Img 1555

สงคราม

  • Period: 1000 to

    จุดเริ่มต้น

  • 1130

    สงครามคิมเบรียน

    สงครามคิมเบรียน
    เป็นความขัดแย้งระหว่างสาธารณรัฐโรมันกับชนเผ่าคิมบรี ทิวทัน อัมโบรนและทิกูรินี ซึ่งเชื่อว่าเป็นกลุ่มชนเจอร์แมนิกและชาวเคลต์ที่อพยพมาจากคาบสมุทรจัตแลนด์ เกิดขึ้นระหว่าง 113–101 ปีก่อนคริสตกาล สงครามคิมเบรียนเป็นความขัดแย้งแรกนับตั้งแต่สงครามพิวนิกครั้งที่สองที่โรมและอิตาเลียเผชิญกับภัยคุกคามอย่างจริงจัง
  • 1467

    สงครามโอนิง

    สงครามโอนิง
    สงครามโอนิง 応仁の乱; โรมาจิ: Ōnin no Ran ยังเป็นที่รู้จักกันในนาม กลียุคแห่งโอนิง[3] และ สงครามโอนิง-บุมเม[4] เป็นสงครามกลางเมืองช่วง ค.ศ. 1467 ถึง 1477 ในยุคมูโรมาจิของประเทศญี่ปุ่น คำว่าโอนิง สื่อถึงปีศักราชญี่ปุ่นที่เกิดสงครามนี้ขึ้น สงครามสิ้นสุดลงในศักราชบุมเม ข้อพิพาทระหว่างโฮโซกาวะ คัตสึโมโตะกับยามานะ โซเซ็นบานปลายไปเป็นสงครามกลางเมืองระดับประเทศในรัฐบาลโชกุนอาชิกางะกับไดเมียวจำนวนมากในหลายภูมิภาค
  • 1477

    สงครามสันนิบาตดีเลียน

    สงครามสันนิบาตดีเลียน
    เป็นชุดการทัพระหว่างสันนิบาตดีเลียนของเอเธนส์กับจักรวรรดิอะคีเมนิด (เปอร์เซีย) เกิดขึ้นระหว่างปีที่ 477–449 ก่อนคริสตกาล หลังพันธมิตรชาวกรีกนำโดยสปาร์ตาและเอเธนส์ชนะทัพเปอร์เซียที่บุกมาอีกครั้งในปีที่ 480 ก่อนคริสตกาลและขับไล่ทหารเปอร์เซียออกจากเธรซ สปาร์ตาตัดสินใจที่จะยุติการทำสงคราม ในขณะที่เอเธนส์และนครรัฐอื่น ๆ รวมตัวกันในชื่อ "สันนิบาตดีเลียน" 30 ปีต่อมา เอเธนส์ขึ้นเป็นผู้นำและเปลี่ยนสันนิบาตให้กลายเป็นจักรวรรดิเอเธนส์ ช่วงทศวรรษที่ 470 ปีก่อนคริสตกาล
  • 1499

    สงครามกรีก-เปอร์เซีย

    สงครามกรีก-เปอร์เซีย
    สงครามเปอร์เซีย เป็นชุดความขัดแย้งระหว่างจักรวรรดิอะคีเมนิด (เปอร์เซีย) กับนครรัฐกรีก เกิดขึ้นระหว่างปีที่ 499–449 ก่อนคริสตกาล จุดเริ่มต้นของความขัดแย้งเกิดจากการพิชิตภูมิภาคไอโอเนียของพระเจ้าไซรัสมหาราชในปีที่ 547 ก่อนคริสตกาลและต่อมาแต่งตั้งทรราชขึ้นปกครอง ต่อมาในปีที่ 499 ก่อนคริสตกาล อริสตาโกรัส ผู้ปกครองไมลีตัสที่มีเปอร์เซียหนุนหลัง[2] นำกำลังเข้ายึดเกาะนักซอสแต่ล้มเหลว
  • สงครามอุฮุด

    สงครามอุฮุด
    คือสงครามหนึ่งที่เกิดขึ้นบริเวณภูเขาอุฮุด ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศซาอุดิอาราเบีย เป็นสงครามที่เกิดขึ้นระหว่างกองทัพมุสลิมแห่งมะดีนะฮ์ โดยมีแม่ทัพคือท่านศาสดามุฮัมมัดแห่งศาสนาอิสลาม กับกองทัพแห่งเมืองมักกะฮ์ โดยมีแม่ทัพคืออบูซุฟยาน สงครามอุฮุดนับเป็นสงครามครั้งที่สองที่เกิดขึ้นระหว่างกองทัพแห่งเมืองมักกะฮ์กับชาวมุสลิมหลังจากสงครามบะดัรที่เกิดขึ้นในปีฮิจเราะฮ์ศักราชที่สอง หรือประมาณปีคริสต์ศักราชที่ 1624
  • สงครามกลางเมืองอังกฤษ

    สงครามกลางเมืองอังกฤษ
    สงครามกลางเมืองอังกฤษ (อังกฤษ: English Civil War; ค.ศ. 1642 ถึงปี ค.ศ. 1651) เป็นสงครามกลางเมืองของอังกฤษ, สกอตแลนด์ และไอร์แลนด์ที่ต่อเนื่องกันหลายครั้งระหว่างฝ่ายรัฐสภา และฝ่ายกษัตริย์นิยม สงครามกลางเมืองอังกฤษครั้งที่ 1 เกิดขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1642 ถึงปี ค.ศ. 1646; ครั้งที่ 2 ระหว่างปี ค.ศ. 1648 ถึงปี ค.ศ. 1649 เป็นสงครามของความขัดแย้งระหว่างผู้สนับสนุนพระเจ้าชาลส์ที่ 1 ฝ่ายหนึ่งและผู้สนับสนุนรัฐสภายาวอีกฝ่ายหนึ่ง ขณะที่ครั้งที่ 3 ที่เกิดขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1649 ถึงปี ค.ศ. 1651
  • สงครามปฏิวัติฝรั่งเศส

    สงครามปฏิวัติฝรั่งเศส
    เป็นหนึ่งในความขัดแย้งทางทหารที่แผ่กระจายอย่างกว้างขวางอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ ค.ศ. 1792 ถึง ค.ศ. 1802 และเป็นผลที่เกิดมาจากการปฏิวัติฝรั่งเศส โดยฝรั่งเศสต้องต่อสู้รบกับบริเตน ออสเตรีย ปรัสเซีย รัสเซีย และระบอบกษัตริย์อื่น ๆ อีกมายมาย พวกเขาได้แบ่งออกเป็นสองช่วงเวลา: สงครามสหสัมพันธมิตรครั้งที่หนึ่ง (ค.ศ. 1792-97) และสงครามสหสัมพันธมิตรครั้งที่สอง (ค.ศ. 1798-1802) ในช่วงแรกจำกัดได้เพียงเฉพาะยุโรป
  • สงครามนิวซีแลนด์

    สงครามนิวซีแลนด์
    นิวซีแลนด์ได้กลายเป็นอาณานิคมในพระองค์เมื่อปีค.ศ. 1841 และได้มีรัฐบาลปกครองตนเองตามรัฐธรรมนูญ ค.ศ. 1852 นิวซีแลนด์ได้ปฏิเสธการเข้าร่วมในสหพันธ์ออสเตรเลียและได้รับสถานะเป็นประเทศในเครือจักรภพเมื่อวันที่ 26 กันยายน ค.ศ. 1907 (Dominion Day) โดยเป็นประกาศพระบรมราชโองการโดยพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 ซึ่งสถานะการเป็นประเทศนั้นได้เป็นสัญลักษณ์ของการมีเอกราชทางการเมืองซึ่งได้มีพัฒนาการมากว่าครึ่งศตวรรษผ่านทางรัฐบาลปกครองตนเองของนิวซีแลนด์
  • สงครามโลกครั้งที่1

    สงครามโลกครั้งที่1
    สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง : World War I)[a] เป็นสงครามโลกที่กินเวลาตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม ค.ศ. 1914 ถึงวันที่ 11 พฤศจิกายน ค.ศ. 1918 ซึ่งเป็นความขัดแย้งกันระหว่างสองขั้วมหาอำนาจพันธมิตร ได้แก่ ฝ่ายสัมพันธมิตรและฝ่ายมหาอำนาจกลาง โดยการต่อสู้ของทั้งสองฝ่ายดำเนินขึ้นในทวีปยุโรป ตะวันออกกลาง แอฟริกา แปซิฟิก และพื้นที่บางส่วนของทวีปเอเชีย เป็นหนึ่งในสงครามที่มีความสูญเสียมากที่สุดในประวัติศาสตร์
  • สงครามเมืองชากังราว

    สงครามเมืองชากังราว
    สงครามเมืองชากังราว สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1 ทรงยกกองทัพขึ้นไปยังเมืองชากังราวถึง 4 ครั้ง เนื่องจากเมืองชากังราวเป็นเมืองหน้าด่านของกรุงสุโขทัย โดยครั้งแรกนั้นทรงยกกองทัพไปเมืองปี พ.ศ. 1916 พระยาไสแก้วและพระยาคำแหงเจ้าเมืองชากังราวออกรบต่อพระองค์ การศึกในครั้งนั้นเป็นเหตุให้พระยาไสแก้วเสียชีวิตแต่พระยาคำแหงนั้นสามารถกลับเข้าเมืองได้ แล้วทรงยกทัพกลับกรุงศรีอยุธยา
  • สงครามประกาศอิสรภาพตุรกี

    สงครามประกาศอิสรภาพตุรกี
    19 พฤษภาคม ค.ศ. 1919 – 24 กรกฎาคม ค.ศ. 1923) เป็นการสู้รบกันระหว่างขบวนการแห่งชาติตุรกีกับตัวแทนฝ่ายสัมพันธมิตร - คือ กรีซบนแนวรบด้านตะวันตก อาร์มีเนียทางด้านตะวันออก ฝรั่งเศสทางตอนใต้ พวกนิยมกษัตริย์และผู้ที่ต้องการแบ่งแยกดินแดนในเมืองต่างๆ และสหราชอาณาจักรและอิตาลีในกรุงอิสตันบูล – ภายหลังจากส่วนต่างๆ ของจักรวรรดิออตโตมันได้ถูกยึดครองและแบ่งแยกภายหลังจากความปราชัยของออตโตมันในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง มีทหารฝ่ายยึดครองอย่างบริติซ ฝรั่งเศส และอิตาลีเพียงไม่กี่คนที่กรีฑาทัพหรือเข้าร่วมการสู้รบ
  • สงครามกรุงทรอย

    สงครามกรุงทรอย
    เป็นสงครามระหว่างชาวอะคีอันส์ ​(กรีกโบราณ: Ἀχαιοί) (ชาวกรีก) กับชาวกรุงทรอย หลังปารีสแห่งทรอยชิงพระนางเฮเลนมาจากพระสวามี คือพระเจ้าเมเนเลอัสแห่งสปาร์ตา สงครามดังกล่าวเป็นหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญที่สุดในเทพปกรณัมกรีก และมีการบอกเล่าผ่านงานวรรณกรรมกรีกหลายชิ้น ที่โดดเด่นที่สุด คือ อีเลียดและโอดิสซีย์ของโฮเมอร์ มหากาพย์อีเลียดเล่าเรื่องการล้อมกรุงทรอยปีสุดท้าย ส่วนโอดิสซีย์อธิบายการเดินทางกลับบ้านของโอดิสเซียส
  • สงครามโลกอียิปต์

    สงครามโลกอียิปต์
    อียิปต์เป็นสมรภูมิสำคัญในสงครามแอฟริกาเหนือในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองโดยเป็นสถานที่จัดสมรภูมิครั้งที่ 1และ 2 ที่เอล อลาเมน อียิปต์ เป็นอาณาจักรอิสระทางกฎหมายตั้งแต่ปี 1922 และมีอำนาจอธิปไตยเท่าเทียมกันในอาณานิคมของอังกฤษ-อียิปต์ซูดานในความเป็นจริง อียิปต์ตกอยู่ภายใต้การกดขี่ของสหราชอาณาจักร อย่างหนัก ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่คงอยู่มาตั้งแต่สหราชอาณาจักรเข้าแทรกแซงทางทหารในกบฏโอราบีเพื่อสนับสนุนทาวฟิกปาชา เคดิฟ แห่งอียิปต์ ในปี 1882 และยึดครองประเทศในเวลาต่อมา
  • สงครามเมืองจีน

    สงครามเมืองจีน
    สงครามเริ่มต้นเมื่อเดือนเมษายน ค.ศ. 1927 ท่ามกลางการกรีฑาทัพขึ้นเหนือ (Northern Expedition)[7] และสิ้นสุดลงในช่วง ค.ศ. 1949-1950 จนถึงปัจจุบันนี้ แม้จะไม่มีการรบแล้ว แต่สงครามก็ยังคงไม่สิ้นสุดอย่างเป็นทางการ เพราะยังไม่มีการลงนามสนธิสัญญาสันติภาพใด ๆ[8] ความขัดแย้งยังคงดำเนินต่อไปในรูปของการขู่ใช้กำลังทหาร การกดดันทางการเมือง และการกดดันทางเศรษฐกิจ สถานะทางการเมืองของไต้หวันยังคงเป็นข้อขัดแย้งที่สำคัญในปัจจุบัน โดยความตึงเครียดที่ดำเนินต่อมานั้นถูกเรียกว่าเป็น "ความสัมพันธ์ข้ามช่องแคบ"
  • สงครามนกอีมู

    สงครามนกอีมู
    เป็นปฏิบัติการทางทหารเพื่อควบคุมประชากรนกอีมูในประเทศออสเตรเลียในช่วงปลายปีค.ศ. 1932 จากการที่นกอีมูเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็วกว่า 20,000 ตัวจนสร้างปัญหาแก่เกษตรกรไร่ข้าวโพดในท้องที่อำเภอแคมเปียนของรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ทางการออสเตรเลียว่าจ้างอดีตทหารผ่านศึกในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง จัดหน่วยทหารติดปืนกลลิวอิสเพื่อกำจัดนกอีมูเหล่านี้ จนสื่อในประเทศต่างเรียกปฏิบัติการนี้ว่า "สงครามนกอีมู"
  • สงครามฤดูหนาว

    สงครามฤดูหนาว
    การโจมตีเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2482 (ค.ศ. 1939) เมื่อทหารในกองทัพแดงราวหนึ่งล้านคนบุกเข้าจู่โจมตามแนวรบหลายจุดบริเวณพรมแดนระหว่างสหภาพโซเวียตกับฟินแลนด์ กองทัพฟินแลนด์บัญชาการโดยจอมพลมานเนอร์ไฮม์ สามารถต่อต้านการโจมตีได้อย่างมีประสิทธิภาพแม้ว่าจะมีกำลังพลน้อยกว่าฝ่ายโซเวียตมาก
  • สงครามมอลตา

    สงครามมอลตา
    การเปิดฉากแนวรบใหม่ในแอฟริกาเหนือในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1940 ได้เพิ่มความสำคัญต่อมอลตามากขึ้นแล้ว กองทัพอากาศและกองทัพเรือบริติชบนเกาะได้เข้าโจมตีเรือฝ่ายอักษะที่ขนเสบียงทีสำคัญและการเสริมกำลังจากยุโรป เชอร์ชิลได้เรียกเกาะแห่งนี้ว่า"เรือบรรทุกเครื่องบินที่ไม่มีวันจมูกนายพลแอร์วีน ร็อมเมิล ในฐานะผู้บัญชาการภาคสนามโดยพฤตินัยของกองทัพฝ่ายอักษะในแอฟริกาเหนือ ได้ตระหนักความสำคัญอย่างรวดเร็ว ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1941 เขาได้กล่าวเตือนว่า "หากปราศจากมอลตา อักษะจะต้องพบจุดจบโดยสูญเสียการควบคุมแอฟริกาเหนือ
  • สงครามเบลเยียม

    สงครามเบลเยียม
    เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม ค.ศ.1940 ภายหลัง 18 วัน ของการสู้รบต่อสู้ที่ซึ่งกองทัพเบลเยียมได้ถูกผลักดันกลับจนกระทั่งถูกโอบล้อมขนาดเล็กในทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ กองทัพเบลเยียมได้ยอมจำนนต่อเยอรมัน เป็นการเริ่มต้นของการยึดครองที่จะต้องอดทนจนกระทั่งปี ค.ศ. 1944. การยอมจำนนของวันที่ 28 พฤษภาคม เป็นพระราชบัญชาโดยสมเด็จพระเจ้าเลโอโปลด์ที่ 3 แห่งเบลเยียม
  • สงครามแปซิฟิก

    สงครามแปซิฟิก
    บางครั้งเรียกเป็น สงครามเอเชีย–แปซิฟิก หรือ แนวรบแปซิฟิก[36] เป็นแนวรบในสงครามโลกครั้งที่สองที่มีการสู้รบในเอเชียตะวันออก มหาสมุทรแปซิฟิก มหาสมุทรอินเดีย และโอเชียเนีย ตามภูมิศาสตร์ถือเป็นแนวรบที่ใหญ่ที่สุดของสงคราม ซึ่งรวมพื้นที่แนวรบมหาสมุทรแปซิฟิก แนวรบแปซิฟิกตะวันตกเฉียงใต้ สงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่สอง และสงครามโซเวียต–ญี่ปุ่นในช่วงไม่กี่เดือนสุดท้ายของสงคราม
  • สงครามการโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์

    สงครามการโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์
    เป็นการจู่โจมของกองกำลังพิเศษทางอากาศแห่งกองทัพเรือจักรวรรดิญี่ปุ่นต่อฐานทัพเรือสหรัฐที่ท่าเพิร์ล ดินแดนฮาวาย ในเช้าวันที่ 7 ธันวาคม ค.ศ. 1941 การโจมตีครั้งนี้ได้เป็นที่รู้จักกันคือ ยุทธการเพิร์ลฮาร์เบอร์[8] นำไปสู่การเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่สองของสหรัฐอเมริกา ผู้นำทางทหารญี่ปุ่นได้เรียกการโจมตีครั้งนี้ว่า ปฏิบัติการฮาวายและปฏิบัติการเอไอ[9][10] และปฏิบัติการแซดในช่วงระหว่างการวางแผน[11] การโจมตีครั้งนี้ได้สร้างความตกตะลึงอย่างมากแก่อเมริกันชน
  • สงคราม เปรู

    สงคราม เปรู
    ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างทั้งสองประเทศมีผลบังคับใช้ในวันที่ 31 กรกฎาคม 1941 ทั้งสองประเทศลงนามในพิธีสารริโอเมื่อวันที่ 29 มกราคม 1942 และกองกำลังเปรูก็ถอนทัพในเวลาต่อมา ความเป็นศัตรูกันเกี่ยวกับข้อพิพาทเรื่องดินแดนยังคงดำเนินต่อไปหลังจากปี 1942 และสิ้นสุดลงหลังจากสงครามเซเนปาในปี 1995 และการลงนามใน ข้อ ตกลงพระราชบัญญัติประธานาธิบดีบราซิเลียในเดือนตุลาคม 1998 [ 4 ]
  • ยุทธการที่สิงคโปร์

    ยุทธการที่สิงคโปร์
    ยุทธการที่สิงคโปร์ (อังกฤษ: Battle of Singapore) เป็นเหตุการณ์สู้รบในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง หลังญี่ปุ่นได้รับชัยชนะในการทัพมาลายาเมื่อเดือนมกราคม ค.ศ. 1942 แล้ว ญี่ปุ่นก็เริ่มรุกรานเกาะสิงคโปร์ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1942 ซึ่งถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ของอังกฤษ สิงคโปร์ในขณะนั้นมีฉายาว่า "ยิบรอลตาแห่งตะวันออก" ถือเป็นฐานที่มั่นหลักของกองทัพอังกฤษในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และถือเป็นหน้าด่านสำคัญที่จะป้องกันไม่ให้ข้าศึกรุกรานเข้ามาในมหาสมุทรอินเดียอันเป็นที่ตั้งของอาณานิคมต่าง ๆ
  • สงครามนอร์เวย์

    สงครามนอร์เวย์
    เยอรมนีนั้นต้องการที่จะครอบครองนอร์เวย์เพื่อเหล็กและโลหะจากสวีเดนอีกต่อหนึ่ง ซึ่งขนส่งทางเรือจากเมืองท่านาร์วิก ด้วยการยึดครองเมืองท่าอย่างสมบูรณ์ ก็จะทำให้การขนส่งทรัพยากรดังกล่าวเพื่อป้อนเข้าสู่โรงงานอุตสาหกรรม แม้ว่าจะถูกขัดขวางด้วยการปิดล้อมทางทะเลจากอังกฤษ นอกจากนั้นแล้ว มันยังทำให้ฝ่ายสัมพันธมิตรและเยอรมนีสามารถรบกันได้ด้วยการรบแบบสนามเพลาะซึ่งทั้งสองฝ่ายหวาดกลัว ต่อมาเมื่อยุทธนาวีมหาสมุทรแอตแลนติกขยายออกไป
  • สงครามเกาหลี

    สงครามเกาหลี
    ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองได้ยุติลง สหภาพโซเวียตและสหรัฐอเมริกาได้เข้าปลดปล่อยเกาหลีจากการควบคุมดินแดนอาณานิคมของจักรวรรดิญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ค.ศ. 1945 ภายหลังจากสงครามยุติลง เกาหลีได้ถูกแบ่งแยกอยู่ที่เส้นขนานที่ 38 กลายเป็นสองเขตแดนของการยึดครอง โซเวียตได้ปกครองดินแดนส่วนครึ่งนึงจากทางเหนือและอเมริกันก็ปกครองดินแดนอีกส่วนครึ่งนึงจากทางใต้ ด้วยชายแดนตั้งอยู่ที่เส้นขนานที่ 38 ในปี ค.ศ. 1948 สองรัฐเอกราชได้ถูกสถาปนาขึ้นอันเป็นผลมาจากความตึงเครียดทางการเมืองของสงครามเย็น
  • สงครามเยอรมนี

    สงครามเยอรมนี
    การบุกครองเยอรมนีของฝ่ายสัมพันธมิตร เป็นการประสานงานร่วมกันโดยฝ่ายสัมพันธมิตรตะวันตกในช่วงเดือนสุดท้ายของสงครามในเขตสงครามยุโรปของสงครามโลกครั้งที่สอง ในการเตรียมความพร้อมสำหรับการบุกครองเยอรมนีของฝ่ายสัมพันธมิตร หนึ่งในปฏิบัติการรุกได้ถูกออกแบบมาเพื่อทำการยึดและเข้ายึดทางตะวันออกและตะวันตกของฝั่งแม่น้ำไรน์: ปฏิบัติการเวริเทเบิลและปฏิบัติการเกรเนดในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1945 และปฏิบัติการลัมเบอร์แจ็คและปฏิบัติการอันเดอร์โทน ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1945
  • สงครามเย็น

    สงครามเย็น
    สงครามเย็น (อังกฤษ: Cold War) เป็นช่วงเวลาแห่งความตึงเครียดทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างสหภาพโซเวียตและสหรัฐอเมริกาและประเทศพันธมิตรจากทั้งกลุ่มตะวันออกและกลุ่มตะวันตก ภายหลังจากสงครามโลกครั้งที่สอง นักประวัติศาสตร์ยังไม่ตกลงกันทั้งหมดว่าสงครามเย็นคือช่วงใดกันแน่ แต่ช่วงเวลาโดยทั่วไปดังกล่าวจะนับตั้งแต่การประกาศลัทธิทรูแมน ปี ค.ศ. 1947
  • สงครามอินเดีย

    สงครามอินเดีย
    สงครามอินเดีย-ปากีสถาน ค.ศ. 1947 Indo-Pakistani War of 1947) หรือ สงครามกัศมีร์ครั้งที่หนึ่ง เป็นสงครามระหว่างประเทศอินเดียและประเทศปากีสถานเพื่อแย่งชิงรัฐชัมมูและกัศมีร์ ถือเป็นสงครามอินเดีย-ปากีสถานครั้งแรกจากสี่ครั้ง สงครามเริ่มขึ้นไม่กี่สัปดาห์ภายหลังรัฐสภาอังกฤษแบ่งบริติชราชออกเป็นสองรัฐเอกราช คือประเทศอินเดียและประเทศปากีสถาน ซึ่งทั้งสองประเทศต่างมีสถานะเป็นประเทศในเครือจักรภพ
  • สงครามปาเลสไตน์

    สงครามปาเลสไตน์
    ค.ศ. 1947–1949 หรือในอิสราเอล เรียก สงครามอิสรภาพ และในภาษาอาหรับเรียกว่าเป็นองค์ประกอบแกนกลางของนักบา เป็นสงครามรบพึ่งกันในดินแดนปาเลสไตน์ภายใต้อาณัติของบริเตน เป็นสงครามครั้งแรกในความขัดแย้งอิสราเอล–ปาเลสไตน์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งอาหรับ–อิสราเอลอีกต่อหนึ่ง ในสงครามครั้งนี้ จักรวรรดิบริติชถอนตัวจากปาเลสไตน์ในอาณัติ ซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิออตโตมันจนถึงปี 1917 สงครามครั้งนี้ลงเอยด้วยการสถาปนารัฐอิสราเอลโดยชาวยิว
  • สงครามแอลจีเรีย

    สงครามแอลจีเรีย
    เป็นการสู้รบระหว่างฝรั่งเศสและแนวร่วมปลดปล่อยแห่งชาติแอลจีเรีย(ฝรั่งเศส: Front de Libération Nationale – FLN) ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1954 ถึง ค.ศ. 1962 ซึ่งนำไปสู่แอลจีเรียได้รับเอกราชจากฝรั่งเศส ด้วยสงครามการให้เอกราชที่สำคัญครั้งนี้ มันเป็นความขัดแย้งที่ซับซ้อนที่เห็นได้อย่างเด่นชัดด้วยสงครามรบแบบกองโจร การสู้รบของขบวนการมาร์กี และมีการใช้ทรมาน ความขัดแย้งครั้งนี้ได้กลายเป็นสงครามกลางเมืองระหว่างชุมชนต่างๆและชุมนุมภายใน[20] สงครามครั้งนี้เกิดขึ้นส่วนใหญ่ในดินแดนแอลจีเรีย
  • สงครามปลดปล่อยบังกลาเทศ

    สงครามปลดปล่อยบังกลาเทศ
    เป็นการปฏิวัติและการขัดกันด้วยอาวุธที่เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1971 เมื่อขบวนการชาตินิยมเบงกอลและเรียกร้องการกำหนดการปกครองด้วยตนเองในปากีสถานตะวันออกก่อการกำเริบจนนำไปสู่การประกาศอิสรภาพของบังกลาเทศ สงครามเปิดฉากเมื่อคณะเผด็จการทหารในปากีสถานตะวันตกนำโดยยาห์ยา ข่านดำเนินการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวบังกลาเทศในปฏิบัติการเสิร์ชไลต์ของคืนวันที่ 25 มีนาคม ค.ศ. 1971
  • สงครามปลดปล่อยบังกลาเทศ

    สงครามปลดปล่อยบังกลาเทศ
    เป็นการปฏิวัติและการขัดกันด้วยอาวุธที่เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1971 เมื่อขบวนการชาตินิยมเบงกอลและเรียกร้องการกำหนดการปกครองด้วยตนเองในปากีสถานตะวันออกก่อการกำเริบจนนำไปสู่การประกาศอิสรภาพของบังกลาเทศ สงครามเปิดฉากเมื่อคณะเผด็จการทหารในปากีสถานตะวันตกนำโดยยาห์ยา ข่านดำเนินการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวบังกลาเทศในปฏิบัติการเสิร์ชไลต์ของคืนวันที่ 25 มีนาคม ค.ศ. 1971
  • สงครามอิรัก–อิหร่าน

    สงครามอิรัก–อิหร่าน
    สงครามอิรัก–อิหร่านเริ่มขึ้นเมื่ออิรักทำการรุกรานอิหร่านในวันที่ 22 กันยายน 1980 อันเนื่องมาจากข้อพิพาททางชายแดนที่ดำเนินมาอย่างยาวนาน หลังการปฏิวัติอิหร่านในปี 1979 รูฮุลลอฮ์ โคมัยนี ได้ขึ้นเป็นผู้นำสูงสุดของอิหร่านและประกาศตนเป็นผู้นำอิสลามนิกายชีอะห์ ทำให้มุสลิมชีอะฮ์อันเป็นคนส่วนมากในอิรักขึ้นมาก่อจลาจลต่อต้านการปกครองของรัฐบาลนิกายซุนนี ขณะเดียวกัน
  • สงครามหมู่เกาะฟอล์กแลนด์

    สงครามหมู่เกาะฟอล์กแลนด์
    เป็นสงครามที่ไม่ได้ประกาศในระยะเวลา 10 สัปดาห์ ระหว่างอาร์เจนตินา และสหราชอาณาจักร ในปี ค.ศ. 1982 บนดินแดนที่ขึ้นกับบริติชสองแห่งในแอตแลนติกทางตอนใต้: หมู่เกาะฟอล์กแลนด์ และดินแดนในภาวะพึ่งพิง เกาะเซาท์จอร์เจียและหมู่เกาะเซาท์แซนด์วิช ผลลัทธ์ของสงครามคือ บริติชชนะ ความขัดแย้งครั้งนี้ได้เริ่มขึ้นในวันที่ 2 เมษายน เมื่ออาร์เจนตินาได้ทำการบุกรุกและยึดครองหมู่เกาะฟอล์กแลนด์ ตามมาด้วยการบุกครองเกาะเซาท์จอร์เจียในวันต่อมา
  • สงครามอยุธยา–ล้านนา

    สงครามอยุธยา–ล้านนา
    เป็นความขัดแย้งชายแดนที่เกิดขึ้นระหว่าง พ.ศ. 1984 ถึง พ.ศ. 2017 โดยเริ่มขึ้นเมื่อเมืองในอาณาจักรล้านนาเข้าสวามิภักดิ์ต่ออาณาจักรอยุธยาในรัชสมัยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 เมื่อปี พ.ศ. 1985 และยังคงมีความขัดแย้งระหว่างอาณาจักรในรัชสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถแห่งอาณาจักรอยุธยา และรัชสมัยพระเจ้าติโลกราชแห่งอาณาจักรล้านนา เป็นระยะมาจนถึงปี พ.ศ. 2017 อาณาจักรล้านนาได้รับดินแดนบางส่วนกลับคืนมา แต่ภายในอาณาจักรอ่อนแอลงด้วยการแย่งชิงอำนาจภายใน และความสูญเสียที่เกิดขึ้นระหว่างความขัดแย้ง
  • สงครามยูโกสลาเวีย

    สงครามยูโกสลาเวีย
    สื่อถึงชุดความขัดแย้งทางชาติพันธ์ สงครามประกาศเอกราช และการก่อกำเริบที่แตกต่างแต่มีความเกี่ยวข้องกัน[12][13][14]ที่เกิดขึ้นในสหพันธ์สาธารณรัฐสังคมนิยมยูโกสลาเวียใน ค.ศ. 1991 ถึง 2001[A 2] ความขัดแย้งนำไปสู่การล่มสลายของยูโกสลาเวีย ซึ่งเกิดขึ้นกลาง ค.ศ. 1991 ก่อให้เกิด 6 ประเทศเอกราชใหม่ที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของยูโกสลาเวีย
  • สงครามโครแอต-บอสนีแอก

    สงครามโครแอต-บอสนีแอก
    เป็นสงครามระหว่างชาวบอสเนียกับชาวโครแอต ซึ่งเกิดทั้งในภูมิภาคบอสเนียกลาง เฮอร์เซโกวีนา และในเขตประเทศโครเอเชีย มูลเหตุสงครามมาจากในปี1991 โครเอเชียได้ประกาศเอกราชจาก ยูโกสลาเวีย แต่ก็แยกไปเฉพาะชาวโครแอตในโครเอเชีย ทำให้ชาวโครแอตในบอสเนียจึงได้ก่อตั้ง สาธารณรัฐโครเอเชียแห่งเฮิร์ตเซก-บอสเนีย เพื่อประกาศเอกราชจาก สาธารณรัฐบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา ซึ่งกำลังทำสงครามกับกลุ่มชาตินิยมชาวเซิร์บอยู่
  • สงครามยูโกสลาเวีย

    สงครามยูโกสลาเวีย
    สื่อถึงชุดความขัดแย้งทางชาติพันธ์ สงครามประกาศเอกราช และการก่อกำเริบที่แตกต่างแต่มีความเกี่ยวข้องกัน[12][13][14]ที่เกิดขึ้นในสหพันธ์สาธารณรัฐสังคมนิยมยูโกสลาเวียใน ค.ศ. 1991 ถึง 2001[A 2] ความขัดแย้งนำไปสู่การล่มสลายของยูโกสลาเวีย ซึ่งเกิดขึ้นกลาง ค.ศ. 1991 ก่อให้เกิด 6 ประเทศเอกราชใหม่ที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของยูโกสลาเวีย คือ: สโลวีเนีย, โครเอเชีย, บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา, มอนเตเนโกร, เซอร์เบีย และมาซิโดเนียเหนือ (อดีตมีชื่อว่า มาซิโดเนีย)
  • สงครามในอัฟกานิสถาน

    สงครามในอัฟกานิสถาน
    ภายหลังวินาศกรรม 11 กันยายน ใน ค.ศ. 2001 จอร์จ ดับเบิลยู. บุชได้เรียกร้องให้กลุ่มตอลิบาน ซึ่งเป็นผู้ปกครองอัฟกานิสถานโดยพฤตินัยให้ส่งตัวอุซามะฮ์ บิน ลาดิน[15] แต่กลุ่มตอลิบานได้ปฏิเสธที่จะส่งผู้ร้ายข้ามแดน[16] จึงนำไปสู่ปฏิบัติการเสรีภาพยั่งยืน[17] กลุ่มตอลิบานและอัลกออิดะฮ์ซึ่งเป็นพันธมิตรส่วนใหญ่ได้พ่ายแพ้ในประเทศโดยกองทัพที่นำโดยสหรัฐและพันธมิตรฝ่ายเหนือ ซึ่งต่อสู้รบกับกลุ่มตอลิบานมาตั้งแต่ ค.ศ. 1996 ในการประชุมบอนน์ ผู้มีอำนาจชั่วคราวอัฟกันคนใหม่(ส่วนใหญ่มาจากพันธมิตรฝ่ายเหนือ)
  • สงครามแอฟริกา

    สงครามแอฟริกา
    เหตุการณ์สงครามกลางเมืองในทวีปแอฟริกาแผ่ขยายอย่างหนัก ล่าสุดทีมชาติไอวอรี่โคสต์
    ต้องตัดสินใจย้ายไปแข่งกับทีมชาติ เบนิน ที่กรุง อักกรา ของกานา ในศึกแอฟริกันเนชันส์คัพ
    2012 รอบคัดเลือก นัดที่ 3 ในวันอาทิตย์ที่ 27 มี.ค.นี้ เช่นเดียวกับ ชุดปรีโอลิมปิก
    สำหรับ ไอวอรี่โคสต์ ได้รับผลกระทบจากเหตุวุ่นวายทางการเมืองภายในประเทศ
    จากการแย่งอำนาจภายหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดี เมื่อปลายปีที่แล้ว
  • สงครามรัสเซีย–ยูเครน

    สงครามรัสเซีย–ยูเครน
    เป็นสงครามต่อเนื่องระหว่างรัสเซีย (พร้อมกับกองกำลังแบ่งแยกดินแดนที่สนับสนุนรัสเซีย) และยูเครน[f] มันถูกเริ่มต้นขึ้นโดยรัสเซียในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2014 ภายหลังจากการปฏิวัติแห่งศักดิ์ศรีของยูเครน และจุดสำคัญในช่วงแรกไปที่สถานะของไครเมียและดอนบัส ซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับสากลว่าเป็นส่วนหนึ่งของยูเครน แปดปีแรกของความขัดแย้งครั้งนี้ รวมไปถึงรัสเซียได้ผนวกรวมแหลมไครเมีย (ค.ศ. 2014) และสงครามในดอนบัส (ค.ศ. 2014–ปัจจุบัน) ระหว่างยูเครนและฝ่ายแบ่งแยกดินแดนที่ได้รับการสนับสนุนจากรัสเซีย
  • สงครามกลางเมืองพม่า

    สงครามกลางเมืองพม่า
    ในช่วงหลายเดือนหลังการรัฐประหาร ฝ่ายค้านเริ่มรวมตัวกันเป็นรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติพม่า และเปิดฉากโจมตีรัฐบาลทหาร ภายในปี 2022 ฝ่ายค้านได้ควบคุมดินแดนจำนวนมากแม้ว่าจะมีประชากรเบาบางก็ตาม[25][26][27][28][29][30] การโจมตีของรัฐบาลทหารในหลายหมู่บ้านและตามเมืองต่าง ๆ ได้ทำให้ผู้คนนับหมื่นคนไร้ที่อยู่อาศัย ในวันครบรอบ 2 ปีรัฐประหาร ในเดือนกุมภาพันธ์ 2023
  • สงครามเชียงกราน

    สงครามเชียงกราน
    ในรัชสมัยของสมเด็จพระไชยราชาธิราช ได้เกิดสงครามไทยกับพม่า เมื่อปี พ.ศ. 2081 เมื่อพระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ แห่งกรุงหงสาวดี ได้ยกกองทัพมาตีเมืองเชียงกราน อันเป็นหัวเมืองชายแดนทางทิศตะวันตกของกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระไชยราชาธิราชทรงยกทัพไปตีกลับคืนมา ในการทัพครั้งนี้ พระองค์นำทหารอาสาชาวโปรตุเกสไปด้วย
  • สงครามท่าดินแดง

    สงครามท่าดินแดง
    เป็นสงครามระหว่างสยามอาณาจักรรัตนโกสินทร์และอาณาจักรพม่าราชวงศ์โก้นบอง เป็นการรุกรานของพม่าครั้งที่สองในสมัยรัตนโกสินทร์และเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องจากสงครามเก้าทัพ เกิดขึ้นหลังจากสงครามเก้าทัพหนึ่งปีในพ.ศ. 2329 หลังจากที่ฝ่ายพม่าซึ่งนำโดยพระเจ้าปดุงปราชัยไปในสงครามเก้าทัพและถอยทัพกลับ ในปีต่อมาฝ่ายพม่าพระเจ้าปดุงทรงจัดทัพเข้ารุกรานสยามอีกครั้ง
  • สงครามตีเมืองทวาย

    สงครามตีเมืองทวาย
    ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชเกิดขึ้นสองครั้งได้แก่ ใน พ.ศ. 2331 และ พ.ศ. 2335 ในสงครามตีเมืองทวายครั้งที่หนึ่ง พ.ศ. 2331 นั้นไม่ประสบผลสำเร็จ ต่อมาเมืองทวายเข้าสวามิภักดิ์ต่อกรุงเทพฯทำให้สงครามตีเมืองทวายครั้งที่สองพ.ศ. 2335 ประสบความสำเร็จ ฝ่ายสยามครอบครองเมืองทวายได้เป็นเวลาประมาณหนึ่งปี จนกระทั่งในพ.ศ. 2336 พระเจ้าปดุงทรงส่งทัพพม่ามายึดเมืองทวายคืน
  • สงครามเชียงแสน

    สงครามเชียงแสน
    ใน พ.ศ. 2347 เป็นสงครามระหว่างสยามอาณาจักรรัตนโกสินทร์ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก พร้อมทั้งอาณาจักรล้านนาในสมัยของพระเจ้ากาวิละ ทำสงครามกับเมืองเชียงแสนซึ่งอยู่ภายใต้การปกครองของพม่าในรัชสมัยพระเจ้าปดุงแห่งราชวงศ์โก้นบอง
  • สงครามเมื่อถลาง

    สงครามเมื่อถลาง
    เป็นสงครามความขัดแย้งระหว่างพม่าภายใต้การนำของพระเจ้าปดุงแห่งราชวงศ์โกนบอง กับสยามภายใต้การนำของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชและพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยแห่งราชวงศ์จักรี ระหว่างเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2351 ถึง เดือนมกราคม พ.ศ. 2354 นี่เป็นสงครามสุดท้าย[1]ที่พม่าโจมตีในดินแดนสยามตามประวัติศาสตร์ไทย โดยความขัดแย้งครั้งนี้จบลงที่สยามได้ชัยชนะ ความขัดแย้งนี้ก็ลามไปถึงรัฐไทรบุรีด้วย[3]
  • สงครามเชียงตุง

    สงครามเชียงตุง
    ฝ่ายสยามเห็นว่าหากจะยกทัพไปโจมตีเมืองเชียงรุ่งได้ต้องครอบครองเมืองเชียงตุงให้ได้เสียก่อน นำไปสู่สงครามตีเมืองเชียงตุง สงครามตีเมืองเชียงตุงเกิดขึ้นครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อพ.ศ. 2393 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว สยามให้ฝ่ายอาณาจักรล้านนาเชียงใหม่จัดทัพขึ้นไปโจมตีเมืองเชียงตุงแต่ไม่สำเร็จ ต่อมาในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สยามได้จัดทัพขึ้นไปเมืองเชียงตุงอีกสองครั้งในปี พ.ศ. 2395 และพ.ศ. 2396 ซึ่งไม่ประสบความสำเร็จอีกเช่นกัน
  • สงครามปราบฮ่อ

    สงครามปราบฮ่อ
    สงครามปราบฮ่อ เป็นการต่อสู้กับกลุ่มผู้ลี้ภัยกึ่งทหารชาวจีนที่บุกรุกพื้นที่ตังเกี๋ยและสยามระหว่างปี 2408–2433
  • สงครามปราบฮ่อ

    สงครามปราบฮ่อ
    สงครามปราบฮ่อ เป็นการต่อสู้กับกลุ่มผู้ลี้ภัยกึ่งทหารชาวจีนที่บุกรุกพื้นที่ตังเกี๋ยและสยามระหว่างปี 2408–2433
  • สงครามโรมาเนีย

    สงครามโรมาเนีย
    ราชอาณาจักรโรมาเนียวางตัวเป็นกลางในช่วงสองปีแรกของสงครามโลกครั้งที่ 1โดยเข้าข้างฝ่ายสัมพันธมิตรตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2459 จนกระทั่ง การยึดครองของ ฝ่ายอำนาจกลางนำไปสู่สนธิสัญญาบูคาเรสต์ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2461 ก่อนที่จะกลับเข้าสู่สงครามอีกครั้งในวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2461 ราชอาณาจักรโรมาเนียมีแหล่งน้ำมันที่สำคัญที่สุดในยุโรป และเยอรมนีก็ซื้อปิโตรเลียมจากราชอาณาจักรนี้อย่างเต็มใจ รวมถึงสินค้าส่งออกอาหารด้วย
  • สงครามลัตเวีย

    สงครามลัตเวีย
    บางครั้งเรียกว่าการต่อสู้เพื่อเสรีภาพของลัตเวีย ( Latvijas brīvības cīņas ) หรือสงครามปลดปล่อยลัตเวีย ( Latvijas atbrīvošanas karš ) เป็นกลุ่มความขัดแย้งทางการทหารในลัตเวียระหว่างวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2461 ภายหลังสาธารณรัฐลัตเวียที่เพิ่งประกาศใหม่ถูกรุกรานโดยโซเวียตรัสเซียและการลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพลัตเวีย-โซเวียตริกาเมื่อวันที่ 11 สิงหาคมพ.ศ. 2463
  • สงครามเกาะช้าง

    สงครามเกาะช้าง
    ยุทธนาวีเกาะช้าง เป็นเหตุการณ์รบทางเรือที่เกิดขึ้นในกรณีพิพาทอินโดจีน อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากการที่ไทยเรียกร้องให้ปรับปรุงเส้นแบ่งเขตแดน ไทย-อินโดจีนฝรั่งเศส เสียใหม่ โดยใช้แนวร่องน้ำลึกเป็นเกณฑ์ตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ และหลักความยุติธรรม และให้ฝรั่งเศสคืนดินแดนฝั่งขวาแม่น้ำโขงที่ฝรั่งเศสยึดไปจากเหตุการณ์ ร.ศ. 112 ให้ไทย ยุทธภูมิในการรบครั้งนี้เกิดขึ้นที่บริเวณด้านใต้ของเกาะช้าง จังหวัดตราด เมื่อวันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2484 และถือเป็นการรบทางทะเลครั้งเดียวในประวัติศาสตร์กองทัพเรือไทย
  • สงครามกลางเมืองลาว

    สงครามกลางเมืองลาว
    ราชอาณาจักรลาวกลายเป็นสมรภูมิลับระหว่างฝ่ายต่าง ๆ ในสงครามเวียดนาม สนธิสัญญาไมตรีและสมาคมฝรั่งเศส-ลาวที่ลงนามในวันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2496 ส่งผลให้ฝรั่งเศสถ่ายโอนอำนาจที่เหลือคืนให้กับรัฐบาลลาวในระบอบกษัตริย์ ยกเว้นอำนาจควบคุมการทหาร โดยสนธิสัญญาไม่มีตัวแทนจากขบวนการลาวอิสระ ซึ่งเป็นกองกำลังติดอาวุธซึ่งมีความคิดต่อต้านการล่าอาณานิคมและสนับสนุนแนวคิดชาตินิยม
  • สงครามเวียดนาม

    สงครามเวียดนาม
    ความขัดแย้งเกิดขึ้นจากสงครามอินโดจีนครั้งที่ 1 ต่อคอมมิวนิสต์ที่นำโดยเหวียตมิญ[33][A 3] ภายหลังฝรั่งเศสถอนตัวออกจากอินโดจีนในปี พ.ศ. 2497 สหรัฐเป็นผู้ให้การสนับสนุนทางการเงินและการทหารสำหรับรัฐเวียดนามใต้ต่อเวียดกง แนวร่วมประชาชนเวียดนามใต้ที่รับคำสั่งจากเวียดนามเหนือ ริเริ่มทำสงครามกองโจรในเวียดนามใต้ เวียดนามเหนือยังบุกครองลาวในช่วงกลางปี 2493 เพื่อสนับสนุนกบฏ มีการสร้างเส้นทางสายโฮจิมินห์เพื่อส่งกำลังบำรุงและเสริมกำลังให้แก่เวียดกง[34]: 16  การมีส่วนร่วมของสหรัฐเพิ่มมากขึ้นในสมัยประธานาธิบดี
  • สงครามยูกันดา-แทนซาเนี่ย

    สงครามยูกันดา-แทนซาเนี่ย
    สงครามยูกันดา-แทนซาเนีย (ในยูกันดาถูกอ้างถึงในชื่อสงครามปลดแอก) เป็นสงครามระหว่างประเทศยูกันดาและประเทศแทนซาเนีบระหว่างปี พ.ศ. 2521–2522 กองทหารบางส่วนของอามินมาจากกองทหารของมูอัมมาร์ อัล-กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย สงครามนี้นำไปสู่การล้มล้างระบอบการปกครองของอีดี อามิน
  • สงครามอ่าว

    สงครามอ่าว
    ชื่อรหัสทางทหารว่า ปฏิบัติการโล่ทะเลทราย (Operation Desert Shield, 2 สิงหาคม 2533 – 17 มกราคม 2534) เป็นปฏิบัติการนำสู่การสั่งสมกำลังและการป้องกันของซาอุดีอาระเบียและปฏิบัติการพายุทะเลทราย (Operation Desert Storm, 17 มกราคม 2534 – 28 กุมภาพันธ์ 2534) ในระยะสู้รบ เป็นสงครามในภูมิภาคอ่าวเปอร์เซียระหว่างกำลังผสมจาก 34 ชาตินำโดยสหรัฐอเมริกาต่อประเทศอิรักหลังการบุกครองและผนวกคูเวตของอิรัก
  • สงครามกลางเมืองเนปาล

    สงครามกลางเมืองเนปาล
    เป็นความขัดแย้งทางทหารที่กินเวลานาน 10 ปี ระหว่าง พรรคคอมมิวนิสต์แห่งเนปาล (ลัทธิเหมา) (CPN-M) และรัฐบาลเนปาล ต่อสู้ตั้งแต่ พ.ศ. 2539 - 2549 การต่อสู้นี้มักเรียกว่าเมาวาที ทวันทกาล (Maovadi Dwandakaal; เนปาล: द्वन्दकाल) ในเนปาล การกบฏโดยพรรคคอมมิวนิสต์เนปาลเริ่มขึ้นเมื่อ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2539 โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อล้มล้าง รัฐบาลของราชอาณาจักรเนปาล และจัดตั้งสาธารณรัฐประชาชน เหตุการณ์นี้สิ้นสุดลงโดย ความตกลงสันติภาพสมบูรณ์แบบ ลงนามเมื่อ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549
  • สงครามต่อต้านการก่อการร้าย

    สงครามต่อต้านการก่อการร้าย
    สงครามต่อต้านการก่อการร้าย ( War on Terror) เป็นคำที่ใช้ทั่วไปกับการทัพทางทหารระหว่างประเทศซึ่งเริ่มต้นอันเป็นผลมาจากวินาศกรรม 11 กันยายน พ.ศ. 2544 ต่อสหรัฐ การทัพครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อกำจัดอัลกออิดะห์และองค์การก่อการร้ายอื่นๆ สหราชอาณาจักร ประเทศสมาชิกเนโทอื่นๆ และประเทศนอกกลุ่มเนโทเข้าร่วมในความขัดแย้งนี้ด้วยเช่นกัน
  • สงครามอิรัก

    สงครามอิรัก
    เป็นความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในประเทศอิรักตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2546[8][9] ด้วยการรุกรานอิรักโดยสหรัฐอเมริกาซึ่งมีประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุชเป็นผู้นำ และสหราชอาณาจักรซึ่งมีนายกรัฐมนตรีโทนี แบลร์เป็นผู้นำ[10] สงครามคราวนี้อาจเรียกชื่ออื่นว่า การยึดครองอิรัก, สงครามอ่าวครั้งที่สอง หรือ ปฏิบัติการเสรีภาพอิรัก โดยทหารสหรัฐ สงครามครั้งนี้สหรัฐอเมริกาได้ประกาศให้สิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2554 แม้ความรุนแรงประปรายยังมีต่อไปทั่วประเทศ[11]
  • สงครามกลางเมืองลิเบีย

    สงครามกลางเมืองลิเบีย
    สงครามกลางเมืองลิเบีย พ.ศ. 2554 หรือเรียก การปฏิวัติลิเบีย เป็นความขัดแย้งติดอาวุธในประเทศลิเบีย เพื่อต่อต้านอำนาจรัฐภายใต้การปกครองของพันเอกมูอัมมาร์ กัดดาฟี ซึ่งเป็นผู้นำเผด็จการในประเทศโดยพฤตินัยของประเทศที่ครองอำนาจมายาวนานร่วม 40 ปี เหตุความไม่สงบได้เริ่มต้นขึ้นในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 และได้ขยายตัวกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการลุกฮือขึ้นทั่วประเทศ ซึ่งมีเป้าหมายที่จะโค่นล้มกัดดาฟีลงจากตำแหน่งและจัดการเลือกตั้งอย่างเป็นประชาธิปไตย[29][30]
  • สงครามพิวนิก

    สงครามพิวนิก
    เริ่มขึ้นในปี 264 ก่อนคริสตกาล เมื่อโรมเข้าแทรกแซงความขัดแย้งบนเกาะซิซิลีของคาร์เธจ ชัยชนะของฝ่ายโรมันในยุทธการที่อากรีเจนตัมทำให้โรมันยึดเกาะซิซิลีไว้ได้เกือบทั้งหมด ต่อมาฝ่ายโรมันซึ่งไม่เคยมีประสบการณ์การรบทางเรือใช้วิธีการรบบนบกที่พวกตนชำนาญเอาชนะคาร์เธจได้ในยุทธนาวีไมไล ฝ่ายคาร์เธจโต้กลับด้วยทหารรับจ้างชาวสปาร์ตาจนสามารถจับตัวมาร์กุส อาตีลีอุส เรกูลุส แม่ทัพฝ่ายโรมันได้ ฝ่ายโรมันจึงล่าถอยไปที่ซิซิลี