฉินซีฮ่องเต้ในปี 210 ก่อนคริสตกาล ราชวงศ์ฉินจึงสิ้นสุดลงในปี 206 ก่อนคริสตกาล หลังจากครองราชย์ได้เพียง 15 ปี -
4
การประสูติของพระเยซูคริสต์
ตรงกับวันที่ 25 ธันวาคม (แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนว่าพระองค์ประสูติในวันนั้นจริง) และประมาณปี 4-6 ก่อนคริสตกาล มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อศาสนาคริสต์ เพราะเหตุการณ์นี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของภารกิจแห่งความรอดของพระเจ้าและการมาเยือนของพระผู้ช่วยให้รอดของมนุษยชาติ -
9
สมรภูมิเทียวโทบวร์ก (Battle of the Teutoburg Forest)
สมรภูมินี้เกิดขึ้นระหว่างกองทัพโรมันและกลุ่มชนเผ่าเยอรมัน โดยชนเผ่าเยอรมันภายใต้การนำของอาร์มีนิอุส (Arminius) ได้เข้าตีและทำลายกองทัพโรมัน 3 กองทัพในป่าของเทียวโทบวร์ก ทางตอนเหนือของเยอรมนีในปัจจุบัน เหตุการณ์นี้ส่งผลให้จักรวรรดิโรมันล้มเลิกการขยายอำนาจเข้าสู่ดินแดนเยอรมัน และเป็นเหตุการณ์สำคัญในการขัดขวางการขยายอำนาจของโรมันในยุโรปตอนเหนือ -
33
การตรึงกางเขนของพระเยซูคริสต์
การตรึงกางเขนของพระเยซูคริสต์เป็นเหตุการณ์ทางศาสนาที่สำคัญที่สุดสำหรับคริสต์ศาสนา พระเยซูถูกประหารชีวิตโดยการตรึงกางเขนในกรุงเยรูซาเล็ม โดยพระองค์ถูกกล่าวหาว่าทำการบ่อนทำลายอำนาจของโรมันและชาวยิวที่ปกครองดินแดนนั้น การสิ้นพระชนม์และการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซูถือเป็นแก่นของความเชื่อทางศาสนาของคริสเตียน -
43
การรุกรานบริเตนของโรมัน
จักรพรรดิโรมันเคลาดิอุส (Claudius) ได้ส่งกองทัพโรมันไปยึดครองเกาะบริเตน ซึ่งเป็นดินแดนที่อาศัยอยู่โดยชนเผ่าเคลต์ เหตุการณ์นี้ทำให้บริเตนกลายเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิโรมัน และส่งผลต่อการพัฒนาโครงสร้างทางการเมืองและสังคมของบริเตนในเวลาต่อมา -
64
ไฟไหม้กรุงโรมครั้งใหญ่ (Great Fire of Rome)
เกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ในกรุงโรมซึ่งเผาผลาญเมืองไปมากกว่า 10 วัน ขณะนั้นจักรพรรดิเนโร (Nero) เป็นผู้ปกครองโรม เขาถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้สั่งให้เผาเมืองเพื่อสร้างเมืองใหม่ตามแผนของเขา แม้ว่าเหตุการณ์นี้ยังคงเป็นที่ถกเถียงกัน แต่ผลจากเหตุการณ์นี้ทำให้ชุมชนคริสเตียนในโรมถูกกลุ่มอำนาจโรมันโจมตีและถูกกล่าวหาว่าเป็นแพะรับบาป -
313
กฤษฎีกามิลาน (Edict of Milan)
จักรพรรดิคอนสแตนตินมหาราช (Constantine the Great) ออกกฤษฎีกามิลานที่ประกาศให้คริสเตียนมีเสรีภาพในการนับถือศาสนา โดยคริสเตียนจะไม่ถูกข่มเหงในจักรวรรดิโรมันอีกต่อไป เหตุการณ์นี้เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญที่ทำให้คริสต์ศาสนาเริ่มแพร่หลายและมีอิทธิพลในจักรวรรดิโรมัน -
325
สภานีเซีย (First Council of Nicaea)
สภานีเซียเป็นสภาคริสตจักรสากลครั้งแรกที่จักรพรรดิคอนสแตนตินมหาราชทรงเป็นผู้เรียกประชุม เพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งทางศาสนาในคริสต์ศาสนา โดยสภานี้ได้ประกาศใช้หลักศาสนาคริสต์อย่างเป็นทางการ เช่น การยืนยันถึงธรรมชาติของพระเยซูคริสต์ -
376
การอพยพของพวกโกธ (Goth Migration)
ชนเผ่าโกธตะวันออก (Visigoths) ได้อพยพเข้าสู่ดินแดนโรมันจากการถูกรุกรานโดยพวกฮั่น (Huns) นี่เป็นจุดเริ่มต้นของการรุกรานจักรวรรดิโรมันของกลุ่มชนเผ่าเยอรมัน ที่เรียกว่า “การอพยพครั้งใหญ่” หรือ “Migration Period” ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวครั้งสำคัญของกลุ่มชนเผ่าในยุโรปตอนเหนือ -
451
ยุทธการชาลอน (Battle of Chalons)
ยุทธการนี้เป็นการสู้รบระหว่างกองทัพโรมันตะวันตกและพันธมิตรของพวกวิซิกอธกับกองทัพของพวกฮั่นที่นำโดยอัตติลา (Attila the Hun) การรบที่ชาลอนเกิดขึ้นในดินแดนฝรั่งเศสปัจจุบัน และแม้ว่าจะไม่มีฝ่ายใดชนะชัดเจน แต่การต่อสู้นี้ทำให้อัตติลาไม่สามารถรุกรานยุโรปตะวันตกได้มากกว่านี้ -
476
การล่มสลายของจักรวรรดิโรมันตะวันตก
มีผลกระทบต่อประวัติศาสตร์ยุโรป เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 476 เมื่อจักรพรรดิโรมันองค์สุดท้าย โรมัลลุส ออกุสตุลุส (Romulus Augustulus) ถูกโอดออาเซอร์ (Odoacer) ผู้นำกองทัพชาวเยอรมันปลดออกจากอำนาจ การสิ้นสุดของจักรวรรดิโรมันตะวันตกนี้มักถูกมองว่าเป็นการสิ้นสุดของสมัยโบราณและเป็นจุดเริ่มต้นของยุคกลางในยุโรป -
537
การสร้างมหาวิหารฮาเกีย โซเฟีย
ตั้งอยู่ในเมืองคอนสแตนติโนเปิล (ปัจจุบันคือเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี) เป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่สำคัญและมีชื่อเสียงมากที่สุดในประวัติศาสตร์โลก ก่อสร้างขึ้นในยุคจักรวรรดิโรมันตะวันออก (หรือจักรวรรดิไบแซนไทน์) โดยมีจักรพรรดิจัสติเนียนที่ 1 (Justinian I) เป็นผู้สั่งการให้สร้างในปี ค.ศ. 537 หลังจากที่มหาวิหารแห่งนี้ถูกทำลายจากการจลาจล Nika Riots -
601
ยุคของอิสลาม
ช่วงเวลาหลังจากการก่อตั้งศาสนาอิสลามโดยศาสดามูฮัมหมัดในศตวรรษที่ 7 และการขยายอิทธิพลของอิสลามทั้งในแง่ของการปกครอง ศาสนา วัฒนธรรม และวิทยาการในดินแดนต่าง ๆ ของโลก -
Period: 601 to 700
ยุคของอิสลาม
ช่วงเวลาหลังจากการก่อตั้งศาสนาอิสลามโดยศาสดามูฮัมหมัดในศตวรรษที่ 7 และการขยายอิทธิพลของอิสลามทั้งในแง่ของการปกครอง ศาสนา วัฒนธรรม และวิทยาการในดินแดนต่าง ๆ ของโลก -
700
การขยายตัวของจักรวรรดิอิสลาม
หลังจากที่ศาสนาอิสลามเริ่มต้นในศตวรรษที่ 7 จักรวรรดิอิสลามขยายตัวอย่างรวดเร็วในช่วงศตวรรษที่ 8-9 ภายใต้การนำของราชวงศ์อุมัยยะห์ (Umayyad) และราชวงศ์อับบาซียะห์ (Abbasid) ดินแดนอิสลามครอบคลุมตั้งแต่แคว้นคาบสมุทรอาหรับ จนถึงทางตอนใต้ของยุโรป และแอฟริกาเหนือ ทำให้เกิดการเผยแพร่วัฒนธรรมและวิทยาการอิสลามไปยังหลายภูมิภาคและส่งผลต่อการพัฒนาเทคโนโลยีและวัฒนธรรมในโลกยุคกลาง -
Period: 700 to 900
การขยายตัวของจักรวรรดิอิสลาม
หลังจากที่ศาสนาอิสลามเริ่มต้นในศตวรรษที่ 7 จักรวรรดิอิสลามขยายตัวอย่างรวดเร็วในช่วงศตวรรษที่ 8-9 ภายใต้การนำของราชวงศ์อุมัยยะห์ (Umayyad) และราชวงศ์อับบาซียะห์ (Abbasid) ดินแดนอิสลามครอบคลุมตั้งแต่แคว้นคาบสมุทรอาหรับ จนถึงทางตอนใต้ของยุโรป และแอฟริกาเหนือ ทำให้เกิดการเผยแพร่วัฒนธรรมและวิทยาการอิสลามไปยังหลายภูมิภาคและส่งผลต่อการพัฒนาเทคโนโลยีและวัฒนธรรมในโลกยุคกลาง -
793
การรุกรานของไวกิ้ง
ช่วงนี้เป็นยุคที่ไวกิ้งจากสแกนดิเนเวียได้ออกสำรวจและรุกรานหลายภูมิภาคในยุโรป โดยเหตุการณ์ที่โดดเด่นคือการโจมตีเมืองหลวงลินดิสฟาร์น (Lindisfarne) ในปี ค.ศ. 793 ที่ถือเป็นการเริ่มต้นของยุคไวกิ้ง ไวกิ้งได้สร้างอาณาจักรและอาณานิคมในดินแดนต่างๆ เช่น อังกฤษ ไอร์แลนด์ และฝรั่งเศส รวมถึงการค้าขายและเดินทางไปยังพื้นที่ห่างไกล เช่น รัสเซียและไบแซนไทน์ -
Period: 793 to 1066
การรุกรานของไวกิ้ง
ช่วงนี้เป็นยุคที่ไวกิ้งจากสแกนดิเนเวียได้ออกสำรวจและรุกรานหลายภูมิภาคในยุโรป โดยเหตุการณ์ที่โดดเด่นคือการโจมตีเมืองหลวงลินดิสฟาร์น (Lindisfarne) ในปี ค.ศ. 793 ที่ถือเป็นการเริ่มต้นของยุคไวกิ้ง ไวกิ้งได้สร้างอาณาจักรและอาณานิคมในดินแดนต่างๆ เช่น อังกฤษ ไอร์แลนด์ และฝรั่งเศส รวมถึงการค้าขายและเดินทางไปยังพื้นที่ห่างไกล เช่น รัสเซียและไบแซนไทน์ -
843
การล่มสลายของจักรวรรดิคาโรลิงเจียน
จักรวรรดิคาโรลิงเจียนที่ก่อตั้งโดยชาร์เลอมาญ (Charlemagne) มีอำนาจมากในยุโรปตะวันตก แต่หลังจากการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ จักรวรรดิก็ถูกแบ่งแยกออกเป็นหลายอาณาจักรย่อยโดยข้อตกลงเวิร์ดุน (Treaty of Verdun) ในปี ค.ศ. 843 แบ่งดินแดนระหว่างพระโอรสสามองค์ เหตุการณ์นี้นำไปสู่การอ่อนแอของอำนาจกลางและเกิดรัฐที่แยกตัวขึ้นในยุโรป ซึ่งกลายเป็นรากฐานของประเทศฝรั่งเศสและเยอรมนีในยุคต่อมา -
882
การก่อตั้งรัฐเคียฟรัส (Kievan Rus’)
รัฐเคียฟรัสถูกก่อตั้งโดยเจ้าชายนอร์สชื่อโอเล็ก (Oleg of Novgorod) ในปี ค.ศ. 882 เมื่อเขาสามารถยึดครองเมืองเคียฟได้ รัฐเคียฟรัสเติบโตเป็นศูนย์กลางการค้าและการเมืองที่สำคัญในภูมิภาคยุโรปตะวันออก ภายใต้การปกครองของราชวงศ์รุริค (Rurik dynasty) รัฐนี้มีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงการค้าและวัฒนธรรมระหว่างจักรวรรดิไบแซนไทน์กับชาวยุโรปเหนือและตะวันออก ต่อมาในศตวรรษที่ 10 รัฐเคียฟรัสยอมรับศาสนาคริสต์นิกายออร์โธดอกซ์ ซึ่งมีอิทธิพลยาวนานต่อการพัฒนาวัฒนธรรมและศาสนาในรัสเซียและยูเครน -
976
การขยายตัวของจักรวรรดิไบแซนไทน์ในรัชสมัยจักรพรรดิบาซิลที่ 2
จักรพรรดิบาซิลที่ 2 (Basil II) ของจักรวรรดิไบแซนไทน์มีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูและขยายอาณาจักรไบแซนไทน์ในยุคกลาง พระองค์สามารถเอาชนะบัลแกเรียและขยายอาณาเขตทางตอนเหนือและตะวันตกของจักรวรรดิ ทำให้ไบแซนไทน์กลายเป็นมหาอำนาจที่มีอิทธิพลในยุโรปตะวันออกเฉียงใต้ -
Period: 976 to 1025
การขยายตัวของจักรวรรดิไบแซนไทน์ในรัชสมัยจักรพรรดิบาซิลที่ 2
จักรพรรดิบาซิลที่ 2 (Basil II) ของจักรวรรดิไบแซนไทน์มีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูและขยายอาณาจักรไบแซนไทน์ในยุคกลาง พระองค์สามารถเอาชนะบัลแกเรียและขยายอาณาเขตทางตอนเหนือและตะวันตกของจักรวรรดิ ทำให้ไบแซนไทน์กลายเป็นมหาอำนาจที่มีอิทธิพลในยุโรปตะวันออกเฉียงใต้ -
1096
สงครามครูเสดครั้งที่ 1
เกิดขึ้นจากการที่จักรวรรดิไบแซนไทน์ซึ่งถูกคุกคามจากการขยายอำนาจของชาวเซลจุกเติร์ก (Seljuk Turks) ได้ขอความช่วยเหลือจากยุโรปตะวันตกให้ช่วยต่อสู้กับศัตรูเพื่อปกป้องกรุงคอนสแตนติโนเปิลและดินแดนศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะกรุงเยรูซาเลมที่ตกอยู่ภายใต้การปกครองของชาวมุสลิม -
Period: 1096 to 1099
สงครามครูเสดครั้งที่ 1
เกิดขึ้นจากการที่จักรวรรดิไบแซนไทน์ซึ่งถูกคุกคามจากการขยายอำนาจของชาวเซลจุกเติร์ก (Seljuk Turks) ได้ขอความช่วยเหลือจากยุโรปตะวันตกให้ช่วยต่อสู้กับศัตรูเพื่อปกป้องกรุงคอนสแตนติโนเปิลและดินแดนศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะกรุงเยรูซาเลมที่ตกอยู่ภายใต้การปกครองของชาวมุสลิม -
1101
การสถาปนามหาวิทยาลัยแห่งแรกในยุโรป
เกิดขึ้นที่เมืองโบโลญญา ประเทศอิตาลี ในช่วงปลายศตวรรษที่ 11 โดยมีการก่อตั้งมหาวิทยาลัยโบโลญญา (University of Bologna) ในปี ค.ศ. 1088 มหาวิทยาลัยนี้ถือเป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังดำเนินกิจการอยู่ในปัจจุบัน -
Period: 1101 to 1200
การสถาปนามหาวิทยาลัยแห่งแรกในยุโรป
เกิดขึ้นที่เมืองโบโลญญา ประเทศอิตาลี ในช่วงปลายศตวรรษที่ 11 โดยมีการก่อตั้งมหาวิทยาลัยโบโลญญา (University of Bologna) ในปี ค.ศ. 1088 มหาวิทยาลัยนี้ถือเป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังดำเนินกิจการอยู่ในปัจจุบัน -
1215
การลงนามในกฎบัตรแมกนาคาร์ตา
เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน ค.ศ. 1215 กฎบัตรแมกนาคาร์ตาเป็นเอกสารที่พระเจ้าจอห์น (King John) แห่งอังกฤษต้องลงนามหลังจากความกดดันจากขุนนางและบารอนที่ไม่พอใจการปกครองของเขา ได้ระบุหลักการสำคัญเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนและขอบเขตของอำนาจของกษัตริย์ แมกนาคาร์ตาไม่ได้ทำให้การปกครองของพระเจ้าเจอห์นดีขึ้นโดยทันที แต่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ในการวางรากฐานของหลักกา -
1301
ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา
เกิดขึ้นในยุโรประหว่างศตวรรษที่ 14 ถึง 17 โดยมีต้นกำเนิดจากอิตาลีและกระจายไปยังประเทศอื่น ๆ ในยุโรปในเวลาต่อมา ยุคนี้เป็นการฟื้นฟูความสนใจในศิลปะและวรรณกรรมที่มีรากฐานมาจากวัฒนธรรมกรีกและโรมันโบราณ -
Period: 1301 to
ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา
เกิดขึ้นในยุโรประหว่างศตวรรษที่ 14 ถึง 17 โดยมีต้นกำเนิดจากอิตาลีและกระจายไปยังประเทศอื่น ๆ ในยุโรปในเวลาต่อมา ยุคนี้เป็นการฟื้นฟูความสนใจในศิลปะและวรรณกรรมที่มีรากฐานมาจากวัฒนธรรมกรีกและโรมันโบราณ -
1347
การระบาดของกาฬโรค
เป็นการระบาดครั้งใหญ่ของโรคกาฬโรคที่เกิดขึ้นในยุโรปในช่วงกลางศตวรรษที่ 14 โดยเริ่มจากปี ค.ศ. 1347 ถึง 1351 กาฬโรคเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียชื่อ Yersinia pestis ซึ่งมักจะติดเชื้อผ่านการกัดของเห็บที่มีเชื้อโรคหรือการสัมผัสกับสัตว์ที่ติดเชื้อ เช่น หนู -
Period: 1347 to 1351
การระบาดของกาฬโรค
เป็นการระบาดครั้งใหญ่ของโรคกาฬโรคที่เกิดขึ้นในยุโรปในช่วงกลางศตวรรษที่ 14 โดยเริ่มจากปี ค.ศ. 1347 ถึง 1351 กาฬโรคเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียชื่อ Yersinia pestis ซึ่งมักจะติดเชื้อผ่านการกัดของเห็บที่มีเชื้อโรคหรือการสัมผัสกับสัตว์ที่ติดเชื้อ เช่น หนู -
Oct 12, 1492
การค้นพบทวีปอเมริกาโดยคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส
เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม ค.ศ. 1492 โคลัมบัสเป็นนักสำรวจชาวเจนัว (Genoa) ที่ได้รับการสนับสนุนจากพระราชาและราชินีแห่งสเปน คือ พระราชาเฟอร์ดินานด์ที่ 2 และราชินีอิซาเบลล่า (King Ferdinand II and Queen Isabella) ในการเดินทางเพื่อค้นหาทางไปยังเอเชียตะวันออกโดยการเดินทางผ่านมหาสมุทรแอตแลนติก -
1517
การปฏิรูปศาสนาโดยมาร์ติน ลูเธอร์
การเคลื่อนไหวทางศาสนาที่เริ่มขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 16 เพื่อท้าทายและปฏิรูปคริสตจักรคาทอลิกในยุโรป การปฏิรูปนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในประวัติศาสตร์ศาสนาคริสต์และการพัฒนาของการเคลื่อนไหวโปรเตสแตนต์ (Protestant Reformation) -
การปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์
ประวัติศาสตร์ของวิทยาศาสตร์และความรู้ ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างปลายศตวรรษที่ 16 ถึงต้นศตวรรษที่ 18 ในยุโรป ช่วงเวลานี้เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวิธีการศึกษาและทำความเข้าใจธรรมชาติและจักรวาล ลักษณะสำคัญของการปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์
1.การพัฒนาในวิธีการวิทยาศาสตร์
2. การค้นพบทางวิทยาศาสตร์ที่สำคัญ:
•นิโคลัส โคเปอร์นิคัส •กาลิเลโอ กาลิเลอี
• ไอ แซค นิวตัน
3.การเปลี่ยนแปลงในความรู้และความเชื่อ
4. ผลกระทบทางสังคมและการศึกษา -
Period: to
การปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์
ประวัติศาสตร์ของวิทยาศาสตร์และความรู้ ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างปลายศตวรรษที่ 16 ถึงต้นศตวรรษที่ 18 ในยุโรป ช่วงเวลานี้เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวิธีการศึกษาและทำความเข้าใจธรรมชาติและจักรวาล ลักษณะสำคัญของการปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์
1.การพัฒนาในวิธีการวิทยาศาสตร์
2. การค้นพบทางวิทยาศาสตร์ที่สำคัญ:
•นิโคลัส โคเปอร์นิคัส •กาลิเลโอ กาลิเลอี
• ไอ แซค นิวตัน
3.การเปลี่ยนแปลงในความรู้และความเชื่อ
4. ผลกระทบทางสังคมและการศึกษา -
สงครามสามสิบปี
เป็นสงครามที่เกิดขึ้นในยุโรประหว่างปี ค.ศ. 1618 ถึง 1648 ซึ่งเป็นหนึ่งในสงครามที่ยืดเยื้อและมีความซับซ้อนที่สุดในประวัติศาสตร์ยุโรป สงครามนี้เริ่มต้นจากความขัดแย้งทางศาสนาและการเมืองในจักรวรรดิเยอรมัน (Holy Roman Empire) แต่ภายหลังขยายไปยังประเทศอื่น ๆ ในยุโรป -
Period: to
สงครามสามสิบปี
เป็นสงครามที่เกิดขึ้นในยุโรประหว่างปี ค.ศ. 1618 ถึง 1648 ซึ่งเป็นหนึ่งในสงครามที่ยืดเยื้อและมีความซับซ้อนที่สุดในประวัติศาสตร์ยุโรป สงครามนี้เริ่มต้นจากความขัดแย้งทางศาสนาและการเมืองในจักรวรรดิเยอรมัน (Holy Roman Empire) แต่ภายหลังขยายไปยังประเทศอื่น ๆ ในยุโรป -
การปฏิวัติอุตสาหกรรม
เป็นช่วงเวลาสำคัญในประวัติศาสตร์ที่เริ่มต้นในปลายศตวรรษที่ 18 และต้นศตวรรษที่ 19 โดยมีผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยี การปฏิวัติอุตสาหกรรมเริ่มต้นในสหราชอาณาจักร (อังกฤษ) และแพร่กระจายไปยังส่วนอื่น ๆ ของยุโรปและอเมริกาเหนือ -
Period: to
การปฏิวัติอุตสาหกรรม
เป็นช่วงเวลาสำคัญในประวัติศาสตร์ที่เริ่มต้นในปลายศตวรรษที่ 18 และต้นศตวรรษที่ 19 โดยมีผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยี การปฏิวัติอุตสาหกรรมเริ่มต้นในสหราชอาณาจักร (อังกฤษ) และแพร่กระจายไปยังส่วนอื่น ๆ ของยุโรปและอเมริกาเหนือ -
การก่อตั้งสหรัฐอเมริกา
เกิดขึ้นในปลายศตวรรษที่ 18 ผ่านกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้เพื่อเอกราชจากจักรวรรดิบริเตนใหญ่และการสร้างรัฐธรรมนูญเพื่อจัดตั้งประเทศใหม่ กระบวนการนี้มีลักษณะเด่นดังนี้:
1. สงครามประกาศอิสรภาพ
2. การประกาศอิสรภาพ
3. สงครามและชัยชนะ
4. การก่อตั้งรัฐธรรมนูญ -
การปฏิวัติฝรั่งเศส
เกิดขึ้นในฝรั่งเศสระหว่างปี ค.ศ. 1789 ถึง 1799 โดยมีจุดประสงค์เพื่อเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางสังคมและการปกครองจากระบบกษัตริย์ที่มีอภิสิทธิ์ให้กลายเป็นระบบที่ยึดหลักประชาธิปไตย เสรีภาพ และความเท่าเทียม -
Period: to
การปฏิวัติฝรั่งเศส (French Revolution)
เกิดขึ้นในฝรั่งเศสระหว่างปี ค.ศ. 1789 ถึง 1799 โดยมีจุดประสงค์เพื่อเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางสังคมและการปกครองจากระบบกษัตริย์ที่มีอภิสิทธิ์ให้กลายเป็นระบบที่ยึดหลักประชาธิปไตย เสรีภาพ และความเท่าเทียม -
สงครามนโปเลียน
เกิดขึ้นในยุโรประหว่างปี ค.ศ. 1803 ถึง 1815 ซึ่งมีชื่อเรียกตามนโปเลียน โบนาปาร์ต (Napoleon Bonaparte) ผู้นำและจักรพรรดิแห่งฝรั่งเศสในช่วงเวลานั้น สงครามเหล่านี้เกิดขึ้นจากความขัดแย้งระหว่างจักรวรรดิฝรั่งเศสภายใต้การนำของนโปเลียนกับพันธมิตรหลายประเทศในยุโรปที่ต้องการยับยั้งการขยายอำนาจของฝรั่งเศส -
Period: to
สงครามนโปเลียน
เกิดขึ้นในยุโรประหว่างปี ค.ศ. 1803 ถึง 1815 ซึ่งมีชื่อเรียกตามนโปเลียน โบนาปาร์ต (Napoleon Bonaparte) ผู้นำและจักรพรรดิแห่งฝรั่งเศสในช่วงเวลานั้น สงครามเหล่านี้เกิดขึ้นจากความขัดแย้งระหว่างจักรวรรดิฝรั่งเศสภายใต้การนำของนโปเลียนกับพันธมิตรหลายประเทศในยุโรปที่ต้องการยับยั้งการขยายอำนาจของฝรั่งเศส -
การยกเลิกทาสในสหรัฐอเมริกา
การยกเลิกทาสในสหรัฐอเมริกาเป็นกระบวนการที่ยาวนานและซับซ้อน ซึ่งเกิดจากความขัดแย้งทางการเมือง สังคม และเศรษฐกิจที่มีทาสเป็นศูนย์กลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรัฐทางใต้ของสหรัฐฯ ที่เศรษฐกิจขึ้นอยู่กับการใช้แรงงานทาสในไร่ฝ้ายและยาสูบ กระบวนการนี้นำไปสู่ สงครามกลางเมืองสหรัฐ (American Civil War) และการออกกฎหมายสำคัญเพื่อยุติระบบทาส -
สงครามโลกครั้งที่ 1
เกิดขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1914 ถึง 1918 โดยมีสาเหตุมาจากความขัดแย้งทางการเมือง การทหาร และเศรษฐกิจที่สั่งสมมานานระหว่างชาติมหาอำนาจในยุโรป รวมถึงปัจจัยอื่น ๆ ที่กระตุ้นให้เกิดการปะทุของสงคราม สาเหตุหลัก ๆ ของสงครามโลก
ครั้งที่ 1 ได้แก่
1. ระบบพันธมิตร
2. ลัทธิจักรวรรดินิยม
3. ลัทธิชาตินิยม
4. การแข่งขันทางทหาร
5. การลอบสังหารอาร์ชดยุกฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์
6. การประกาศสงคราม -
Period: to
สงครามโลกครั้งที่ 1
เกิดขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1914 ถึง 1918 โดยมีสาเหตุมาจากความขัดแย้งทางการเมือง การทหาร และเศรษฐกิจที่สั่งสมมานานระหว่างชาติมหาอำนาจในยุโรป รวมถึงปัจจัยอื่น ๆ ที่กระตุ้นให้เกิดการปะทุของสงคราม สาเหตุหลัก ๆ ของสงครามโลก
ครั้งที่ 1 ได้แก่
1. ระบบพันธมิตร
2. ลัทธิจักรวรรดินิยม
3. ลัทธิชาตินิยม
4. การแข่งขันทางทหาร
5. การลอบสังหารอาร์ชดยุกฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์
6. การประกาศสงคราม -
สงครามโลกครั้งที่ 2
เกิดขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1939 ถึง 1945 ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ โดยสงครามนี้เกิดจากหลายปัจจัยทั้งทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ซึ่งสามารถสรุปสาเหตุหลัก ๆ ได้ดังนี้:
1. สนธิสัญญาแวร์ซายส์และผลกระทบทางเศรษฐกิจ
2. การขึ้นสู่อำนาจของฮิตเลอร์และพรรคนาซี
3. การขยายอำนาจและการรุกรานของเยอรมนี
4. การรุกรานโปแลนด์และการประกาศสงคราม
5. ความขัดแย้งทั่วโลก -
Period: to
สงครามโลกครั้งที่ 2
เกิดขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1939 ถึง 1945 ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ โดยสงครามนี้เกิดจากหลายปัจจัยทั้งทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ซึ่งสามารถสรุปสาเหตุหลัก ๆ ได้ดังนี้:
1. สนธิสัญญาแวร์ซายส์และผลกระทบทางเศรษฐกิจ
2. การขึ้นสู่อำนาจของฮิตเลอร์และพรรคนาซี
3. การขยายอำนาจและการรุกรานของเยอรมนี
4. การรุกรานโปแลนด์และการประกาศสงคราม
5. ความขัดแย้งทั่วโลก -
การก่อตั้งสหประชาชาติ
เกิดขึ้นหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อสร้างองค์กรระหว่างประเทศที่มีเป้าหมายหลักในการรักษาสันติภาพ ความมั่นคงระหว่างประเทศ และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก โดยสหประชาชาติได้รับการก่อตั้งอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ค.ศ. 1945 ซึ่งถือเป็น วันสหประชาชาติ (United Nations Day) -
สงครามเย็น
เกิดขึ้นจากความขัดแย้งทางอุดมการณ์และการต่อสู้เพื่ออำนาจระหว่างสองค่ายมหาอำนาจหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตัวแทนของระบบทุนนิยมและเสรีประชาธิปไตย และ สหภาพโซเวียต ซึ่งสนับสนุนลัทธิคอมมิวนิสต์และเศรษฐกิจแบบสังคมนิยม -
Period: to
สงครามเย็น
เกิดขึ้นจากความขัดแย้งทางอุดมการณ์และการต่อสู้เพื่ออำนาจระหว่างสองค่ายมหาอำนาจหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตัวแทนของระบบทุนนิยมและเสรีประชาธิปไตย และ สหภาพโซเวียต ซึ่งสนับสนุนลัทธิคอมมิวนิสต์และเศรษฐกิจแบบสังคมนิยม -
การปฏิวัติจีน
การปฏิวัติจีน หรือ การปฏิวัติคอมมิวนิสต์จีน เป็นกระบวนการที่นำไปสู่การก่อตั้ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ภายใต้การปกครองของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในปี ค.ศ. 1949 โดยมีผู้นำคนสำคัญคือ เหมา เจ๋อตง (Mao Zedong) การปฏิวัตินี้เกิดขึ้นจากการต่อสู้ระหว่าง พรรคชาตินิยมจีน (ก๊กมินตั๋ง) นำโดย เจียง ไคเช็ก (Chiang Kai-shek) และ พรรคคอมมิวนิสต์จีน นำโดยเหมา เจ๋อตง ซึ่งนำไปสู่สงครามกลางเมืองที่ยาวนานหลายปี -
การเดินทางสู่ดวงจันทร์
เป็นการเดินทางที่สำคัญในประวัติศาสตร์ของการสำรวจอวกาศ โดยเฉพาะในช่วงยุคของ การแข่งขันอวกาศ (Space Race) ระหว่างสหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียตในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 20 การเดินทางนี้สำเร็จโดย โครงการอะพอลโล (Apollo Program) ของนาซา (NASA) สหรัฐอเมริกา -
การล่มสลายของกำแพงเบอร์ลิน
เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน ค.ศ. 1989 ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของการสิ้นสุดสงครามเย็นและการเริ่มต้นของการรวมประเทศเยอรมนี -
การล่มสลายของสหภาพโซเวียต
เกิดขึ้นในวันที่ 26 ธันวาคม ค.ศ. 1991 และเป็นเหตุการณ์สำคัญที่ส่งผลกระทบต่อภูมิภาคและโลกทั้งใบ การล่มสลายของสหภาพโซเวียตนำไปสู่การสิ้นสุดของระบอบคอมมิวนิสต์ในยุโรปตะวันออกและการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและเศรษฐกิจอย่างมหาศาลในภูมิภาคนั้น -
การเกิดขึ้นของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์
เกิดขึ้นจากการพยายามสร้างระบบที่สามารถทำงานหรือเรียนรู้เหมือนกับมนุษย์ โดยมีประวัติและการพัฒนาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน: ช่วยเรื่องต่างๆ ดังนี้
1. การวิเคราะห์ข้อมูล
2. การปรับปรุงการบริการลูกค้า
3. การแพทย์
4. การขับรถอัตโนมัติ
5. การปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน
6. การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่
7. การปรับแต่งและการตลาด -
การโจมตี 9/11
เป็นการก่อการร้ายที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 2001 โดยกลุ่ม อัลกออิดะห์ (Al-Qaeda) ซึ่งนำโดย ออสมา บิน ลาเดน (Osama bin Laden) การโจมตีนี้มีรายละเอียดดังนี้:
1.การลักพาตัวเครื่องบิน
•เครื่องบินเที่ยวบิน 11 ของสายการบินอเมริกัน
•เครื่องบินเที่ยวบิน 175 ของสายการบินยูไนเต็ด
•เครื่องบินเที่ยวบิน 77 ของสายการบินอเมริกัน
•เครื่องบินเที่ยวบิน 93 ของสายการบินยูไนเต็ด
2. ผลกระทบ
• ศูนย์การค้าโลก
• กระทรวงกลาโหม
• การตอบโต้
• นโยบายความมั่นคง
• สงครามต่อต้านการก่อการร้าย -
Period: to
การเกิดขึ้นของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์
เกิดขึ้นจากการพยายามสร้างระบบที่สามารถทำงานหรือเรียนรู้เหมือนกับมนุษย์ โดยมีประวัติและการพัฒนาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน: ช่วยเรื่องต่างๆ ดังนี้
1. การวิเคราะห์ข้อมูล
2. การปรับปรุงการบริการลูกค้า
3. การแพทย์
4. การขับรถอัตโนมัติ
5. การปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน
6. การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่
7. การปรับแต่งและการตลาด -
วิกฤตเศรษฐกิจโลก
เกิดขึ้นจากหลายปัจจัยที่ซับซ้อนและสามารถมีผลกระทบระยะสั้นและระยะยาวต่อเศรษฐกิจทั่วโลก ปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลก ได้แก่
1. วิกฤตการเงินโลก
•สาเหตุหลัก
• ฟองสบู่ที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์
• ผลิตภัณฑ์ทางการเงินซับซ้อน
• การล้มละลายของสถาบันการเงินใหญ่
2. วิกฤตหนี้ยูโรโซน
• สาเหตุหลัก
• หนี้สาธารณะสูง
• ปัญหาการจัดการงบประมาณ
3. วิกฤต COVID-19
• สาเหตุหลัก
• การแพร่ระบาดของไวรัส
• การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน
4. ปัจจัยอื่น ๆ
• วิกฤตการเมืองและสงคราม
• การเปลี่ยนแปลงในนโยบายการเงิน -
Period: to
วิกฤตเศรษฐกิจโลก
เกิดขึ้นจากหลายปัจจัยที่ซับซ้อนและสามารถมีผลกระทบระยะสั้นและระยะยาวต่อเศรษฐกิจทั่วโลก ปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลก ได้แก่
1. วิกฤตการเงินโลก
•สาเหตุหลัก
• ฟองสบู่ที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์
• ผลิตภัณฑ์ทางการเงินซับซ้อน
• การล้มละลายของสถาบันการเงินใหญ่
2. วิกฤตหนี้ยูโรโซน
• สาเหตุหลัก
• หนี้สาธารณะสูง
• ปัญหาการจัดการงบประมาณ
3. วิกฤต COVID-19
• สาเหตุหลัก
• การแพร่ระบาดของไวรัส
• การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน
4. ปัจจัยอื่น ๆ
• วิกฤตการเมืองและสงคราม
• การเปลี่ยนแปลงในนโยบายการเงิน -
การปฏิวัติอาหรับสปริง
เป็นชุดของการเคลื่อนไหวทางการเมืองและการประท้วงที่เกิดขึ้นในโลกอาหรับตั้งแต่ปลายปี 2010 ถึงปี 2011 และต่อเนื่องในบางประเทศ การปฏิวัตินี้มีเป้าหมายในการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลที่คอร์รัปชันและการปฏิรูปทางการเมืองและสังคม -
Period: to
การปฏิวัติอาหรับสปริง
เป็นชุดของการเคลื่อนไหวทางการเมืองและการประท้วงที่เกิดขึ้นในโลกอาหรับตั้งแต่ปลายปี 2010 ถึงปี 2011 และต่อเนื่องในบางประเทศ การปฏิวัตินี้มีเป้าหมายในการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลที่คอร์รัปชันและการปฏิรูปทางการเมืองและสังคม -
การระบาดของ COVID-19
เกิดขึ้นจากการแพร่กระจายของไวรัส SARS-CoV-2 ซึ่งเป็นไวรัสชนิดใหม่ที่อยู่ในกลุ่ม โคโรนาไวรัส (coronavirus) ไวรัสนี้เริ่มต้นการแพร่ระบาดจากเมือง อู่ฮั่น (Wuhan) ในประเทศจีนในช่วงปลายปี 2019 -
Period: to
การระบาดของ COVID-19
เกิดขึ้นจากการแพร่กระจายของไวรัส SARS-CoV-2 ซึ่งเป็นไวรัสชนิดใหม่ที่อยู่ในกลุ่ม โคโรนาไวรัส (coronavirus) ไวรัสนี้เริ่มต้นการแพร่ระบาดจากเมือง อู่ฮั่น (Wuhan) ในประเทศจีนในช่วงปลายปี 2019 -
การพัฒนาและเปิดตัววัคซีน COVID-19
เริ่มตั้งแต่การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (SARS-CoV-2) ในปี 2019 ซึ่งก่อให้เกิดการระบาดใหญ่ทั่วโลก การพัฒนาวัคซีนเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและประสบความสำเร็จในระยะเวลาอันสั้นเนื่องจากความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์และการลงทุนทางการเงินขนาดใหญ่