-
10,000 BCE
ยุคหินใหม่
งานเครื่องปั้นดินเผา: วัฒนธรรมหยางเชา (Yangshao) และหลงชาน (Longshan) มีการทำเครื่องปั้นดินเผาลายเขียนสีและไม่เขียนสีที่ใช้ในชีวิตประจำวันและพิธีกรรม -
Period: 10,000 BCE to 2000 BCE
งานเครื่องปั้นดินเผา: วัฒนธรรมหยางเชา (Yangshao) และหลงชาน (Longshan) มีการทำเครื่องปั้นดินเผาลายเขียนสีและไม่เขียนสีที่ใช้ในชีวิตประจำวันและพิธีกรรม
-
3000 BCE
การเริ่มต้นของวัฒนธรรมมิโนอันบนเกาะครีต
-
Period: 3000 BCE to 2000 BCE
การเริ่มต้นของวัฒนธรรมมิโนอันบนเกาะครีต
-
2070 BCE
การก่อตั้งราชวงศ์ซา (Xia Dynasty) ถือเป็นอารยธรรมจีนแรกเริ่ม
-
2070 BCE
ราชวงศ์เซี่ย
งานหยก: หยกถูกใช้เป็นวัตถุศักดิ์สิทธิ์ แสดงถึงความมั่งคั่งและอำนาจ หยกมีความสำคัญในการทำเครื่องประดับและเครื่องมือ -
Period: 2070 BCE to 1600 BCE
การก่อตั้งราชวงศ์ซา (Xia Dynasty) ถือเป็นอารยธรรมจีนแรกเริ่ม
-
Period: 2070 BCE to 1600 BCE
ราชวงศ์เซี่ย
-
2000 BCE
วัฒนธรรมมิโนอันเฟื่องฟู
-
Period: 2000 BCE to 1450 BCE
วัฒนธรรมมิโนอันเฟื่องฟู
-
1600 BCE
วัฒนธรรมไมซีนีอันในกรีซแผ่นดินใหญ่
-
1600 BCE
การปกครองของราชวงศ์ชาง (Shang Dynasty) การใช้ระบบการเขียนที่บันทึกลงบนกระดูกและเปลือกเต่า
-
Period: 1600 BCE to 1100 BCE
วัฒนธรรมไมซีนีอันในกรีซแผ่นดินใหญ่
-
Period: 1600 BCE to 1046 BCE
การปกครองของราชวงศ์ชาง (Shang Dynasty) การใช้ระบบการเขียนที่บันทึกลงบนกระดูกและเปลือกเต่า
-
Period: 1600 BCE to 1046 BCE
ราชวงศ์ซาง
-
1046 BCE
ราชวงศ์โจว (Zhou Dynasty) เป็นยุคที่เริ่มมีการเขียนบันทึกทางประวัติศาสตร์และปรัชญา
-
1046 BCE
ราชวงศ์ซาง
สำริด: ชาวซางมีความเชี่ยวชาญในการหล่อสำริด โดยเฉพาะการสร้างเครื่องบูชาและหม้อสำริดที่ประดับด้วยลวดลายสัตว์และลวดลายเชิงศาสนา บุคคลสำคัญ: ฟูหาว (Fu Hao) ราชินีและนักรบหญิงที่มีสุสานพร้อมงานศิลปะสำริดและหยกที่งดงาม -
Period: 1046 BCE to 256 BCE
ราชวงศ์โจว (Zhou Dynasty) เป็นยุคที่เริ่มมีการเขียนบันทึกทางประวัติศาสตร์และปรัชญา
-
Period: 1046 BCE to 771 BCE
ราชวงศ์โจวตะวันตก
-
800 BCE
การล่มสลายของวัฒนธรรมไมซีนีอันและยุคมืดของกรีก
-
776 BCE
การจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกครั้งแรก
-
771 BCE
ราชวงศ์โจวตะวันตก
เครื่องเขียนอักษรโลหะ: จารึกอักษรบนสำริดเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น โดยมีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับพิธีกรรมและการสืบทอดอำนาจ -
Period: 770 BCE to 256 BCE
ราชวงศ์โจวตะวันออก
-
753 BCE
พี่น้องฝาแฝดได้รับการเลี้ยงดูจากแม่หมาป่า
753 ปีก่อนคริสตกาล ตามตำนานของชาวโรมันกล่าวไว้ว่า กรุงโรมถูกก่อตั้ง ขึ้นโดยสองพี่น้องฝาแฝด โรมิวลุส (Romulus) และ เรมัส (Remus) ที่ถูกเลี้ยงดูโดยแม่หมาป่า -
750 BCE
การเริ่มต้นของสมัยโบราณและการพัฒนาเมืองรัฐ
-
Period: 750 BCE to 500 BCE
การเริ่มต้นของสมัยโบราณและการพัฒนาเมืองรัฐ
-
Period: 618 BCE to 907 BCE
ยุคราชวงศ์ถัง การแต่งกายมีลักษณะหรูหรามากขึ้น เนื่องจากเป็นยุคที่มีความเจริญรุ่งเรืองทางวัฒนธรรม
-
594 BCE
การปฏิรูปของโซลอนในเอเธนส์
-
509 BCE
การประชุมของวุฒิสภาชิกโรมัน
• 509 ปีก่อนคริสตกาล ระบอบกษัตริย์ของโรมันถูกล้มล้าง โรมันเปลี่ยนแปลง การปกครองเป็นสาธารณรัฐโรมัน (Roman Republic) ที่ถูกปกครองโดยวุฒิสภาชิก (สภาซีเนต | Senate) ซึ่ง มีกงสุล (Consult) จำนวนสองคนเป็นผู้นำ โดยผลัด เปลี่ยนหมุนเวียนกันในแต่ละปี -
Period: 475 BCE to 221 BCE
ยุครณรัฐ
-
431 BCE
สงครามเพโลพอนนีเซียนระหว่างเอเธนส์และสปาร์ตา
-
Period: 431 BCE to 404 BCE
สงครามเพโลพอนนีเซียนระหว่างเอเธนส์และสปาร์ตา
-
399 BCE
การประหารชีวิตของโสเครติส
-
336 BCE
การปกครองของอเล็กซานเดอร์มหาราช
-
Period: 336 BCE to 323 BCE
การปกครองของอเล็กซานเดอร์มหาราช
-
334 BCE
การรณรงค์ของอเล็กซานเดอร์มหาราชในเอเชียไมเนอร์, อียิปต์,
-
Period: 334 BCE to 323 BCE
การรณรงค์ของอเล็กซานเดอร์มหาราชในเอเชียไมเนอร์, อียิปต์,
-
323 BCE
การตายของอเล็กซานเดอร์มหาราชและการแบ่งแยกจักรวรรดิ
-
276 BCE
ยุคเฮลเลนิสติกหลังการล่มสลายของอาณาจักรของอเล็กซานเดอร์
-
Period: 276 BCE to 168 BCE
ยุคเฮลเลนิสติกหลังการล่มสลายของอาณาจักรของอเล็กซานเดอร์
-
264 BCE
สงครามพิวนิกระหว่างโรมันกับคาร์เทจ
• 264 ถึง 146 ปีก่อนคริสตกาล โรมันทำสงครามกับจักรวรรดิคาร์เทจ (Carthage Empire) ในแอฟริกาเหนือ เกิดเป็นสงครามพิวนิก (Punic Wars) รวมทั้งสิ้นสามครั้ง สงครามจบลงด้วย ชัยชนะของโรมัน -
256 BCE
ราชวงศ์โจวตะวันออก
ศิลปะพิธีกรรม: งานศิลปะในยุคนี้มีการพัฒนาไปสู่ความประณีตในเครื่องสำริดและงานหยกที่ใช้ในพิธีกรรม บุคคลสำคัญ: ขงจื๊อ (Confucius) นักปราชญ์ผู้ก่อตั้งลัทธิขงจื๊อที่มีอิทธิพลต่อศิลปะและความคิดจีนในยุคต่อมา -
221 BCE
ราชวงศ์ฉิน (Qin Dynasty) การรวมจีนเป็นหนึ่งเดียวภายใต้การปกครองของจักรพรรดิฉินฉื่อฮวง (Qin Shi Huang) และการก่อสร้างกำแพงเมืองจีน
-
221 BCE
ยุครณรัฐ
ลวดลายสัตว์ในงานสำริด: รูปแบบการตกแต่งในศิลปะสำริดได้รับการพัฒนามากขึ้น ลวดลายสัตว์ที่ซับซ้อนและเต็มไปด้วยรายละเอียด -
Period: 221 BCE to 206 BCE
ราชวงศ์ฉิน (Qin Dynasty) การรวมจีนเป็นหนึ่งเดียวภายใต้การปกครองของจักรพรรดิฉินฉื่อฮวง (Qin Shi Huang) และการก่อสร้างกำแพงเมืองจีน
-
Period: 221 BCE to 206 BCE
ราชวงศ์ฉิน
-
218 BCE
ฮันนิบาลนำกองทัพช้างบุกกรุงโรม
• 218 ปีก่อนคริสตกาล ในช่วงสงครามพิวนิกครั้งที่ 2 ฮันนิบาล (Hannibal) แม่ทัพของคาร์เทจได้ยกกองทัพช้างข้ามเทือกเขาแอ ลป์และบุกโจมตีกรุงโรม แต่สุดท้ายกองทัพโรมันก็ สามารถขับไล่กองทัพของฮันนิบาลได้ -
206 BCE
ราชวงศ์ฮั่น (Han Dynasty) การพัฒนาทางเทคโนโลยีและวรรณกรรม
-
206 BCE
การแต่งกายที่โดดเด่นในยุคราชวงศ์ฮั่นคือชุด “ฮั่นฝู
ซึ่งมีลักษณะเป็นชุดเสื้อยาวแขนกว้าง และใช้ผ้าผูกเอว เสื้อผ้าในยุคนี้มักทำจากผ้าไหมและผ้าฝ้าย ฮั่นฝูเป็นชุดที่สะท้อนความเป็นชาวฮั่นที่เป็นประชากรส่วนใหญ่ของจีน -
206 BCE
ราชวงศ์ฉิน
ทหารดินเผา (Terracotta Army): จักรพรรดิฉินสื่อหวง (Qin Shi Huang) มีการสร้างกองทัพทหารดินเผาขนาดใหญ่ที่ฝังอยู่ในสุสานเพื่อปกป้องจักรพรรดิในโลกหลังความตาย บุคคลสำคัญ: จักรพรรดิฉินสื่อหวง ผู้ริเริ่มโครงการก่อสร้างอันยิ่งใหญ่และการรวมประเทศจีนเป็นหนึ่งเดียว -
Period: 206 BCE to 220
ราชวงศ์ฮั่น (Han Dynasty) การพัฒนาทางเทคโนโลยีและวรรณกรรม
-
Period: 206 BCE to 220
ราชวงศ์ฮั่น
-
Period: 206 BCE to 220 BCE
การแต่งกายที่โดดเด่นในยุคราชวงศ์ฮั่นคือชุด “ฮั่นฝู
-
168 BCE
การล่มสลายของอาณาจักรเฮลเลนิสติกโดยโรมัน
-
146 BCE
การพิชิตกรีซโดยจักรวรรดิโรมัน
-
73 BCE
กบฎกลาดิเอเตอร์นำโดยสปาร์ตาคัสเข้าต่อสู้กับ กองทัพโรมัน
73 ปีก่อนคริสตกาล สปาร์ตาคัส (Spartacus) นำเหล่านักสู้กลาดิเอเตอร์ (Gladiator) ก่อกบฏต่อโรมัน -
45 BCE
จูเลียส ซีซาร์ รัฐบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ของโรมัน
• 45 ปีก่อนคริสตกาล จูเลียส ซีซาร์ (Julius Caesar) เอาชนะปอมเปย์ (Pompey) ผู้เป็นคู่แข่งทางการเมืองของเขาได้ ซีซาร์ส ถาปนาตนเองเป็นผู้เผด็จการครองอำนาจเบ็ดเสร็จใน กรุงโรมแต่เพียงผู้เดียว -
44 BCE
จูเลียส ซีซาร์ ถูกลอบสังหาร
44 ปีก่อนคริสตกาล ซีซาร์ถูกลอบสังหารโดยเหล่าวุฒิสมาชิก ก่อให้เป็น เกิดสงครามในโรมันเพื่อแย่งชิงอำนาจกัน -
31 BCE
Battle of Actium
31 ปีก่อนคริสตกาล ทายาทของซีซาร์นามว่า ออกตาเวียน (Octavian) มีชัย เหนือ มาร์ก แอนโทนี (Marc Anthony) และพระนาง คลีโอพัตราแห่งอียิปต์ (Cleopatra) ในยุทธนาวีแอกที อุม (Battle of Actium) -
27 BCE
จักรพรรดิออกัสตัส จักรพรรดิพระองค์แรกของโรมัน
27 ปีก่อนคริสตกาล ออกตาเวียนเอาชนะคู่แข่งได้ทั้งหมด ยุติ สงครามกลางเมืองในโรมัน ออกตาเวียนสถาปนา ตนเองเป็นจักรพรรดิพระองค์แรกของโรมันในนาม จักร พรรดิออกัสตัส (Augustus) จุดเริ่มต้นของยุค จักรวรรดิโรมัน (Roman Empire) -
43
กองทัพโรมันยึดครองเกาะอังกฤษ
• ค.ศ. 43 โรมันยึดครองเกาะอังกฤษ -
64
จักรพรรดิเนโรเผากรุงโรม
ค.ศ. 64 จักรพรรดิเนโร (Nero) สั่งให้เผากรุงโรมเพื่อก่อสร้าง พระราชวังใหม่ พระองค์เป็นหนึ่งในจักรพรรดิที่โหด ร้ายและวิปลาสมากที่สุดของโรมัน -
72
Colosseum
ค.ศ. 72
สนามกีฬาโคลอสเซียม (Colosseum) ถูกก่อสร้างขึ้น -
122
Hadrian Wall
• ค.ศ. 122 โรมันก่อสร้างกำแพงฮาเดรียน (Hadrian Wall) ทาง ตอนเหนือของอังกฤษ เพื่อป้องกันจากการรุกรานของ ชนป่าเถื่อนชาวเคลต์ (Celt) -
220
ราชวงศ์ฮั่น
จิตรกรรมฝาผนัง: มีการพัฒนาเทคนิคการวาดภาพบนผนังและผ้าไหมที่แสดงถึงธรรมชาติและวิถีชีวิต บุคคลสำคัญ: จางเฉียน (Zhang Qian) นักสำรวจที่เปิดเส้นทางสายไหม ทำให้ศิลปะจีนมีการแลกเปลี่ยนกับโลกตะวันตก -
306
จักรพรรดิคอนสแตนติน
ค.ศ. 306 จักรพรรดิคอนสแตนติน (Constantine) ทรงเป็น จักรพรรดิโรมันพระองค์แรกที่นับถือศาสนาคริสต์ -
330
การก่อตั้งคอนสแตนติโนเปิลเป็นเมืองหลวงใหม่ของจักรวรรดิโรมัน
-
376
ชาวก็อธ (Goths) และชนเผ่าที่ไม่ใช่ชาวโรมัน หนีจากพวกฮันมาลี้ภัยอยู่ในจักรวรรดิ
-
380
• ค.ศ. 380 จักรพรรดิทีโอโดเซียสที่ 1 (Theodosius) ประกาศ รับรองให้ศาสนาคริสต์เป็นศาสนาประจำโรมัน กรุงโรม เป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์นับตั้งแต่นั้น
-
395
จักรวรรดิโรมันถูกแบ่งแยกออกเป็นสองส่วน
• ค.ศ. 395 จักรวรรดิโรมันถูกแบ่งแยกออกเป็น 2 ส่วนคือ จักรวรรดิโรมันตะวันตก (Western Roman) ที่มี ศูนย์กลางอยู่ที่กรุงโรมกับจักรวรรดิโรมันตะวันออก (Eastern Roman Empire) ที่มีศูนย์กลางอยู่ที่กรุงคอนสแตนติโนเปิล (Constantinople) -
476
กองทัพชนเผ่าเยอรมันบุกยึดกรุงโรม และบีบบังคับให้ จักรพรรดิองค์สุดท้ายของโรมันสละบัลลังก์ จุดจบของ จักรวรรดิโรมันตะวันตก
ค.ศ.476 จักรวรรดิโรมันตะวันตกล่มสลายจากการรุกรานของ ชนเผ่าเยอรมัน (Germanic Tribes) จุดสิ้นสุดของ ประวัติศาสตร์โลกยุคโบราณ และเริ่มต้นประวัติศาสตร์ ยุคกลาง -
618
ราชวงศ์ถัง (Tang Dynasty) ยุคทองของวรรณกรรมและศิลปะ
-
618
ยุคราชวงศ์ถัง การแต่งกายมีลักษณะหรูหรามากขึ้น เนื่องจากเป็นยุคที่มีความเจริญรุ่งเรืองทางวัฒนธรรม
การแต่งกายของสตรีจะเน้นชุดคลุมยาวที่มีลวดลายและสีสันที่สดใส -
Period: 618 to 907
ราชวงศ์ถัง (Tang Dynasty) ยุคทองของวรรณกรรมและศิลปะ
การแต่งกายของสตรีจะเน้นชุดคลุมยาวที่มีลวดลายและสีสันที่สดใส -
751
เซลเดอริกที่ 3 (Childeric) กษัตริย์แห่งราชวงศ์เมโรแวงเจียน...
ค.ศ. 751 เซลเดอริกที่ 3 (Childeric III) กษัตริย์แห่งราชวงศ์เมโรแวงเจียน ถูกปลดโดย เปแปงร่างเตี้ย (Papin the short ) -
960
ราชวงศ์ซ่ง (Song Dynasty) การพัฒนาในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
-
960
การแต่งกายในยุคราชวงศ์ซ่งเริ่มเรียบง่ายขึ้นกว่าในสมัยถัง
โดยเน้นการแต่งกายที่สะดวกสบายและเหมาะสมกับการใช้ชีวิตประจำวัน สีสันที่นิยมจะเป็นสีที่อ่อนโยนมากกว่าสีสดใส ชุดชายหญิงจะเป็นเสื้อผ้าที่เน้นความยาวและหลวม แขนเสื้อใหญ่ขึ้น และเริ่มมีการใช้ผ้าพับเป็นชั้น ๆ เพื่อเพิ่มความสวยงาม -
Period: 960 to 1279
ราชวงศ์ซ่ง (Song Dynasty) การพัฒนาในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
-
Period: 960 to 1279
การแต่งกายในยุคราชวงศ์ซ่งเริ่มเรียบง่ายขึ้นกว่าในสมัยถัง
-
1204
การพิชิตคอนสแตนติโนเปิลโดยชาวครูเสดในสงครามครูเสดครั้งที่4
-
1204
การพิชิตคอนสแตนติโนเปิลโดยชาวครูเสนต์ในสงครามครูเสนต์ครั้งที่4
-
1261
การฟื้นฟูจักรวรรดิโรมันตะวันออกหลังจากการพิชิตของครูเสด
-
1271
ราชวงศ์หยวน (Yuan Dynasty) การปกครองของมองโกลและการขยายอาณาจักร
-
1271
ราชวงศ์หยวนซึ่งเป็นชาวมองโกล ทำให้เกิดการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมการแต่งกายของมองโกลกับจีน ชุดแต่งกายมีลักษณะที่ง่ายต่อการเคลื่อนไหว1271
ผู้หญิงจะใส่เสื้อแขนยาวและกระโปรงยาว สวมหมวกคลุมหัวที่ได้รับอิทธิพลจากชาวมองโกล -
Period: 1271 to 1368
ราชวงศ์หยวน (Yuan Dynasty) การปกครองของมองโกลและการขยายอาณาจักร
-
Period: 1271 to 1368
ราชวงศ์หยวนซึ่งเป็นชาวมองโกล ทำให้เกิดการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมการแต่งกายของมองโกลกับจีน ชุดแต่งกายมีลักษณะที่ง่ายต่อการเคลื่อนไหว
-
1368
ราชวงศ์หมิง (Ming Dynasty) การฟื้นฟูวัฒนธรรมจีนและการสร้างกำแพงเมืองจีนที่ปัจจุบัน
-
1368
การแต่งกายในยุคราชวงศ์หมิงกลับไปใช้สไตล์ “ฮั่นฝู
ชุดฮั่นฝูของทั้งชายและหญิงจะมีความยาวและใช้ผ้าหลายชั้น มีการปักลวดลายละเอียดและประณีต ส่วนเสื้อคลุมของขุนนางจะมีลวดลายมังกรและลายอื่น ๆ ที่แสดงถึงฐานะและตำแหน่งทางสังคม -
Period: 1368 to
ราชวงศ์หมิง (Ming Dynasty) การฟื้นฟูวัฒนธรรมจีนและการสร้างกำแพงเมืองจีนที่ปัจจุบัน
-
Period: 1368 to
การแต่งกายในยุคราชวงศ์หมิงกลับไปใช้สไตล์ “ฮั่นฝู
-
1453
การล่มสลายของจักรวรรดิโรมันตะวันออก (ไบแซนไทน์) โดยการพิชิตของจักรวรรดิออตโตมัน
-
ราชวงศ์ชิง (Qing Dynasty) การปกครองของชนชาติแมนจูและการเปิดประเทศให้กับชาติตะวันตก
-
การแต่งกายในราชวงศ์ชิงซึ่งเป็นชาวแมนจู แตกต่างจากฮั่นฝู โดยชุดของชาวแมนจูเรียกว่า "ฉีผาว" (Qipao) หรือ "ฉางพาว" (Changpao)
ลักษณะเป็นชุดยาวติดตัว มีคอสูง แขนยาว และสวมใส่สบาย ชุดของผู้ชายเรียกว่า "ม้ากั๊ว" (Magua) เป็นเสื้อคลุมแขนยาวและกางเกงขาใหญ่ -
Period: to
ราชวงศ์ชิง (Qing Dynasty) การปกครองของชนชาติแมนจูและการเปิดประเทศให้กับชาติตะวันตก
-
Period: to
การแต่งกายในราชวงศ์ชิงซึ่งเป็นชาวแมนจู แตกต่างจากฮั่นฝู โดยชุดของชาวแมนจูเรียกว่า "ฉีผาว" (Qipao) หรือ "ฉางพาว" (Changpao)
-
จักรวรรดิออสเตรีย (ค.ศ. 1804-1867)
-
Period: to
จักรวรรดิออสเตรีย (ค.ศ. 1804-1867)
ในปี ค.ศ. 1804 สองปีก่อนการล่มสลาย ของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ จักรพร รดิฟรานซิสที่ 2 ได้เปลี่ยนแปลงตัวเอง เป็น จักรพรรดิแห่งจักรวรรดิออสเตรีย เพื่อคงรักษาตำแหน่งและอำนาจ เนื่องจากจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ถูก คุกคามจากนโปเลียน ฟรานซิสที่ 2 จึง ยอมสละตำแหน่งจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิ โรมันอันศักดิ์สิทธิ์และก่อตั้งจักรวรรดิ ออสเตรียขึ้นมาแทน -
จักรวรรดิโรมันตะวันตกได้รับการรื้อฟื้นมาใช้เป็นจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ จนอารยธรรมโรมันมาสิ้นสุดลงจริงๆ
-
การปฏิวัติของกรีซเพื่อเอกราชจากจักรวรรดิออตโตมัน
-
Period: to
การปฏิวัติของกรีซเพื่อเอกราชจากจักรวรรดิออตโตมัน
-
การประกาศเอกราชของกรีซและการก่อตั้งอาณาจักรกรีซ
-
การรวมเกาะคีบคลอเนีย, ซาคินทอส, และคีออสเข้าเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรกรีก
-
สงครามบอลข่านครั้งที่หนึ่งและครั้งที่สอง ซึ่งทำให้กรีซขยายดินแดน
ค.ศ.1912 - ค.ศ.1913 -
การล่มสลายของราชวงศ์ชิงและการก่อตั้งสาธารณรัฐจีน
-
Period: to
สงครามบอลข่านครั้งที่หนึ่งและครั้งที่สอง ซึ่งทำให้กรีซขยายดินแดน
-
Period: to
สาธารณรัฐจีน
-
การล่มสลายของราชวงศ์กรีกและการก่อตั้งรัฐบาลสาธารณรัฐ
-
สงครามกรีซ-อิตาลีและการเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่สอง
-
Period: to
สงครามกรีซ-อิตาลีและการเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่สอง
-
สงครามกลางเมืองกรีก
-
Period: to
สงครามกลางเมืองกรีก
-
การก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์
-
การก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์
-
สาธารณรัฐจีน
เมื่อราชวงศ์ชิงล่มสลายและจีนกลายเป็นสาธารณรัฐ การแต่งกายของชาวจีนเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคสมัยใหม่ ชุด “ฉีผาว” ของผู้หญิงเริ่มเปลี่ยนเป็นชุดที่เข้ารูปและสั้นขึ้น ส่วนผู้ชายจะนิยมใส่ชุดที่ได้รับอิทธิพลจากตะวันตกมากขึ้น -
Period: to
สาธารณรัฐประชาชนจีน
หลังจากการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนในปี 1949 ชุดประจำชาติเริ่มลดความสำคัญลงในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะในช่วงการปฏิวัติวัฒนธรรม ชาวจีนส่วนใหญ่หันมาใส่ชุดที่เรียกว่า "ชุดเหมา" (Mao Suit) ซึ่งเป็นชุดเสื้อคอปิด แขนยาว และกางเกงเรียบง่าย ในยุคปัจจุบัน การแต่งกายของชาวจีนมีความหลากหลายและได้รับอิทธิพลจากแฟชั่นตะวันตกมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ชุดฮั่นฝูและฉีผาวก็ยังได้รับการอนุรักษ์และสวมใส่ในงานเทศกาลและพิธีการสำคัญ -
สงครามเกาหลีที่มีบทบาทสำคัญในความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับประเทศอื่น ๆ
-
Period: to
สงครามเกาหลีที่มีบทบาทสำคัญในความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับประเทศอื่น ๆ
-
การปกครองของเผด็จการทหารในกรีก
-
Period: to
การปกครองของเผด็จการทหารในกรีก
-
การเริ่มต้นของการปฏิรูปเศรษฐกิจภายใต้การนำของเติ้งเสี่ยวผิง
-
การเข้าร่วมสหภาพยุโรป
-
การเข้าร่วมในยูโรโซน (ใช้สกุลเงินยูโร)
-
การเข้าร่วมเป็นสมาชิกขององค์การการค้าโลก
-
การจัดโอลิมปิกฤดูร้อนที่กรุงปักกิ่ง
-
การจัดโอลิมปิกฤดูร้อนที่กรุงปักกิ่ง
-
การเกิดวิกฤตหนี้สาธารณะและการรับความช่วยเหลือจากไอเอ็มเอฟและสหภาพยุโรป
-
การเริ่มต้นนโยบาย “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง
-
การลงประชามติเรื่องการปฏิรูปเศรษฐกิจและการเจรจาเกี่ยวกับหนี้สาธารณะ
-
การรับมือกับการระบาดของโควิด-19 และการควบคุมวิกฤตการณ์
-
สาธารณรัฐประชาชนจีน
หลังจากการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนในปี 1949 ชุดประจำชาติเริ่มลดความสำคัญลงในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะในช่วงการปฏิวัติวัฒนธรรม ชาวจีนส่วนใหญ่หันมาใส่ชุดที่เรียกว่า "ชุดเหมา" (Mao Suit) ซึ่งเป็นชุดเสื้อคอปิด แขนยาว และกางเกงเรียบง่าย ในยุคปัจจุบัน การแต่งกายของชาวจีนมีความหลากหลายและได้รับอิทธิพลจากแฟชั่นตะวันตกมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ชุดฮั่นฝูและฉีผาวก็ยังได้รับการอนุรักษ์และสวมใส่ในงานเทศกาลและพิธีการสำคัญ