-
1200 BCE
ยุดโบราณ
ยุคโบราณ (Ancient Europe)
กรีกโบราณ (Ancient Greece): หนึ่งในอารยธรรมที่สำคัญ มีความเจริญในด้านศิลปะ ปรัชญา และวิทยาศาสตร์ เมืองอย่างเอเธนส์และสปาร์ตาโดดเด่นมากในยุคนี้
โรมันโบราณ (Ancient Rome): จักรวรรดิโรมันเป็นจักรวรรดิที่มีอำนาจมากที่สุดในโลกตะวันตก และมีอิทธิพลต่อยุโรปในด้านกฎหมาย การปกครอง และสถาปัตยกรรม -
Period: 1200 BCE to 900 BCE
ยุดโรบาณ
ยุคโบราณ (Ancient Europe)
กรีกโบราณ (Ancient Greece): หนึ่งในอารยธรรมที่สำคัญ มีความเจริญในด้านศิลปะ ปรัชญา และวิทยาศาสตร์ เมืองอย่างเอเธนส์และสปาร์ตาโดดเด่นมากในยุคนี้
โรมันโบราณ (Ancient Rome): จักรวรรดิโรมันเป็นจักรวรรดิที่มีอำนาจมากที่สุดในโลกตะวันตก และมีอิทธิพลต่อยุโรปในด้านกฎหมาย การปกครอง และสถาปัตยกรรม -
440 BCE
ยุคยุโรปก่อนประวัติศาสตร์
โบราณยุโรปการเริ่มต้นของการสำรวจเป็นลายลักษณ์อักษร[ 3 ]จนถึงปัจจุบันหินเก่าตอนล่าง เมื่อประวัติศาสตร์ดำเนินไป ความไม่เท่าเทียมกันในระดับภูมิภาคอย่างมากในการพัฒนาทางวัฒนธรรมก็เกิดขึ้นและเติบโตขึ้น ภูมิภาคของทะเลในทิศทางตะวันออกได้รับความสำคัญและแรงบันดาลใจตามจากส่วนใหญ่ตามปกติแบบต่อเนื่องมาจากความร้านอาหารและนำเอาระบบดังกล่าวองค์กรและเนื้อหาของชุมชนยุคแรกมาสังเกตการณ์[ 4 ]ประวัติศาสตร์ของเฮโรโดตัส (จากการอ่าน 440 เป็นครั้งแรกคริสตกาล) -
1 CE
สหราชอาณาจักรยุคโบราณ
สหราชอาณาจักร (United Kingdom)
ยุคโบราณ: อาณาจักรโรมันได้เข้ามาปกครองอังกฤษในช่วงศตวรรษที่ 1 จนกระทั่งพวกแองโกล-แซกซอนเข้ามาในศตวรรษที่ 5 -
1 CE
อิตาลี (Italy)ยุดจักรวรรดิโรมันโบราณ:
อิตาลีเคยเป็นศูนย์กลางของจักรวรรดิโรมันซึ่งครอบครองพื้นที่ส่วนใหญ่ของยุโรปในช่วงศตวรรษที่ 1 ก่อนคริสต์ศักราช -
Period: 1 CE to 500
สหราชอาณาจักรยุคโบราณ
ยุคโบราณ: อาณาจักรโรมันได้เข้ามาปกครองอังกฤษในช่วงศตวรรษที่ 1 จนกระทั่งพวกแองโกล-แซกซอนเข้ามาในศตวรรษที่ 5 -
Period: 1 CE to 400
อิตาลียุดจักรวรรดิโรมันโบราณ
อิตาลีเคยเป็นศูนย์กลางของจักรวรรดิโรมันซึ่งครอบครองพื้นที่ส่วนใหญ่ของยุโรปในช่วงศตวรรษที่ 1 -
9
เยอรมันยุดโบราณ
เยอรมนีในฐานะภูมิภาคที่แยกจากกันในยุโรปกลางนั้นสืบย้อนไปถึงจูเลียส ซีซาร์ซึ่งเรียกพื้นที่ทางตะวันออกของแม่น้ำไรน์ ที่ยังไม่ถูกพิชิต ว่าเจอร์มาเนียซึ่งทำให้แตกต่างจากกอลชัยชนะของชนเผ่าเยอรมันในยุทธการที่ป่าทิวโตเบิร์ก ( ค.ศ. 9) -
Period: 9 to 843
เยอรมันยึดโบราณ
เยอรมนีในฐานะภูมิภาคที่แยกจากกันในยุโรปกลางนั้นสืบย้อนไปถึงจูเลียส ซีซาร์ซึ่งเรียกพื้นที่ทางตะวันออกของแม่น้ำไรน์ ที่ยังไม่ถูกพิชิต ว่าเจอร์มาเนียซึ่งทำให้แตกต่างจากกอลชัยชนะของชนเผ่าเยอรมันในยุทธการที่ป่าทิวโตเบิร์ก ( ค.ศ. 9) -
201
รัสเซีย
สหพันธรัฐรัสเซีย[b] เป็นประเทศในยูเรเชียเหนือ และเป็นประเทศใหญ่ที่สุดในโลกด้วยพื้นที่กว่า 17,098,246 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ที่สามารถอยู่อาศัยของโลกถึงหนึ่งในแปด ด้วยประชากรกว่า 146 ล้านคน รัสเซียจึงเป็นชาติมีประชากรมากที่สุดอันดับที่ 9 ของโลก และมากที่สุดในยุโรป[18][19] รัสเซียปกครองด้วยระบอบสหพันธ์สาธารณรัฐกึ่งประธานาธิบดี ประกอบด้วย 89 เขตการปกครอง อาณาเขตของรัสเซียแผ่ข้ามสิบเอ็ดเขตเวลา มีพรมแดนทางบกติดกับ 14 ประเทศ -
Period: 201 to
รัสเซีย
สหพันธรัฐรัสเซีย[b] เป็นประเทศในยูเรเชียเหนือ และเป็นประเทศใหญ่ที่สุดในโลกด้วยพื้นที่กว่า 17,098,246 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ที่สามารถอยู่อาศัยของโลกถึงหนึ่งในแปด ด้วยประชากรกว่า 146 ล้านคน รัสเซียจึงเป็นชาติมีประชากรมากที่สุดอันดับที่ 9 ของโลก และมากที่สุดในยุโรป[18][19] รัสเซียปกครองด้วยระบอบสหพันธ์สาธารณรัฐกึ่งประธานาธิบดี ประกอบด้วย 89 เขตการปกครอง อาณาเขตของรัสเซียแผ่ข้ามสิบเอ็ดเขตเวลา มีพรมแดนทางบกติดกับ 14 ประเทศ -
300
สมัยการโยกย้ายถิ่นฐานในยุโรป
เป็นสมัยของการอพยพของมนุษย์ (human migration) ที่เกิดขึ้นประมาณระหว่างปี ค.ศ. 300 ถึงปี ค.ศ. 700 ในทวีปยุโรป,[2] ที่เป็นช่วงที่คาบระหว่างยุคโบราณตอนปลายไปจนถึงยุคกลางตอนต้น การโยกย้ายครั้งนี้มีสาเหตุมาจากทั้งการเปลี่ยนแปลงทางสถานะภาพของจักรวรรดิโรมันและที่เรียกว่า “พรมแดนบาร์บาเรียน” ชนกลุ่มที่อพยพโยกย้ายในยุคนี้ก็ได้แก่ชนกอธ, แวนดัล, บัลการ์, อาลัน, ซูบิ, ฟรีเซียน แฟรงค์ และชนเจอร์มานิค รวมถึง ชนสลาฟบางกลุ่ม -
300
สมัยการโยกย้ายถิ่นฐานในยุโรป หรือ สมัยการรุกรานของบาร์บาเรียน
เป็นสมัยของการอพยพของมนุษย์ (human migration) ที่เกิดขึ้นประมาณระหว่างปี ค.ศ. 300 ถึงปี ค.ศ. 700 ในทวีปยุโรป,[2] ที่เป็นช่วงที่คาบระหว่างยุคโบราณตอนปลายไปจนถึงยุคกลางตอนต้น การโยกย้ายครั้งนี้มีสาเหตุมาจากทั้งการเปลี่ยนแปลงทางสถานะภาพของจักรวรรดิโรมันและที่เรียกว่า “พรมแดนบาร์บาเรียน” ชนกลุ่มที่อพยพโยกย้ายในยุคนี้ก็ได้แก่ชนกอธ, แวนดัล, บัลการ์, อาลัน, ซูบิ, ฟรีเซียน แฟรงค์ และชนเจอร์มานิค รวมถึง ชนสลาฟบางกลุ่ม -
Period: 300 to 700
สมัยการโยกย้ายถิ่นฐานในยุโรป หรือ สมัยการรุกรานของบาร์บาเรียน
เป็นสมัยของการอพยพของมนุษย์ (human migration) ที่เกิดขึ้นประมาณระหว่างปี ค.ศ. 300 ถึงปี ค.ศ. 700 ในทวีปยุโรป,[2] ที่เป็นช่วงที่คาบระหว่างยุคโบราณตอนปลายไปจนถึงยุคกลางตอนต้น การโยกย้ายครั้งนี้มีสาเหตุมาจากทั้งการเปลี่ยนแปลงทางสถานะภาพของจักรวรรดิโรมันและที่เรียกว่า “พรมแดนบาร์บาเรียน” ชนกลุ่มที่อพยพโยกย้ายในยุคนี้ก็ได้แก่ชนกอธ, แวนดัล, บัลการ์, อาลัน, ซูบิ, ฟรีเซียน แฟรงค์ และชนเจอร์มานิค รวมถึง ชนสลาฟบางกลุ่ม -
401
ยุคกลาง
ยุคกลาง (Medieval Europe)
ยุโรปหลังการล่มสลายของจักรวรรดิโรมันเข้าสู่ยุคมืด (Dark Ages) มีการก่อตั้งอาณาจักรใหม่ เช่น อาณาจักรแฟรงก์
ศาสนาคริสต์ มีบทบาทสำคัญมากในยุคนี้ โดยเฉพาะคริสตจักรคาทอลิก ซึ่งมีอิทธิพลทั้งในด้านการเมืองและศาสนา
สงครามครูเสด (Crusades) เป็นเหตุการณ์สำคัญในช่วงนี้ ซึ่งเกิดขึ้นเพื่อทวงคืนดินแดนศักดิ์สิทธิ์จากมุสลิม -
Period: 401 to 1500
ยุดกลาง
ยุคกลาง (Medieval Europe)
ยุโรปหลังการล่มสลายของจักรวรรดิโรมันเข้าสู่ยุคมืด (Dark Ages) มีการก่อตั้งอาณาจักรใหม่ เช่น อาณาจักรแฟรงก์
ศาสนาคริสต์ มีบทบาทสำคัญมากในยุคนี้ โดยเฉพาะคริสตจักรคาทอลิก ซึ่งมีอิทธิพลทั้งในด้านการเมืองและศาสนา
สงครามครูเสด (Crusades) เป็นเหตุการณ์สำคัญในช่วงนี้ ซึ่งเกิดขึ้นเพื่อทวงคืนดินแดนศักดิ์สิทธิ์จากมุสลิม -
901
ฝรั่งเศส (France)ยุดกลาง
ในสมัยกลาง (ตั้งแต่ราวคริสต์ศตวรรษที่ 10 จนถึงช่วงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 15) เป็นช่วงที่จักรวรรดิการอแล็งเฌียงและอาณาจักรแฟรงก์ตะวันตก (ค.ศ. 843–987) เริ่มเสื่อมอำนาจลง และการเข้าสู่อำนาจของราชวงศ์กาเปเซียง (ค.ศ. 987–1328) รวมถึงปัญหาต่าง ๆ ในการปกครองเหล่าราชรัฐน้อยใหญ่ -
Period: 901 to 1500
ฝรั่งเศสยุดกลาง
ในสมัยกลาง (ตั้งแต่ราวคริสต์ศตวรรษที่ 10 จนถึงช่วงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 15) เป็นช่วงที่จักรวรรดิการอแล็งเฌียงและอาณาจักรแฟรงก์ตะวันตก (ค.ศ. 843–987) เริ่มเสื่อมอำนาจลง และการเข้าสู่อำนาจของราชวงศ์กาเปเซียง (ค.ศ. 987–1328) รวมถึงปัญหาต่าง ๆ ในการปกครองเหล่าราชรัฐน้อยใหญ่ -
962
เยอรมันยุดกลาง
ในปี ค.ศ. 962 พระเจ้าออทโทที่ 1 ได้กลายเป็นจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์องค์แรกของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นรัฐเยอรมันในสมัยยุคกลาง -
Period: 962 to
เยอรมันยุดกลาง
ในปี ค.ศ. 962 พระเจ้าออทโทที่ 1 ได้กลายเป็นจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์องค์แรกของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นรัฐเยอรมันในสมัยยุคกลาง -
1066
สหราชอาณาจักรยุดกลาง
ชัยชนะของกษัตริย์วิลเลียมที่ 1 ในสมรภูมิเฮสติงส์ (ปี 1066) ได้ทำให้อังกฤษเริ่มมีการปกครองแบบรวมศูนย์ -
1401
การสํารวจและการค้นพบดินแดนใหม่
ยุคแห่งการสำรวจ หรือ ยุคแห่งการค้นพบ (อังกฤษ: Age of Exploration หรือ Age of Discovery) เป็นช่วงระยะเวลา ในประ วัติศาสตร์โลก ที่เริ่มตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 15 ไปจนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 17ทางไปสำรวจ ทางทะเลในโลกที่กว้างออกไปจากตัวทวีปยุโรปเองโดยมีจุดประสงค์เพื่อหาคู่ค้าขายใหม่ และโดยเฉพาะเพื่อการแสวงหาสินค้าเพื่อสนอง ความต้องการของตลาดตามต้องการ สินค้าที่เป็นที่ต้องการกันมากในยุโรปในขณะนั้นคือทอง เงิน และ เครื่องเทศ -
1401
สเปน
เป็นประเทศทางตะวันตกเฉียงใต้ของทวีปยุโรป ตั้งอยู่บนคาบสมุทรไอบีเรีย มีพรมแดนติดกับฝรั่งเศสทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือตามแนวเทือกเขาพิรินี[13] ทางทิศเหนือติดกับอันดอร์รา และอ่าวบิสเคย์ ทางทิศใต้ติดกับยิบรอลตาร์ และทางทิศตะวันตกติดกับโปรตุเกสและมหาสมุทรแอตแลนติก อาณาเขตของสเปนยังรวมถึงกานาเรียสในมหาสมุทรแอตแลนติก หมู่เกาะแบลีแอริกในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน -
Period: 1401 to
การสำรวจและการค้นพบดินแดนใหม่
ยุคแห่งการสำรวจ หรือ ยุคแห่งการค้นพบ (อังกฤษ: Age of Exploration หรือ Age of Discovery) เป็นช่วงระยะเวลา ในประ วัติศาสตร์โลก ที่เริ่มตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 15 ไปจนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 17 ในช่วงเวลานั้นเป็นช่วงที่ชาวยุโรปออกเดินทางไปสำรวจ ทางทะเลในโลกที่กว้างออกไปจากตัวทวีปยุโรปเองโดยมีจุดประสงค์เพื่อหาคู่ค้าขายใหม่ และโดยเฉพาะเพื่อการแสวงหาสินค้าเพื่อสนอง ความต้องการของตลาดตามต้องการ สินค้าที่เป็นที่ต้องการกันมากในยุโรปในขณะนั้นคือทอง เงิน และ เครื่องเทศ -
Period: 1401 to
ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา (Renaissance)
ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา (Renaissance)
เป็นช่วงที่ศิลปะ วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมฟื้นฟูอย่างมาก โดยเฉพาะในอิตาลี เมืองอย่างฟลอเรนซ์และเวนิสกลายเป็นศูนย์กลางแห่งความเจริญ
นักปราชญ์และศิลปินเช่น เลโอนาร์โด ดา วินชี, ไมเคิลแองเจโล และราฟาเอล มีบทบาทสำคัญในยุคนี้ -
1501
สหราชอาณาจักรยุคอาณานิคม
ยุคอาณานิคม: ในศตวรรษที่ 16-18 สหราชอาณาจักรได้ขยายอำนาจของตนไปทั่วโลก ก่อกำเนิดจักรวรรดิอังกฤษ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในจักรวรรดิที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ -
1501
ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา (Renaissance
ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา (Renaissance)
เป็นช่วงที่ศิลปะ วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมฟื้นฟูอย่างมาก โดยเฉพาะในอิตาลี เมืองอย่างฟลอเรนซ์และเวนิสกลายเป็นศูนย์กลางแห่งความเจริญ
นักปราชญ์และศิลปินเช่น เลโอนาร์โด ดา วินชี, ไมเคิลแองเจโล และราฟาเอล มีบทบาทสำคัญในยุคนี้ -
Period: 1501 to
สหราชอาณาจักรยุคอาณานิคม
ประกอบด้วยประเทศในเครือจักรภพ, คราวน์โคโลนี, รัฐในอารักขา, รัฐในอาณัติ และดินแดนอื่นซึ่งสหราชอาณาจักรปกครองหรือบริหาร จักรวรรดิกำเนิดจากดินแดนอาณานิคมโพ้นทะเลและสถานีการค้าที่ราชอาณาจักรอังกฤษก่อตั้งระหว่างปลายคริสต์ศตวรรษที่ 16 และต้นคริสต์ศตวรรษที่ 18 ในช่วงที่เจริญถึงขีดสุด จักรวรรดิบริติชเป็นจักรวรรดิที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ -
ยุคปฏิวัติวิทยาศาสตร์และการปฏิวัติอุตสาหกรรม (Scientific and Industrial Revolutions)
.ยุคปฏิวัติวิทยาศาสตร์และการปฏิวัติอุตสาหกรรม (Scientific and Industrial Revolutions)
มีการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว นักวิทยาศาสตร์อย่าง ไอแซก นิวตัน และกาลิเลโอ กาลิเลอี ได้เสนอทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ที่สำคัญ
การปฏิวัติอุตสาหกรรมทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมครั้งใหญ่ โดยเฉพาะในอังกฤษและยุโรปตะวันตก -
Period: to
ยุคปฏิวัติวิทยาศาสตร์และการปฏิวัติอุตสาหกรรม (Scientific and Industrial Revolutions)
คือช่วงเวลาตั้งแต่ ค.ศ. 1760 ถึง ค.ศ. 1825 เมื่อการเปลี่ยนแปลงในภาคเกษตรกรรม การผลิต การทำเหมืองแร่ การคมนาคมขนส่ง และเทคโนโลยี ส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อสภาพสังคม เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมในขณะนั้น การปฏิวัติเริ่มต้นในสหราชอาณาจักร จากนั้นจึงแพร่ขยายไปยังยุโรปตะวันตก อเมริกาเหนือ ญี่ปุ่น จนขยายไปทั่วทั้งโลกในเวลาต่อมา -
ยุคปฏิวัติฝรั่งเศสและการขยายอำนาจของนโปเลียน (French Revolution and Napoleonic Era)
ยุคปฏิวัติฝรั่งเศสและการขยายอำนาจของนโปเลียน (French Revolution and Napoleonic Era)
การปฏิวัติฝรั่งเศสในปี 1789 ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองในยุโรปและกระจายแนวคิดเสรีนิยม นโปเลียน โบนาปาร์ต เข้ามามีบทบาทในการขยายอำนาจฝรั่งเศส -
ฝรั่งเศส (France)ยุดโบราณ
ฝรั่งเศสเป็นดินแดนที่เคยอยู่ใต้การปกครองของจักรวรรดิโรมันมาก่อน โดยรู้จักกันในชื่อของชนเผ่า หรือแคว้นกอล ซึ่งเป็นกลุ่มชนเผ่าขนาดใหญ่ที่พูดภาษาเคลท์ ในช่วงท้ายก่อนที่จักรวรรดิโรมันจะล่มสลายลง ดินแดนกอลถูกรุกรานจากทั้งการโจมตีของกลุ่มอนารยชนและการอพยพของกลุ่มคนเร่ร่อน โดยเฉพาะชาวแฟรงก์เชื้อสายเจอร์มานิค พระมหากษัตริย์แฟรงก์นามว่า โคลวิสที่ 1 -
Period: to
ยุคปฏิวัติฝรั่งเศสและการขยายอำนาจของนโปเลียน (French Revolution and Napoleonic Era)
ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1789 เมื่อกองกำลังร่วมกันล้มล้างระบอบเก่าเพื่อสถาปนาระบอบใหม่ นำไปสู่ระบอบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญเป็นระยะเวลาชั่วคราว และแล้วสถาบันกษัตริย์ก็ถูกล้มล้างโดยสมบูรณ์ในเดือนกันยายน ค.ศ. 1792 ราชอาณาจักรฝรั่งเศสแปรสภาพเป็นสาธารณรัฐฝรั่งเศสที่หนึ่ง ตามด้วยการประหารชีวิตพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ในเดือนมกราคม ค.ศ. 1793 และความวุ่นวายทางการเมืองที่ยาวนานหลายปี ความวุ่นวายเหล่านี้สิ้นสุดลงเมื่อนายพลนโปเลียนได้ก่อรัฐประหาร 18 บรูว์แมร์ และตั้งตนเองเป็นกงสุลเอกเมื่อพฤศจิกายน ค.ศ. 1799 -
Period: to
ฝรั่งเศสยึดโบราณ
เริ่มต้นขึ้นในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1789 เมื่อกองกำลังร่วมกันล้มล้างระบอบเก่าเพื่อสถาปนาระบอบใหม่ นำไปสู่ระบอบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญเป็นระยะเวลาชั่วคราว และแล้วสถาบันกษัตริย์ก็ถูกล้มล้างโดยสมบูรณ์ในเดือนกันยายน ค.ศ. 1792 ราช -
ฝรั่งเศส (France)ยุดนโปเลียน
ในช่วงสงครามปฏิวัติฝรั่งเศส และปราบดาภิเษกเป็นจักรพรรดิแห่งฝรั่งเศสในพระนามว่า จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ตั้งแต่ปี 1804 จนถึง 1814 และอีกครั้งในช่วงเวลาสั้น ๆ ในปี 1815 ในช่วงสมัยร้อยวัน นโปเลียนครอบงำกิจการในทวีปยุโรปและทั่วโลกนานกว่าทศวรรษ ในขณะที่ได้นำพาฝรั่งเศสเข้าสู้รบกับกลุ่มพันธมิตรประเทศรอบด้านในช่วงสงครามนโปเลียน เขาได้รับชัยชนะในศึกหลายครั้ง และแผ่เขตอิทธิพลกว้างใหญ่ไพศาล เขาก่อตั้งจักรวรรดิขนาดใหญ่ที่ปกครองเกือบทั่วทวีปยุโรปก่อนที่จะล่มสลายในปี 1815 -
Period: to
ฝรั่งเศสยุดนโปเลียน
ในช่วงสงครามปฏิวัติฝรั่งเศส และปราบดาภิเษกเป็นจักรพรรดิแห่งฝรั่งเศสในพระนามว่า จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ตั้งแต่ปี 1804 จนถึง 1814 และอีกครั้งในช่วงเวลาสั้น ๆ ในปี 1815 ในช่วงสมัยร้อยวัน นโปเลียนครอบงำกิจการในทวีปยุโรปและทั่วโลกนานกว่าทศวรรษ ในขณะที่ได้นำพาฝรั่งเศสเข้าสู้รบกับกลุ่มพันธมิตรประเทศรอบด้านในช่วงสงครามนโปเลียน เขาได้รับชัยชนะในศึกหลายครั้ง และแผ่เขตอิทธิพลกว้างใหญ่ไพศาล เขาก่อตั้งจักรวรรดิขนาดใหญ่ที่ปกครองเกือบทั่วทวีปยุโรปก่อนที่จะล่มสลายในปี 1815 -
อิตาลียุดรวมชาติ
เป็นความเคลื่อนไหวทางการเมืองและทางสังคมโดยบรรดารัฐต่าง ๆ เพื่อรวมกันเป็น ราชอาณาจักรอิตาลี ใน คริสต์ศตวรรษที่ 19 โดยเริ่มต้นพร้อมกับ การประชุมใหญ่แห่งเวียนนา ใน ค.ศ. 1815 และเป็นผลสำเร็จใน ค.ศ. 1871 เมื่อ กรุงโรม ได้เป็นเมืองหลวงของราชอาณาจักรอิตาลี[1][2] -
Period: to
อิตาลี(Italy)การรวมชาติ
เป็นความเคลื่อนไหวทางการเมืองและทางสังคมโดยบรรดารัฐต่าง ๆ เพื่อรวมกันเป็น ราชอาณาจักรอิตาลี ใน คริสต์ศตวรรษที่ 19 โดยเริ่มต้นพร้อมกับ การประชุมใหญ่แห่งเวียนนา ใน ค.ศ. 1815 และเป็นผลสำเร็จใน ค.ศ. 1871 เมื่อ กรุงโรม ได้เป็นเมืองหลวงของราชอาณาจักรอิตาลี[1][2] -
ยุดสงครามโลก
ยุคสงครามโลก (World Wars)
สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง (1914-1918) และ สงครามโลกครั้งที่สอง (1939-1945) เป็นเหตุการณ์สำคัญที่เปลี่ยนแปลงแผนที่การเมืองและสังคมยุโรป
หลังสงครามโลกครั้งที่สอง ยุโรปเข้าสู่ช่วงสงครามเย็น (Cold War) ซึ่งเป็นการแข่งขันทางอุดมการณ์ระหว่างตะวันตก (สหรัฐอเมริกาและพันธมิตร NATO) และตะวันออก (สหภาพโซเวียตและพันธมิตร) -
Period: to
ยุดสงครามโลก
เป็นความขัดแย้งระดับนานาชาติที่เกี่ยวข้องกับมหาอำนาจโลกส่วนใหญ่หรือทั้งหมด[1] ตามแบบแผน คำนี้สงวนไว้สำหรับความขัดแย้งระหว่างประเทศที่สำคัญที่เกิดขึ้นในช่วงครึ่งแรกของคริสต์ศตวรรษที่ 20 สองครั้ง คือ สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง (1914–1918) และสงครามโลกครั้งที่สอง (1939–1945) แม้ว่านักประวัติศาสตร์บางคนจะอธิบายความขัดแย้งระดับโลกอื่น ๆ ว่าเป็นสงครามโลกด้วย เช่น สงครามเก้าปี สงครามสืบราชบัลลังก์สเปน สงครามเจ็ดปี สงครามสหสัมพันธมิตร สงครามเย็น และสงครามต่อต้านการก่อการร้าย -
เยอรมันหลังแพ้สองครามโลก
เมื่อนาซีเยอรมนีพ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่สอง ฝ่ายสัมพันธมิตรผู้ชนะจึงได้แสดงสิทธิ์การปกครองเหนือดินแดนของรัฐเยอรมัน (เยอรมันไรช์) ที่ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของแนวโอเดอร์-ไนเซอ (Oder–Neisse line) และล้มล้างรัฐบาลภายใต้การปกครองของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ลง (ดูที่ปฏิญญาเบอร์ลิน ค.ศ. 1945) -
Period: to
เยอรมันหลังแพ้สงครามโลก
เมื่อนาซีเยอรมนีพ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่สอง ฝ่ายสัมพันธมิตรผู้ชนะจึงได้แสดงสิทธิ์การปกครองเหนือดินแดนของรัฐเยอรมัน (เยอรมันไรช์) ที่ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของแนวโอเดอร์-ไนเซอ (Oder–Neisse line) และล้มล้างรัฐบาลภายใต้การปกครองของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ลง (ดูที่ปฏิญญาเบอร์ลิน ค.ศ. 1945) -
ยุคสหภาพยุโรป
ยุคสหภาพยุโรป (European Union Era)
หลังสงครามเย็น ยุโรปได้ก่อตั้งสหภาพยุโรป (EU) เพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการเมืองในทวีปยุโรป รวมถึงการใช้สกุลเงินร่วมคือยูโร -
Period: to
ยุคสหภาพยุโรป
เป็นสหภาพทางเศรษฐกิจและการเมือง ประกอบด้วยรัฐสมาชิก 27 ประเทศซึ่งส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในทวีปยุโรป มีพื้นที่ 4,233,255 ตารางกิโลเมตร มีประชากรที่ประเมินกว่า 447 ล้านคน สหภาพยุโรปพัฒนาตลาดเดี่ยวภายในผ่านระบบกฎหมายทำให้เป็นมาตรฐานซึ่งใช้บังคับในรัฐสมาชิกทุกประเทศ นโยบายสหภาพยุโรปมุ่งประกันการเคลื่อนย้ายบุคคล สินค้า บริการและทุนอย่างเสรีในตลาดเดี่ยว ตรากฎหมายด้านยุติธรรมและกิจการในประเทศและธำรงนโยบายร่วมกันด้านการค้า[6] เกษตรกรรม[7] การประมงและการพัฒนาภูมิภาค[8] การควบคุมหนังสือเดินทางถูกเลิกภายในพื้นที่ -
ฝรั่งเศสยึดปัจจุบัน
สาธารณรัฐฝรั่งเศส (ฝรั่งเศส: République française) เป็นประเทศในภูมิภาคยุโรปตะวันตก ทั้งยังประกอบไปด้วยเกาะและดินแดนอื่น ๆ ในต่างทวีป ประเทศฝรั่งเศสแผ่นดินใหญ่ทอดตัวตั้งแต่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนจนถึงช่องแคบอังกฤษและทะเลเหนือ และจากแม่น้ำไรน์จนถึงมหาสมุทรแอตแลนติก มีประชากรราว 68 ล้านคน (ค.ศ. 2023) แบ่งการปกครองออกเป็น 18 แคว้น[13] (รวมแคว้นโพ้นทะเล 5 แคว้น) -
Period: to
ฝรั่งเศสยุคปัจจุบัน
สาธารณรัฐฝรั่งเศส (ฝรั่งเศส: République française) เป็นประเทศในภูมิภาคยุโรปตะวันตก ทั้งยังประกอบไปด้วยเกาะและดินแดนอื่น ๆ ในต่างทวีป ประเทศฝรั่งเศสแผ่นดินใหญ่ทอดตัวตั้งแต่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนจนถึงช่องแคบอังกฤษและทะเลเหนือ และจากแม่น้ำไรน์จนถึงมหาสมุทรแอตแลนติก มีประชากรราว 68 ล้านคน (ค.ศ. 2023) แบ่งการปกครองออกเป็น 18 แคว้น[13] (รวมแคว้นโพ้นทะเล 5 แคว้น) -
สหราชอาณาจักรยุคปัจจุบัน
สหราชอาณาจักรมีบทบาทสำคัญในสงครามโลกทั้งสองครั้งและเป็นสมาชิกผู้ก่อตั้งสหประชาชาติและนาโต้ -
Period: to
สหราชอาณาจักรยุดปัจจุบัน
สหราชอาณาจักร (United Kingdom: UK) และ บริเตน (Britain)[9] เป็นรัฐเอกราชในยุโรป ตั้งอยู่นอกชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของยุโรปภาคพื้นทวีป[10][11] ประกอบด้วยประเทศองค์ประกอบ 4 ประเทศ ได้แก่ อังกฤษ เวลส์ สกอตแลนด์ และไอร์แลนด์เหนือ[12] โดยครอบคลุมเกาะบริเตนใหญ่ ส่วนตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะไอร์แลนด์ และเกาะเล็ก ๆ จำนวนมากในบริติชไอลส์[13] ไอร์แลนด์เหนือเป็นเพียงส่วนเดียวของสหราชอาณาจักรที่มีพรมแดนทางบกติดต่อกับรัฐอื่น คือ ประเทศไอร์แลนด์