-
400
ยุคอียิปต์โบราณ
การสร้างพีรามิดเเละศิลปะที่เกี่ยวข้องกับเทพเจ้าเเละฟาโรห์ -
413
ยุคเมโสโปเตเมีย
การสร้างสถาปัตยกรรมสำคัญเช่นมหาวิหารซิกกูรัตเเละภาพสลักที่บันทึกเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ศิลปะการสลักหินและศิลาจารึกมีความสำคัญมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำบันทึกสำคัญเช่นกฎของฮัมมูราบีซึ่งเป็นหนึ่งในกฎหมายที่เก่าแก่ที่สุดที่รู้จัก -
500
ยุคโรมัน
ศิลปะโรมัน (พ.ศ. 340 - พ.ศ. 870) แบบอย่างศิลปะโรมันปรากฏลักษณะชัดเจนในช่วงพุทธศตวรรษที่ 4 เรื่อยมาจนกระทั่งประมาณ พ.ศ. 1040 โดยในช่วงเวลาหลังได้เปลี่ยนสาระเรื่องราวใหม่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับศาสนาคริสต์ สืบต่อมาเป็นเวลาอีกนานมาก จนกระทั่งเมื่อกรุงคอนสะแตนติโนเปิลได้กลายเป็นเมืองหลวงใหม่ของจักรวรรดิโรมัน ในปี พ.ศ. 870 ทำให้สมัยแห่งโรมันต้องสิ้นสุดลง แหล่งอารยธรรมสำคัญของโรมัน คือ อารยธรรมกรีกและอีทรัสกัน -
600
ยุคฮิบรู
ศิลปะของชาวฮิบรูถูกจำกัดโดยข้อห้ามทางศาสนาที่ระบุในพระคัมภีร์พันธสัญญาเดิมซึ่งห้ามไม่ให้สร้างภาพลักษณ์หรือรูปปั้นของพระเจ้าและเทพเจ้าดังนั้นศิลปะฮิบรูจึงเน้นไปที่การตกแต่งแบบเรขาคณิตหรือการใช้ลวดลายธรรมชาติแทน -
622
ยุคอิสลาม
การพัฒนาศิลปะในรูปเเบบของการออกเเบบที่ไม่ใช่ภาพของมนุษย์เช่นลวดลายเรขาคณิตเเละการตกเเต่สถาปัตยกรรมการพัฒนาศิลปะในรูปเเบบของการออกเเบบที่ไม่ใช่ภาพของมนุษย์เช่นลวดลายเรขาคณิตเเละการตกเเต่งสถาปัตยกรรม -
800
ยุคกรีกโบราณ
ศิลปะกรีกโบราณ หรือ ศิลปะกรีซโบราณ (750 ปีก่อน ค.ศ. - 300 ปีก่อนค.ศ.) ชาวกรีกมีความเชื่อว่า "มนุษย์เป็นมาตรวัดสรรพสิ่ง" ซึ่งความเชื่อนี้เป็นรากฐาน ทางวัฒนธรรมของชาวกรีก เทพเจ้าของชาวกรีกจะมีรูปร่างอย่างมนุษย์ และไม่มีความเชื่อเกี่ยวกับชีวิตหลังความตายเหมือนชาวอียิปต์ ดังนั้น จึงไม่มีสุสานหรือพิธี ฝังศพที่ซับซ้อนวิจิตรเหมือนกับชาวอียิปต์ -
1100
ยุคโรมาเนสก์
การสร้างโบสถ์เเละอารามที่มีลักษณะดั้งเดิมเเละเเข็งเเกร่งโบสถ์และวิหารที่สร้างขึ้นในยุคนี้มีลักษณะโครงสร้างที่มั่นคงโดยทั่วไปมีพื้นฐานแบบอารามพร้อมกับการใช้โครงสร้างอิฐและหินเช่นโบสถ์เซนต์ซาเวียร์ในฝรั่งเศสโครงสร้างจะมีอาคารรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าทรงโดม หรือทรงกรวยและเสาโรมันที่มักจะตกแต่งด้วยลวดลายที่ประณีต -
1435
ยุคโรมันตะวันออก
ศิลปะที่เน้นการใช้สีทองเเละภาพพระพุทธเจ้าในสถาปัตยกรรมเเละโมเสคการใช้กระเบื้องหรือแก้วที่มีสีสันหลากหลายในการสร้างภาพศิลปะบนพื้นผิวต่างๆเช่นผนังและเพดานโดดเด่นด้วยการสร้างภาพพระเยซูนักบุญและฉากทางศาสนา -
1450
ยุคโกธิก
การสร้างโบสถ์เเละมหาวิหารที่มีความสูงเเละกระจกสีในด้านศิลปะ การวาดภาพและประติมากรรมในยุคโกธิกมักจะมุ่งเน้นไปที่เรื่องราวทางศาสนาและชีวิตของนักบุญ ศิลปินในยุคนี้ยังใช้เทคนิคการทำลายมิติอย่างละเอียดเพื่อสร้างความรู้สึกของความลึกและความเป็นจริง -
ยุคไมซีนี
อาคารสมัยไมซีนีมีลักษณะเด่นคือ"พระราชวังไมซีนี" ซึ่งเป็นอาคารขนาดใหญ่และซับซ้อนเช่นพระราชวังที่ไมซีนีและทรอยสถาปัตยกรรมนี้มักมีลักษณะของการสร้างกำแพงสูงและการตกแต่งด้วยลวดลายที่ซับซ้อนศิลปะการตกแต่งที่พบในสมัยนี้รวมถึงภาพเขียนบนผนังเช่นภาพการล่าสัตว์หรือการแสดงกิจกรรมทางสังคมซึ่งบ่งบอกถึงชีวิตประจำวันและความเชื่อของคนในยุคนั้น -
ยุคเรอเนสซองส์
การฟื้นฟูศิลปะและวรรณกรรมคลาสสิกของกรีกและโรมันศิลปินในยุคเรอเนสซองส์มักใช้เทคนิคใหม่ๆเช่นการสร้างมิติการศึกษากายวิภาคศาสตร์เพื่อวาดภาพมนุษย์อย่างแม่นยำและการใช้แสงและเงาเพื่อเพิ่มความลึกและความสมจริงตัวอย่างศิลปินที่สำคัญได้แก่ลีโอนาร์ -
ยุคบาโรก
การใช้แสงและเงาในการสร้างความรู้สึกถึงความรู้สึกและการเคลื่อนไหวงานศิลปะในยุคบาโรกมักใช้เทคนิคที่สร้างความรู้สึกของการเคลื่อนไหวและความลึกโดยการใช้แสงและเงาอย่างโดดเด่นและการวาดภาพที่มีการแสดงออกถึงอารมณ์อย่างเข้มข้นเช่นงานของคาราวัจโจและเปเตอร์ พอล รูเบนส์ -
ยุคโรโคโค
ศิลปะที่เน้นความสวยงามเเละความหรูหราศิลปะโรโคโคเน้นความสวยงามและความละเอียดอ่อนมีลักษณะของการตกแต่งที่ซับซ้อนและนุ่มนวลช้สีสันอ่อนหวานและการออกแบบที่โค้งเว้าการตกแต่งแบบนี้มักมาพร้อมกับธีมของชีวิตที่สงบและโรแมนติกตัวอย่างของศิลปินที่สำคัญได้แก่ฟร็องซัวส์บูเชอและชานด์เรอส์ -
ยุคเนโอคลาสสิก
การกลับไปใช้รูปเเบบของศิลปะคลาสสิกจากกรีกเเละโรมันศิลปะเนโอโคลาสสิกเน้นการฟื้นฟูรูปแบบและหลักการของศิลปะกรีกและโรมันโดยมีลักษณะของความเรียบง่ายและความสง่างามการใช้เส้นที่คมชัดและการจัดวางที่เป็นระเบียบตัวอย่างศิลปินที่สำคัญ -
ยุคโรเเมนติก
การเเสดงความรู้สึกเเละอารมณ์ผ่านศิลปะศิลปินและนักเขียนในยุคโรแมนติกมุ่งเน้นการแสดงออกถึงความรู้สึกและอารมณ์อย่างเข้มข้นงานศิลปะมักสะท้อนถึงความงดงามของธรรมชาติความรักและความเป็นเอกลักษณ์ของบุคคล -
ยุคโพสต์อิมเพรสชันนิสต์
ศิลปินโพสต์อิมเพรสชันนิสต์ยังคงใช้สีสดใสและเทคนิคการวาดที่ไม่เป็นระเบียบ แต่พวกเขามักจะมีการพัฒนาวิธีการใช้สีและเทคนิคเพื่อสื่อความรู้สึกและอารมณ์ที่ลึกซึ้งขึ้น เช่น การใช้สีที่มีความเข้มข้นและมีลักษณะเป็นรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์ -
ยุคอิมเพรสชันนิสต์
การจับภาพแสงและสีในช่วงเวลาสั้นศิลปินเน้นการจับภาพของแสงและบรรยากาศในช่วงเวลาต่างๆโดยการใช้เทคนิคการวาดที่รวดเร็วและคล่องแคล่วเพื่อแสดงความเปลี่ยนแปลงของแสงและสีเช่นในภาพที่วาดในแสงแดดหรือภายใต้สภาพอากาศที่แตกต่าง -
ยุคเรียสต์
การสร้างภาพสะท้อนความเป็นจริงของชีวิตประจำวันศิลปินเรียลลิสต์มุ่งเน้นการจับภาพชีวิตประจำวันและผู้คนในสภาพแวดล้อมที่แท้จริงโดยมักจะหลีกเลี่ยงการวาดภาพในเทพนิยายหรือประวัติศาสตร์ -
ยุคโมเดิร์น
การทดลองในรูปแบบและวัสดุใหม่เช่นฟิวเจอริสต์คิวบิซึ่มและเซอร์เรียลลิซึ่มศิลปินในยุคโมเดิร์นมักจะทดลองรูปแบบและเทคนิคใหม่ๆโดยไม่ยึดติดกับกฎเกณฑ์ทางศิลปะที่ดั้งเดิมเช่นการใช้รูปทรงเรขาคณิตการจัดองค์ประกอบที่ไม่เป็นระเบียบและการใช้สีและเทคนิคที่แปลกใหม่ -
ยุคปัจจุบัน
การทดลองในรูปแบบเเละวัสดุใหม่ๆๆในศิลปะศิลปินมักทดลองเทคนิคใหม่ๆและผสมผสานรูปแบบศิลปะที่หลากหลายเช่นการรวมศิลปะการแสดงการติดตั้งและสื่อดิจิทัลในงานเดียวกัน